โฆษก ตร.เผย "บิ๊กแป๊ะ" รับไม่ได้ ต้องดำเนินการให้ถึงที่สุด กรณี “พ.ต.ต.” ยักยอกเงินฌาปนกิจวัดตรีทศเทพ จ่อสอบวินัยโทษถึงไล่ออก

    เมื่อวันที่ 27 เมษายน ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงการดำเนินคดีกับ พ.ต.ต.ธีร์ธดลว์ พันธ์สนิท สว.ฝ่ายการฌาปนกิจสงเคราะห์ ยักยอกเงินฌาปนกิจตำรวจหน่วยอรินทราช 26 ที่เสียชีวิตจากเหตุกราดยิงที่โคราช ซึ่งจัดขึ้นที่วัดตรีทศเทพ และยักยอกเงินค่าสังฆภัณฑ์ ดอกไม้ อาหาร พวงหรีด โลงศพของร้านผู้ประกอบการ ว่า เบื้องต้นมีการดำเนินการ 2 ส่วนคือดำเนินการทางวินัยและทางอาญา ซึ่งการดำเนินการทางวินัยได้มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวน ชั้นต้นพบว่ามีมูลในการกระทำความผิดตามที่ถูกกล่าวหาจริง ต่อจากนี้จะมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง ถ้ามีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงก็จะมีการพิจารณาในส่วนของการให้ออกไว้ก่อน ปลดออก หรือไล่ออก
    ส่วนทางอาญา เป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวน สน.ชนะสงคราม รวบรวมพยานหลักฐานพิสูจน์ทราบความผิด เบื้องต้นแยกเป็น 2 ส่วน ส่วนที่ 1.คือ พ.ต.ต.ธีร์ธดลว์ไม่นำเงินส่งหลวง ส่วนที่ 2.ไปสั่งของเพื่อใช้ในงานศพทั้งดอกไม้ น้ำ และอื่นๆ แต่ถึงเวลาไม่ยอมนำเงินไปชำระ เป็นความบกพร่องต่อการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งส่วนนี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้กำชับมาตลอดเรื่องของการปฏิบัติหน้าที่ต้องโปร่งใส ตำรวจไม่ควรจะไปทำผิดเสียเอง โดยเฉพาะเป็นเงินที่เกี่ยวข้องกับฌาปนกิจ โดยเงินไม่ใช่เฉพาะเงินฌาปนกิจของตำรวจที่เสียชีวิตที่โคราช แต่เงินที่เก็บมาจากฌาปนกิจต้องนำส่งหลวง แต่กลับเบียดบังมาเป็นของส่วนตัว แค่ไม่จ่ายตังค์ให้กับห้างร้านตรงเวลาหรือจ่ายไม่ครบแค่นี้ก็บกพร่องต่อหน้าที่แล้ว
    โดยหน้าที่ของ พ.ต.ต.ธีร์ธดลว์ มีหน้าที่ในการติดต่อสิ่งของที่จะต้องใช้ในงานศพ การบริหารของคณะสงฆ์และค่าธรรมเนียมที่ได้มาเพื่อใช้ในส่วนของวัดและกองสวัสดิการเงินหลวง เมื่อเข้าหลวงมาแล้วจะมีคณะกรรมการตรวจสอบนำไปใช้ ส่วนจะทำมานานแค่ไหนอยู่ระหว่างตรวจสอบ ภายใน 1-2 วันจะมีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบร้ายแรง ต่อจากนั้นก็จะเป็นการลงทัณฑ์ มีทั้งปลดออก ให้ออก ไล่ออก ส่วนเงินที่เสียหายไปของกองสวัสดิการเบื้องต้นทราบว่าประมาณ 600,000 บาท แต่ส่วนของภาคเอกชนน่าจะหลักหมื่นหลายราย เมื่อมีการใช้อำนาจหน้าที่ตำแหน่งที่ไม่ชอบไปแล้วก็ต้องดำเนินการอย่างเด็ดขาด ที่ชัดเจนคือเงินหลวงที่จะต้องนำเข้าสู่การบริหารจัดการในการดูแลสวัสดิการของการฌาปนกิจ ตำรวจทุกคนรู้อยู่แล้ว สมาชิกทุกคนต้องถูกหักเอาไว้ เมื่อมีศพมาเผาก็ต้องจัดเก็บเข้ากองกลาง
    ที่ผ่านมา พล.ต.อ.จักรทิพย์ ผบ.ตร. มีคำสั่งชัดเจนให้สอดส่องดูแลผู้ใต้บังคับบัญชาทั้งเรื่องส่วนตัวและส่วนรวม แต่การมาหากินในลักษณะแบบนี้มันรับไม่ได้ ต้องดำเนินการให้ถึงที่สุด เบื้องต้นเป็นความผิดส่วนตัว เป็นจิตสำนึกส่วนตัว เพราะถึงแม้จะมีการวางระบบอย่างไร แต่ถ้าคนจะทุจริตก็พยายามหาทางทุจริตอยู่ดี.