ช่วงนี้ใกล้เข้าสู่เทศกาลสงกรานต์หลายท่านต้องขับรถขึ้นสู่ภาคเหนือ หรือ ขับรถจากภาคเหนือมุ่งหน้าเข้ากรุงเทพฯที่อาจต้องใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 11 วังทอง-สากเหล็ก-เขาทราย เมื่อถึง อ.สากเหล็ก จ.พิจิตร ซึ่งถือได้ว่าเป็นระยะครึ่งทางระหว่าง เชียงใหม่-กรุงเทพฯ อาจเป็นช่วงเริ่มหิวข้าวพอดี

วันนี้จึงขอแนะนำร้าน “ลาบเป็ดชาละวัน” ตั้งอยู่เลขที่ 117 บ้านถ้ำคะนอง ต.สากเหล็ก อ.สากเหล็ก จ.พิจิตร ฟังชื่อร้านและที่ตั้งอาจจะดูว่าอยู่บ้านนอก แต่แท้ที่จริงแล้วหาไม่ยาก เพราะร้านนี้เมื่อท่านขับรถบนทางหลวงหมายเลข 11 ใกล้กับโรงเรียนสากเหล็กวิทยา ก็จะมีถนนลาดยางเป็นทางหลวงชนบท แยกจากทางหลวงหมายเลข 11 ชื่อถนน พจ.2013 สากเหล็ก-วังทับไทร ซึ่งเป็นพื้นที่ปลูกมะม่วงแปลงใหญ่ ถามใครก็รู้จัก เลี้ยวเข้าไปประมาณ 100 เมตร จะพบร้าน “ลาบเป็ดชาละวัน” ตั้งอยู่ติดริมถนน

สภาพร้านเป็นแบบเรียบง่ายขายอยู่บริเวณเชิงชายคาหน้าบ้าน มีรถของลูกค้าจอดใช้บริการเยอะแยะเต็มไปหมด ร้านนี้สามารถรองรับลูกค้าได้ 70-80 คน ได้อย่างสบาย บรรยากาศร่มรื่นลมโชยเย็นสบายแบบร้านอาหารตามสไตล์ชนบทเนื่องจากพ่อครัว-แม่ครัว มีฝีมือการปรุงอาหารรสแซบและอาหารส่วนใหญ่ก็เรียกได้ว่าถูกปากถูกใจนักท่องเที่ยว นักชิม รวมถึงเป็นร้านประจำขวัญใจทั้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และสมาชิกอบต.

เจ้าของร้านลาบเป็ดชาละวัน คือ คุณวสันต์ เสงี่ยมวิไล หรือ พี่พล อายุ 53 ปี เล่าว่า เคยทำร้านอาหารอยู่ในต่างจังหวัดมาหลายแห่งมีประสบการณ์มากแต่ถึงเวลาก็อยากกลับบ้านเกิดมาดูแลแม่ที่บ้านถ้ำคะนอง จึงปรับปรุงบ้านเป็นร้านอาหารเปิดมาได้ 8 ปีแล้ว

ส่วนเคล็ดลับการทำอาหารก็เนื่องจากตนเองเป็นนักดื่มนักชิมของอร่อย แล้วอาศัยครูพักลักจำนำมาปรับปรุงพัฒนาต่อยอดให้เป็นสูตรเฉพาะของตนเอง ลองผิดลองถูกตามที่ลูกค้าติชม จนในที่สุดก็ค้นพบว่า คนไทยชอบอาหารป่า รสจัด รสแซบ ราคาต้องไม่แพง จึงตัดสินใจเปิดร้านลาบเป็ดชาละวัน มีเมนูหลากหลายกว่า 100 เมนู

เมนูที่ใครมาก็ต้องสั่ง เช่น ลาบเป็ด ลาบจระเข้ ลาบเนื้อแพะ เนื้อกวาง เนื้อจระเข้แดดเดียว เมนูปิ้งย่าง ลิ้นย่าง เนื้อย่าง เสือร้องไห้ แป้นนมย่าง กบ-ปลาไหล ผัดเผ็ด ที่ขาดไม่ได้คือ ส้มตำ อาหารจากเมนูหลากหลายนี้ราคาเริ่มต้นที่ 60-120 บาท เท่านั้น

คุณวสันต์ บอกเคล็ดลับว่า อาหารทุกอย่างต้องปรุงสดโดยเฉพาะของปิ้งย่างจะไม่ย่างใส่ตู้เย็นแล้วเอามาเข้าไมโครเวฟให้ลูกค้ากิน เนื่องจากความหอมนุ่มจะไม่ได้อรรถรสที่เป็นธรรมชาติ ส่วนประเภทผัดเผ็ดพริกขี้หนู เครื่องเทศเครื่องแกง ก็ต้องโขลกวันต่อวัน เมื่อนำลงกระทะก็จะมีรสชาติอร่อย กลิ่นหอมกรุ่น ซึ่งเป็นเสน่ห์ของอาหารไทยอาหารป่ารสแซบ

ส่วนที่ว่า อาหารป่าประเภทเนื้อจระเข้เนื้อกวางนั้น ก็ซื้อมาจากฟาร์มใส่แพ็คมาขายถูกต้องตามกฎหมาย ไม่ได้ไปล่าในป่า ส่วนกบ นก ตะพาบ หนูนา ก็มีขายอยู่ในท้องถิ่น พืชผักเครื่องปรุง พริก มะกรูด มะนาว ก็ปลูกข้างรั้วบ้าน จึงทำให้ไม่มีต้นทุนเรื่องค่าเช่าบ้าน ส่วนแรงงานก็มี 5 ชีวิต เป็นคนในครอบครัว ช่วยกันทำช่วยกันขาย ช่วยกันเสิร์ฟ จึงทำให้ร้านลาบเป็ดชาละวัน สามารถขายอาหารได้ในราคาถูก เพราะหวังว่าให้ลูกค้าเข้าร้านเยอะๆ ได้กินอาหารอร่อยราคาถูก แม้จะได้กำไรน้อย ลูกค้าอยู่ได้ คนขายอยู่ได้ เพียงเท่านี้ก็เป็นความสุขของคนทำร้านอาหารแล้ว

ร้านลาบเป็ดชาละวัน เปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่เวลา 09.00-18.00 น. สนใจชิม สำรองจองโต๊ะหรือสอบถามเส้นทางโทร 082-833-1664 , 089-860-6378