หวั่นเนื้อสัตว์ขาดแคลน ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เล็งบังคับโรงงานแปรรูปเนื้อเปิดดำเนินการ หลังจากหลายแห่งหยุดกิจการเพราะคนงานติดไวรัสโคโรนา รัสเซียติดเชื้อใกล้ถึงแสนรายแล้ว ส่วนสหรัฐอเมริกาทะลุ 1 ล้านเรียบร้อย ยอดตายมากกว่าสงครามเวียดนาม
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันพุธที่ 29 เมษายน 2563 อ้างคำแถลงของทำเนียบขาวว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เตรียมลงนามคำสั่งของฝ่ายบริหารฉบับใหม่ โดยจะใช้อำนาจภายใต้พระราชบัญญัติการป้องกันประเทศ บังคับให้โรงงานแปรรูปเนื้อสัตว์ ทั้งเนื้อวัว, เนื้อหมู และเนื้อไก่เปิดดำเนินการต่อไป เพื่อรักษาความมั่นคงทางอาหารของประเทศ ขณะเดียวกันโรงงานเหล่านี้ต้องปฏิบัติตามแนวทางของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคติดต่อ (ซีดีซี) อย่างเต็มที่เพื่อสุขอนามัยและความปลอดภัย
โรงงานเชือด แปรรูปและบรรจุภัณฑ์เนื้อสัตว์เหล่านี้กำลังประสบปัญหาแรงงานติดเชื้อไวรัสโคโรนาจำนวนมาก แรงงานในอุตสาหกรรมนี้มักทำงานในพื้นที่จำกัดที่มีความแออัด สหภาพแรงงานอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์เนื้อสัตว์ (ยูเอฟซีดับเบิลยู) เผยว่า มีแรงงานเสียชีวิตเพราะโควิด-19 แล้วอย่างน้อย 20 ราย ป่วยเข้าโรงพยาบาลหรือมีอาการติดเชื้อมากกว่า 5,000 ราย
สัปดาห์ที่แล้วโรงงานไทสันฟูดส์ ยักษ์ใหญ่ด้านบรรจุภัณฑ์เนื้อเพิ่งประกาศปิดโรงงานที่เมืองปาสโก รัฐวอชิงตัน ซึ่งผลิตเนื้อวัวเพียงพอสำหรับลูกค้าวันละ 4 ล้านราย นอกจากนี้โรงงานผลิตเนื้อหมูที่เซาท์ดาโคตาของเครือสมิธฟีลด์ฟูดส์ และโรงงานเชือดวัว 2 แห่งของเจบีเอสก็ประกาศหยุดดำเนินการด้วย
เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา สหรัฐอเมริกามีผู้ติดเชื้อโควิด-19 สะสมเกิน 1 ล้านคนแล้ว โดยข้อมูลล่าสุดของมหาวิทยาลัยจอห์นฮอปกินส์ถึงช่วงค่ำวันพุธ ผู้ติดเชื้อทั่วโลกอยู่ที่ 3,127,519 ราย ในกลุ่มประเทศที่ติดเชื้อเกิน 100,000 ราย สหรัฐอเมริกาติดเชื้อมากที่สุด 1,012,583 ราย, สเปน 232,128 ราย, อิตาลี 201,505 ราย, ฝรั่งเศส 169,053 ราย, สหราชอาณาจักร 162,350 ราย, เยอรมนี 160,059 ราย และตุรกี 114,653 ราย ยอดผู้เสียชีวิตในสหรัฐอเมริกาเพิ่มเป็น 58,365 รายแล้วเมื่อวันอังคาร มากกว่าจำนวนทหารอเมริกันที่สังเวยชีวิตในการสู้รบและเหตุอื่นๆ ระหว่างสงครามเวียดนามยาวนานเกือบ 2 ทศวรรษ โดยข้อมูลจากหอจดหมายเหตุระบุตัวเลขไว้ที่ 58,220 ราย สงครามครั้งนั้นมีทหารเวียดนามและเวียดกงเสียชีวิตรวมกันกว่า 1.2 ล้านคนตามข้อมูลของทางการเวียดนาม และมีพลเรือนสังเวยอีก 2-3 ล้านคน
อิตาลี, สเปน และฝรั่งเศสซึ่งสถานการณ์หนักสุดในยุโรป มีผู้เสียชีวิตประเทศละมากกว่า 23,000 คน แต่ยอดสังเวยรายวันมีแนวโน้มลดลงหรือคงที่ จากยอดผู้เสียชีวิตทั่วโลก 217,674 คน อิตาลีเสียชีวิตมากเป็นอันดับสองที่ 27,359 ราย, สเปน 23,822 ราย, ฝรั่งเศส 23,660 ราย ส่วนสหราชอาณาจักร 21,678 ราย
รัสเซียกลายเป็นประเทศที่สถานการณ์กำลังน่าวิตก เมื่อวันพุธมีผู้ติดเชื้อรายใหม่อีก 5,841 ราย ยอดสะสมใกล้ถึง 100,000 รายแล้ว โดยตัวเลขล่าสุดอยู่ที่ 99,399 ราย มากเป็นอันดับ 8 ของโลก แต่จำนวนผู้เสียชีวิตยังน้อยกว่าประเทศอื่นๆ ในหัวตารางมาก ตัวเลขอย่างเป็นทางการของรัสเซียอยู่ที่ 972 ศพ โดยมีคนไข้โควิด-19 ตายเพิ่มอีก 108 รายในรอบ 24 ชั่วโมง
ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์ ปิดสถานที่สาธารณะเกือบทั้งหมดมาตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคม แม้มาตรการนี้รวมถึงราคาน้ำมันตกต่ำกำลังกระทบเศรษฐกิจ โดยธนาคารกลางรัสเซียทำนายว่าเศรษฐกิจรัสเซียจะหดตัว 4-6% แต่ปูตินยังย้ำระหว่างแถลงต่อประชาชนเมื่อวันอังคารว่า มาตรการล็อกดาวน์ยังต้องใช้ต่อเนื่องไปอีก 2 สัปดาห์ เนื่องจากสถานการณ์ยังยุ่งยากมากและการแพร่ระบาดในประเทศยังไม่ถึงจุดสูงสุด
ในวันพุธ นายกฯ มิคาอิล มิชุสติน ของรัสเซีย ยังประกาศขยายเวลาห้ามชาวต่างชาติเข้าประเทศซึ่งครบกำหนดวันพุธนี้ออกไปอีก จนกว่าจะควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสได้
สถานการณ์ของประเทศในกลุ่มอาเซียนที่ยังมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ กระทรวงสาธารณสุขสิงคโปร์แถลงเมื่อวันพุธว่า มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มอีก 690 ราย มีเพียง 6 รายที่เป็นชาวสิงคโปร์หรือผู้มีถิ่นพำนักถาวร ที่เหลือเป็นแรงงานข้ามชาติ โดยยอดผู้ติดเชื้อสะสมในประเทศเพิ่มเป็น 15,641 ราย ผู้เสียชีวิต 14 รายเท่ากับวันก่อนหน้านี้
ส่วนอินโดนีเซียรายงานว่า มีผู้ติดเชื้อรายใหม่อีก 260 คน ยอดรวมเพิ่มเป็น 9,771 คน เสียชีวิตเพิ่ม 11 คน ยอดเสียชีวิตเพิ่มเป็น 784 คน มีผู้ป่วยหายแล้ว 1,391 คน โดยอินโดนีเซียตรวจเชื้อแล้วมากกว่า 67,700 คน ฟิลิปปินส์มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 254 คน ยอดรวมเป็น 8,212 คน เสียชีวิตเพิ่ม 28 คน ยอดเสียชีวิตเพิ่มเป็น 558 คน และมาเลเซียติดเชื้อเพิ่มอีก 94 คน ยอดรวมเป็น 5,945 คน ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม ยอดคงเดิมที่ 100 ศพ.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |