27 เม.ย. 63 - เพจเฟซบุ๊กเครือข่ายเตือนภัยสารเคมีกำจัดศัตรูพืช (Thai-PAN) โพสต์ข้อความว่า "ในขณะทั่วโลกทยอยแบนพาราควอตแล้ว 59 ประเทศ และอียูประกาศแบนคลอร์ไพริฟอสอย่างสิ้นเชิงตั้งแต่ 1 กุมภาพันธ์ 2563 เป็นต้นมา แต่สภาหอการค้าแห่งประเทศไทยกลับกลืนน้ำลายตนเองที่แถลงสนับสนุนการแบน 3 สารพิษเมื่อปลายปีที่ผ่านมา เสนอให้เลื่อนการแบนพาราควอต และคลอร์ไพริฟอสออกไปเป็นสิ้นปี 2563 แทน
ทั้งนี้จดหมายของนายกลินท์ สารสิน ประธานกรรมการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ซึ่งทำหนังสือลงวันที่ 20 เมษายน 2563 ถึง นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม อ้างเหตุผลว่า "จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 (COVID-19) ส่งผลกระทบเป็นวงกว้างกับภาคธุรกิจ และระบบเศรษฐกิจของประเทศ และความมั่นคงทางอาหารของโลก (Food Security) เนื่องจาก สารดังกล่าวใช้ในการเพาะปลูกพืชที่เป็นวัตถุดิบ สำหรับการแปรรูปทั้งอาหารคนและอาหารสัตว์ อาทิ ถั่วเหลือง ข้าวสาลีและแป้งข้าวสาลี กาแฟ โกโก้" และ "หากไม่ได้รับการพิจารณาขยายระยะเวลาการบังคับใช้ อาจส่งผลกระทบต่อการนำสินค้าขาเข้าจากต่างประเทศ ที่ต้องมีค่ากำหนดสารตกค้างจากสารเคมีดังกล่าวเป็นศูนย์ (Zero Tolerance) จนทำให้ขาด แคลนวัตถุดิบในการผลิต และเกิดวิกฤตขาดแคลนอาหารทั้งในประเทศ และเพื่อการส่งออก อันจะยิ่งซ้ำเติม ระบบเศรษฐกิจไทยและมีผลต่อการดำรงชีวิตของประชาชนในช่วงวิกฤตนี้"
การอ้างน้ำขุ่นๆ ดังกล่าวขัดแย้งกับจดหมายของนายกลินท์ ที่ยืนยันให้มีการแบนทั้งพาราควอต คลอร์ไพริฟอส และไกลโฟเซต เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2562 ที่ผ่านมา ซึ่งในครั้งนั้นนายกลินท์ เพียงแต่ขอให้รัฐบาลผ่อนปรนในการอนุญาตให้มีการนำเข้าวัตถุดิบโดยอนุญาตให้มีไกลโฟเซตตกค้างตามมาตรฐานของ CODEX เท่านั้น
ข้ออ้างเรื่องการแบนพาราควอตและคลอร์ไพริฟอสแล้วจะส่งผลกระทบต่อการนำเข้าวัตถุดิบของนายกลินท์ฟังไม่ขึ้น เนื่องจากหลายประเทศทั่วโลกแบนพาราควอตมากว่าทศวรรษ และอียูประกาศแบนคลอร์ไพริฟอสตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยไม่มีประเทศใดอ้างปัญหาการตกค้างจนส่งผลกระทบต่อการผลิต/อุตสาหกรรมใดๆเลย แม้กระทั่งจดหมายของสหรัฐเมื่อปลายปีที่แล้ว ที่ส่งมายังนายสุริยะ คัดค้านการแบนไกลโฟเซต แต่ก็ไม่ได้คัดค้านการแบนและอ้างการตกค้างของพาราควอตและคลอร์ไพริฟอสแต่ประการใด
น่าติดตามว่านายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ในฐานะประธานคณะกรรมการวัตถุอันตรายจะมีบทบาทอย่างไร หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้แสดงบทบาทหัวหอกรับลูกข้อเสนอของสหรัฐอเมริกา และบริษัทค้าสารพิษ ดำเนินการให้มีการประชุมคณะกรรมการวัตถุอันตราย กลับมติของคณะกรรมการวัตถุอันตราย ยกเลิกการแบนไกลโฟเซต และเลื่อนการแบนพาราควอต และคลอร์ไพริฟอส ซึ่งเดิมกำหนดให้มีผลในวันที่ 31 ธันวาคม 2562 เป็นวันที่ 1 มิถุนายน 2563 แทน
อนึ่ง มีความเป็นไปได้ว่าในการประชุมคณะกรรมการวัตถุอันตรายในวันที่ 30 เมษายนนี้ คณะกรรมการวัตถุอันตรายอาจพิจารณากดดันให้กรมวิชาการเกษตร ที่มีนางมนัญญา ไทยเศรษฐ์ เป็นผู้กำกับดูแล ผลักดันให้มีการตั้งอนุกรรมการ เพื่อเปิดทางอนุญาตให้มีการนำเข้าสารพิษทั้ง 3 ชนิดได้แก่ พาราควอต คลอร์ไพริฟอส และไกลโฟเซต เข้ามาในประเทศอีกครั้ง หลังจากนางมนัญญาได้มีคำสั่งยกเลิกการนำเข้ามาตั้งแต่กลางปี 2562 ที่ผ่านมา
ในขณะที่โลกกำลังต่อต้านสารพิษที่มีฤทธิ์เฉียบพลันสูงและก่อโรคพาร์กินสันอย่างพาราควอต และสารพิษที่มีผลกระทบทำลายสมองเด็กโดยถาวรอย่างคลอร์ไพริฟอส
ในขณะที่ประเทศกำลังเผชิญวิกฤตจากไวรัสระบาดซึ่งส่งผลกระทบต่อสุขภาพและเศรษฐกิจ
ในขณะที่คนจำนวนมาก เห็นว่าหลังวิกฤตโควิด-19 ประเทศต้องทบทวนการผลิตพืชอุตสาหกรรมเชิงเดี่ยวที่ใช้สารเคมีร้ายแรง มาเป็นเกษตรกรรมผสมผสาน ลดการใช้สารเคมี และลดต้นทุนการผลิต ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยและความมั่นคงทางอาหารมากยิ่งขึ้น
แต่กลุ่มอุตสาหกรรม บริษัทสารพิษ และนักการเมืองบางคนบางกลุ่ม กำลังสมคบคิดกันยืดเวลาการแบนสารพิษร้ายแรงออกไป ซ้ำเติมปัญหาสุขภาพของประชาชนให้เลวร้ายลงไปอีก หรือไม่ ?
โปรดจับตาการประชุม คณะกรรมการวัตถุอันตราย วันที่ 30 เมษายนนี้ !".
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |