โดนแล้ว! สั่งเด้งผู้การนครบาล 4 เข้ากรุ เซ่นจับบ่อนบางชันเปิดเย้ย พ.ร.ก.ฉุกเฉิน รองโฆษก ตร. เผยตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง "ร.ต.ท." ตั้งวงก๊งเหล้าฝ่าฝืนเคอร์ฟิว หากผิดจริงจะดำเนินการทั้งอาญาและวินัยอย่างเด็ดขาด
    เมื่อวันที่ 28 เมษายน ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) ได้มีคำสั่ง บช.น.ที่ 197/2563 ลง 27 เมษายน 2563 เรื่อง ให้ข้าราชการตำรวจปฏิบัติหน้าที่และรักษาราชการแทน โดยให้ พล.ต.ต.ธีระพงษ์ วงษ์รัฐพิทักษ์ ผบก.น.4 ปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการ กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ศปก.น.) เพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามที่ ผบช.น.มอบหมาย จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง และให้ พล.ต.ต.สมประสงค์ เย็นท้วม รอง ผบช.น. รักษาราชการแทน ผบก.น.4 อีกหน้าที่หนึ่ง
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 22 เม.ย. มีการจับกุมลักลอบเล่นพนัน (เสือ มังกร) ผู้ต้องหา 47 คน ภายในห้องโถงโต๊ะสนุกเกอร์ ปลายซอยระหว่างรามคำแหง 148-150 เขตสะพานสูง พร้อมด้วยของกลาง ไพ่กระดาษ แผ่นชิพ โต๊ะสำหรับเล่นการพนัน คอมพิวเตอร์สำหรับแจ้งสถิติผลการพนัน เงินสด 4 หมื่นบาท โดยเป็นการกระทำความผิดข้อหา  "ลักลอบเล่นการพนันโดยผิดกฎหมาย และฝ่าฝืนข้อห้ามตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน" เนื่องจากร้านสนุกเกอร์เป็นสถานที่ที่ทางกรุงเทพมหานครประกาศสั่งปิดชั่วคราว แต่กลับมีการลักลอบเล่นกันเป็นจำนวนมาก
    ก่อนหน้านี้ ผบช.น.ได้มีการสั่งย้าย 5 เสือ สน.บางชัน ไปปฏิบัติราชการที่ ศปก.น. จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง
    วันเดียวกัน พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีตามที่สื่อสังคมออนไลน์ได้นำเสนอข่าวเกี่ยวกับตำรวจตั้งวงก๊งเหล้ากับเพื่อนฝ่าฝืนเคอร์ฟิว และเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันอย่างแพร่หลาย ว่าจากการตรวจสอบพบว่าตำรวจที่เป็นประเด็นในคลิปวิดีโอนั้น เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจยศ "ร.ต.ท." สังกัดฝ่ายรับเรื่องราวร้องทุกข์ บก.อก. สำนักงานจเรตำรวจ โดยขณะนี้ต้นสังกัดที่เกี่ยวข้องได้มีคำสั่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว
    รองโฆษก ตร. กล่าวอีกว่า คงต้องให้เวลาต้นสังกัดที่เกี่ยวข้องในการสืบสวนตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น และดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป ทั้งนี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้เน้นย้ำให้การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องอยู่ภายใต้กรอบของกฎหมาย ระเบียบ คำสั่ง และข้อบังคับที่กำหนด อย่างเคร่งครัด หากผลการตรวจสอบพบว่ามีการกระทำความผิดจริง จะดำเนินการทั้งทางอาญาและวินัยอย่างเด็ดขาดไม่มีละเว้น ไม่มีการให้ความช่วยเหลือ ว่ากันไปตาม ข้อเท็จจริงพยานหลักฐานที่ปรากฏ.