'บิ๊กตู่'เผยต่ออายุพรก.ฉุกเฉินอีก 1 เดือน ผ่อนปรน 4 ระยะๆละ 14 วัน โปรดรอฟังรายละเอียดอีกครั้งหนึ่ง


เพิ่มเพื่อน    

28 เม.ย.63-  พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม แถลงภายหลังการประชุคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า อยากเรียนประชาชน วันนี้รัฐบาลไม่ได้ทำแต่เรื่องโควิด-19 อย่างเดียว จำเป็นต้องดูแลเรื่องเศรษฐกิจต่างๆ เครื่องจักร เครื่องยนต์ ขับเคลื่อนประเทศไปด้วยในเวลาเดียวกัน ซึ่งมีหลายส่วนงานด้วย ใช้งบประมาณปกติของงบประมาณปี 63 เตรียมแผนการใช้งบประมาณปี 64 เพื่อให้สอดคล้องในการใช้เงินกู้ในการเยียวสถานการณ์โควิด-19 

นายกฯกล่าวว่า วันนี้รัฐบาลจำเป็นต้องต่ออายุพ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ต่อไปอีก 1 เดือนคือตั้งแต่ 1 พ.ค.เป็นต้นไป ส่วนข้อกำหนดต่างๆยังคงสภาพเดิมอยู่ ในการเคลื่อนย้าย ในการควบคุมการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 อีกส่วนจะมีมาตรการผ่อนคลายปลดล็อกกิจกรรมต่างๆ ซึ่งขณะนี้มีคณะกรรมการศึกษาทำรายละเอียดในเรื่องเหล่านี้ว่ามีกิจกรรมใดที่ควรจะผ่อนปรนบ้างในตอนนี้และระยะต่อไป ขอให้ทุกคนรอฟังการแถลงอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งคณะกรรมการชุดนี้มีหลายภาคส่วนเป็นส่วนร่วม ทั้งภาครัฐ เอกชน ธุรกิจ และในส่วนของกระทรวงมหาดไทย ที่เกี่ยวข้องกับพี่น้องประชาชนส่วนใหญ่ 

ทั้งนี้ รายละเอียดต่างๆรอฟังการแถลงข่าวสัปดาห์นี้ว่าจะมีผลอะไรออกมาบ้าง ซึ่งตนได้มอบนโยบายให้คณะกรรมการพิจารณาว่าต้องเอากิจการที่มีทั้งหมดในพื้นที่กรุงเทพฯและต่างจังหวัดมาดู โดยขณะนี้หลายมาตรการได้กำหนดลงไปในหลายจังหวัดแล้ว ส่วนมาตรฐานกลางก็มีข้อกำหนดลงไป ในช่วงที่ผ่านมาก็มีความเดือดร้อนในเรื่องของรายได้ และชีวิตความเป็นอยู่โดยสมควร 

นายกฯกล่าวว่า ทั้งนี้ การผ่อนปรนมาตรการต่างๆโดยเอากิจกรรมทั้งหมดมารวมกันแล้วคิดว่า 100 เปอร์เซ็นต์มีอะไรอยู่บ้าง แล้วเอามาแบ่งเป็น 4 ระยะ คือระยะที่ 1 ระยะที่ 2 ระยะที่ 3 และระยะที่ 4 ซึ่งแต่ละระยะจะห่างกัน 14 วัน เพื่อประเมินว่าหลังผ่อนปรนไปแล้วมีการแพร่ระบาดอะไรหรือไม่ หรือจำเป็นต้องปิดอีกหรือเปล่า ตรงนี้เราจะประกาศเมื่อถึงเวลา ว่าอะไรจะผ่อนคลายในระยะที่ 1 บ้าง อย่างไรก็ตามตนคำนึงถึงผู้มีรายได้น้อย ท่านก็ต้องร่วมมือกับรัฐบาลด้วย ในส่วนของมาตรการที่ออกมาขั้นต้น ท่านก็ต้องมีมาตรการเสริมของท่านเอง ไม่ว่าจะเป็นท้องที่ ท้องถิ่น ผู้ประกอบการ ทั้งรายใหญ่ รายเล็ก ขอเห็นใจรัฐบาลบ้าง เราต้องคำนึงถึงเรื่องความปลอดภัยชีวิตประชาชนเป็นหลักด้วย สถานการณ์ด้านสาธารณสุขก็มีความสำคัญอยู่ 

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า อย่างไรก็ตามอะไรที่สามารถผ่อนคลายได้ก็ผ่อนคลายไป แต่หากผ่อนคลายไปแล้วหากมีการแพร่ระบาดอีกก็จำเป็นต้องปิดอีก ตนไม่อยากให้ย้อนกลับไปจุดนั้น อยากขอความร่วมมือในระยะที่ 1 ขอให้ทุกคนทำให้ดีที่สุด ซึ่งเราได้แบ่งไว้เป็น สีขาว สีเขียว สีเหลืองและสีแดง ต้องเป็นตามระยะเวลาที่ 14 วัน เพื่อดำเนินการตรวจสอบก่อน ก็ต้องขอความร่วมมือจากสถานประกอบการต่างๆ ก็ขอให้ใจเย็นนิดนึง ไหนๆท่านก็อดทนกับตนมาแล้ว ตนก็เจ็บปวดไปกับท่านนั้นแหล่ะ ตนเข้ามาเพื่อทำงานตรงนี้เพื่อดูแลประชาชน ซึ่งวันนี้สถานการณ์กดดันเราเข้ามามากมายหลายประการด้วยกัน และไม่ใช่เฉพาะประเทศไทย ประเทศเดียว ทั้งภูมิภาคทั้งโลกเดือดร้อนเรื่องโควิด-19 กันหมด

นายกฯกล่าวว่า ช่วงนี้ขออย่าละเมิดพ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพราะเป็นสิ่งที่ทำให้เราปลอดภัยมาจนถึงวันนี้ จนได้รับการชื่นชมจากต่างประเทศหลายประเทศด้วยกันในเรื่องการดูแล ไม่ได้มีอะไรปิดบังทั้งสิ้นทุกอย่างเป็นไปตามข้อมูลข้อเท็จจริงที่มีอยู่ วันหน้าจะต้องเพิ่มการตรวจประชาชนกลุ่มเสี่ยงให้มากยิ่งขึ้น วันนี้หลายแสนคนอยู่ เทียบเป็นเปอร์เซ็นต์แล้วใกล้เคียงกับประเทศที่พัฒนาแล้วที่เขาแก้ปัญหาโควิด-19 ได้เป็นอย่างดี เราต้องศึกษาเรื่องเหล่านี้ ถ้าเรามัวแต่ติติงกันไปมากๆโน่นนี่แสดงความคิดเห็นกัน บางทีไม่เป็นประโยชน์เลย ขัดแย้งไปทั้งหมดทำให้การแก้ปัญหาไปไม่ได้ ประเทศชาติก็เดินหน้าไม่ได้ ตนขอแค่ความร่วมมือความเข้าใจ อย่ามองในทางที่ผิดไปทั้งหมด เพราะเราพยายามทำในสิ่งที่ถูกต้องตลอดเวลาที่ผ่านมา

นายกฯ กล่าวว่า สำหรับการบังคับใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน 1 เดือน มาตรการการจำกัดการเข้า-ออกในราชอาณาจักรทางบก น้ำ และอากาศ ครม.ก็มีมติให้ขยายไปจนถึงวันที่ 31 พ.ค. เช่นกัน ซึ่งวันนี้เครื่องบินโดยสารต่างๆก็หยุดบิน ต่างประเทศก็ไม่ได้บินเข้ามา ยกเว้นในเรื่องของการขนส่งสินค้า หรือการบริการรับ-ส่งในการนำคนไทยกลับเข้าประเทศ สำหรับการประกาศเคอร์ฟิว ก็ยังคงเวลาเดิมคือระหว่างช่วงเวลา 22.00 -04.00 น. การงดหรือการชะลอข้ามพื้นที่จังหวัดก็ยังคงมีอยู่ก็ขอฝากเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงและเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นดูแล เพื่อลดการแพร่ระบาด จะได้มีการควบคุมและตรวจสอบได้ 

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า สิ่งที่มีความเป็นห่วงอีกประเด็นหนึ่งคือเมื่อเราคลายการปลดล็อคไปแล้ว ก็ขอให้ประชาชนระมัดระวังการเข้าไปในพื้นที่ที่มีกิจกรรมแออัดมากๆ ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมทางศาสนาหรือกิจกรรมใดๆ ก็ตามต้องระมัดระวังตัวเองทั้งหมด ก็เพื่อตัวของพวกท่านเองและครอบครัว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวย้ำว่า สำหรับมาตรการผ่อนปรนเรา จะทำเป็นระยะๆแบบค่อยเป็นค่อยไป จะพิจารณากิจกรรมที่จำเป็นเสี่ยงน้อยก่อน และจะต้องมีมาตรการคู่มือ การตรวจสอบประเมินผล การตรวจสอบด้านการสาธารณสุข ในกลุ่มเสี่ยงต่างๆ ดังนั้นสถานประกอบการก็ต้องเตรียมการในส่วนของตัวเองให้พร้อม ซึ่งจะต้องมีการหารือร่วมกันอีกครั้งจากมาตรการที่รัฐได้ออกไปตรงกลางแล้ว ทุกคนสามารถเพิ่มเติมในส่วนของตัวเองได้เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นว่าสถานที่ของท่านปลอดจากโควิด-19 เจ้าหน้าที่ พนักงานต่างๆ จำเป็นต้องได้รับการตรวจโรค จะต้องทำให้คนเกิดความไว้วางใจในการที่จะเข้าไปยังสถานที่นั้นๆ อย่างไรก็ตามหากมีการคลายล็อคก็จะมีการแจ้งให้ทราบในเร็วๆนี้ และเมื่อถึงเวลาที่จะปลดล็อคก็จะประกาศให้ทราบ

“ วันนี้ขอร้องทุกคนอย่าเรียกร้องมากนัก วันนี้ขอให้เอาส่วนของตรงกลางมาพิจารณาในนโยบายก่อน ในส่วนของแนวปฏิบัตินั้นก็ต้องฟังจากท้องถิ่นและพื้นที่ด้วย โดยเฉพาะจากกระทรวงมหาดไทยซึ่งเป็นผู้ที่ใกล้ชิดกับประชาชนมากที่สุด อย่างไรก็ตามเราต้องระมัดระวังการแพร่ระบาดที่อาจจะกลับมาทำให้ทุกอย่างที่ทำไปนั้นเสียเปล่าโดยสิ้นเชิง ผมไม่ต้องการให้ย้อนกลับไปเหมือนกัน” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

นายกฯ กล่าวด้วยว่า ในส่วนของวันหยุดราชการในเดือนพ.ค. ซึ่งเดิมที่ประชุม ศบค.เสนอให้เป็นวันทำงานนั้น มติ ครม.วันเดียวกันนี้ได้มีการพิจารณาและเห็นชอบให้ถือเป็นวันหยุดราชการเช่นเดิม รวมทั้งวันหยุดของรัฐวิสาหกิจ หรือแรงงานก็ขอให้ยึดหลักตามเดิม เพียงแต่จะต้องมีมาตรการป้องกัน มาตรการการเว้นระยะห่างทางสังคม หรือ Social Distancing จำเป็นต้องทำอย่างเข้มงวดในหลายมาตรการที่ปลดล็อคไปแล้ว จำเป็นต้องดูแลให้ดีที่สุด. 
 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"