"ฮีโร่" ถุงพลาสติกรักษ์โลก นวัตกรรมเซอร์คูลาร์อีโคโนมี


เพิ่มเพื่อน    

 

"อีอีซีที่กำลังจะเกิด ซึ่งถือว่าอยู่ในจุดที่เป็นเมืองท่องเที่ยว โดยจะต้องคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมเป็นหลัก ซึ่งหากเกิดการพัฒนาพื้นที่มากขึ้น ก็จะทำให้มีคนเข้ามาในพื้นที่ดังกล่าวเยอะขึ้น หากคนในพื้นที่หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่มีความเข้าใจในการกำจัดขยะ หรือไม่มีรูปแบบการกำจัดที่ดีพอ ปัญหาขยะก็จะเป็นหนึ่งในปัญหาหลักที่เกิดขึ้นได้ในพื้นที่ และจะส่งผลให้ไม่ต่างจากหัวเมืองใหญ่ๆ ที่เป็นอยู่ รวมถึงการขยายตัวของภาคอุตสาหกรรม ก็จะทำให้เกิดขยะที่จะต้องทิ้งมากขึ้นด้วย โดยเราจะต้องร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐในพื้นที่เพื่อจะเข้าไปสร้างระบบการจัดการนี้เพื่อรองรับการขยายตัวในอนาคต"

 

 

 

      จากสถานการณ์ปัจจุบันในประเทศไทยที่เริ่มรณรงค์การงดใช้ถุงพลาสติกที่ใช้แล้วทิ้ง โดนออกมาเป็นข้อบังคับให้กับร้านค้า ร้านสะดวกซื้อ หรือห้างสรรพสินค้าในประเทศนั้นงดการแจกถึงพลาสติกและให้นำถุงเดิมไม่ว่าจะชนิดใดของผู้บริโภคมาใส่สินค้านั้นๆ ไปเอง ซึ่งการออกนโยบายดังกล่าวก็มีหลายฝ่ายที่ออกมาเห็นด้วย และอีกหลายฝ่ายไม่เห็นด้วย เนื่องจากมองว่าไม่ใช่การแก้ปัญหาที่ตรงจุด แต่อย่างไรก็ตาม นโยบายดังกล่าวดำเนินมาได้อย่างต่อเนื่องจะเข้าสู่เดือนที่ 4 แล้ว

        ซึ่งที่ผ่านมาผู้บริโภคเองอาจจะมองว่าเป็นความยุ่งยาก และถือว่าเป็นการผลักภาระมาบ้าง แต่ก็ใช่ว่าจะไม่ทำตาม และในปัจจุบันนี้เองกลุ่มผู้บริโภคที่ต้องจับจ่ายใช้สอยในสถานที่นั้นๆ ก็เริ่มมีการปรับตัวมากขึ้นแล้ว และยอมรับนโนยายดังกล่าวด้วย โดยคาดว่าในอนาคตก็อาจจะเป็นเรื่องปกติของสังคมไทย เช่นเดียวกับต่างประเทศที่ดำเนินการนโยบายดังกล่าวนำหน้ามาหลายปีจนทุกวันนี้คนในประเทศเองก็สามารถปรับตัวและใช้ชีวิตได้ตามปกติแล้ว

        ทั้งนี้ จากที่กล่าวมา อาจจะมองเห็นว่าการดำเนินนโยบายดังกล่าวอาจจะมีผลกระทบต่อกลุ่มผู้ผลิตถุงพลาสติกเป็นอย่างมาก เนื่องจากอาจจะต้องมีการลดกำลังการผลิตลง รวมถึงการปรับเปลี่ยนผลิตภัณฑ์หรือลงทุนเพื่อที่จะอัพเกรดโรงงานของตัวเองให้สามารถผลิตสินค้าพลาสติกที่มีคุณภาพสูงขึ้นให้สามารถตอบโจทย์ความต้องการของตลาด และตัดสินใจที่จะละทิ้งการผลิตถุงแบบใช้ครั้งเดียวทิ้งไป

        แต่อย่างไรก็ตาม จากผลกระทบที่เกิดขึ้น ก็มีหนึ่งอุตสาหกรรมที่มองว่าตัวเองจะเติบโตสวนทางกับการลดใช้ถุงพลาสติกลงจากคนในประเทศ ถึงแม้ว่าจะอยู่ในอุตสาหกรรมพลาสติกเช่นเดียวกัน ซึ่งกลุ่มผู้ผลิตดังกล่าวคือกลุ่มอุตสาหกรรมถุงขยะพลาสติก ซึ่งเชื่อว่าการลดลงของการลดแจกถุงใส่ของจะยิ่งทำให้ขยะนั้นเติบโต

        ซึ่งแนวโน้มดังกล่าวเคยเกิดขึ้นแล้วกับกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้ว ที่รัฐบาลนั้นมีข้อบังคับให้ใช้ถุงขยะภายในครัวเรือน และใช้อย่างถูกประเภท เมื่อการงดแจกถุงจากร้านค้าทั่วไปนั้นเกิดขึ้น ถุงที่จะเข้าไปอยู่ในบ้านเรือนก็จะลดลง จากเดิมที่เคยใช้ถุงพวกนั้นมาแทนถุงขยะ ต่อไปในอนาคตก็จะต้องซื้อถุงขยะอย่างจริงจัง และหากยิ่งรัฐบาลไทยทำรูปแบบเหมือนกับต่างประเทศนั้น ก็จะยิ่งส่งเสริมให้การใช้ถุงขยะในประเทศไทยเติบโตอย่างต่อเนื่องแน่นอน

        และหนึ่งในผู้ประกอบการผลิตถุงขยะพลาสติกที่ออกมายืนยันว่าโมเดลดังกล่าวนั้นจะทำให้การใช้ถุงขยะนั้นเติบโตขึ้นอย่างแน่นอนก็คือ บริษัท คิงส์ เอ็นเนอร์จี แอนด์ เวซท์ โซลูชั่น จำกัด ผู้นำนวัตกรรมการรีไซเคิลขยะพลาสติก จากบ่อฝังกลบ ขยะครัวเรือน และขยะอุตสาหกรรม มาผลิตเม็ดพลาสติกรีไซเคิล โดยมีผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ฮีโร่ (HERO) หนึ่งในบริษัทของกลุ่ม คิงส์ คอร์ปอเรชั่น ที่บริหารงานโดย นายไพบูลย์  จุลศักดิ์ศรีสกุล รองประธานกรรมการผู้จัดการ คิงส์ คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด

      โดย นายไพบูลย์ กล่าวว่า จากการแบนถุงพลาสติก จะทำให้เกิดการใช้ถุงขยะไซส์เล็กมากขึ้นอย่างเช่นในต่างประเทศ  ออสเตรเลีย และอังกฤษ ที่มีการแบนถุงพลาสติกไปเมื่อไม่กี่ปีที่แล้ว ทำให้ถุงขยะไซส์เล็กที่ใส่ตามถังขยะในบ้าน หรือในห้องคอนโดฯ นั้น มียอดขายเติบโตขึ้นกว่า 400% เดิมทีถุงขยะที่ขายดีที่สุดคือถุงขยะที่ใช้ในห้องครัว หรือไซส์กลาง แต่เมื่อเกิดนโยบายดังกล่าวของภาครัฐ ทำให้ถุงขยะไซส์เล็กนั้นมีความต้องการจากผู้ใช้เพิ่มขึ้นสูงที่สุด เพราะถุงที่ถูกแบนไม่ให้แจกไปนั้นส่วนใหญ่ที่มาจากร้านค้าจะเป็นถุงไซส์เล็กดังกล่าว

        ทั้งนี้ จากความเชื่อมั่นที่ว่าถุงขยะจะเติบโตขึ้น ทำให้คิงส์ เอ็นเนอร์จี แอนด์ เวซท์ โซลูชั่น หรือฮีโร่ เดินเครื่องในด้านกำลังการผลิตอย่างเต็มที่ พร้อมกับลงทุนก่อสร้างโรงงานและซื้อเครื่องจักรใหม่อยู่ตลอดเวลา เพื่อเตรียมรองรับความต้องการที่จะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยโรงงานดังกล่าวตั้งอยู่ในพื้นที่จังหวัดชลบุรี ซึ่งเดิมทีบริษัทเป็นโออีเอ็มให้กับบริษัทดังๆ ทั่วโลก รวมถึงแบรนด์ของห้างขนาดใหญ่ด้วย และปัจจุบันนั้นเริ่มที่จะผลักดันแบรนด์สินค้าของตัวเองให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น

        โดยโรงงานของฮีโร่มีกำลังการผลิตถุงขยะพลาสติกจากขยะรีไซเคิลได้ประมาณ 40,000 ตันต่อปี โดยใช้ขยะพลาสติกจากบ่อขยะ และห้างสรรพสินค้าหรือโรงงานอื่นๆ อยู่ที่ 20,000 ตันต่อปี โดยตลาดรวมของถุงขยะในประเทศไทยอยู่ที่กว่า 30,000 ล้านบาท และในระดับโลกอยู่ที่หลักแสนล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลขมหาศาล เพราะเป็นสินค้าจำเป็นต้องใช้ เหมือนกระดาษทิชชู่ โดยบริษัทมีส่วนแบ่งการตลาดหรือมาร์เก็ตแชร์อยู่ที่ 1,000 กว่าล้านบาท หรือประมาณ 10%

        ทั้งนี้ จากการดำเนินงานของบริษัทที่มีการนำขยะมารีไซเคิลเพื่อผลิตเป็นถุงขยะใหม่นั้น นอกเหนือจากการตั้งเป้าที่จะขายสินค้า ยังเป็นการดำเนินงานที่จะสร้างองค์ความรู้ด้านนวัตกรรมเพื่อการพัฒนาให้กับประเทศแล้ว ยังถือว่าเป็นการดำเนินงานผ่านมาตรการเศรษฐกิจหมุนเวียน หรือเซอร์คูลาร์อีโคโนมี ที่ตอบโจทย์ความต้องการของคนในประเทศ หรือคนในโลกอย่างชัดเจนอีกด้วย ซึ่งถือว่าเป็นอีกหนึ่งพันธกิจหลักของบริษัท

        โดย นายไพบูลย์ กล่าวว่า หนึ่งในพันธกิจหลักของการดำเนินธุรกิจของฮีโร่ คือการช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตให้สังคมไทยสามารถอยู่ได้อย่างยั่งยืน โดยสิ่งที่เราให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก คือการสร้างความรู้ ความเข้าใจให้กับผู้คน ในเรื่องการจัดการขยะที่ถูกต้องเพื่อนำไปสู่การสร้างเศรษฐกิจหมุนเวียนที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งฮีโร่ได้มีโอกาสศึกษาวิธีจัดการขยะแต่ละประเภท และพัฒนาสินค้าร่วมกับคู่ค้าในประเทศชั้นนำมากมาย อาทิ ประเทศอังกฤษ ไอร์แลนด์ และนิวซีแลนด์ จึงได้เห็นแนวทางของการรับมือกับปัญหาของขยะในแต่ละประเทศ  ทั้งนี้บริษัทจึงได้ดำเนินการผลิตถุงพลาสติกผ่านการนำขยะรีไซเคิลมาใช้

        "ปัญหาสิ่งแวดล้อมถือเป็นอีกหนึ่งประเด็นใหญ่ที่คนทั่วโลกต่างให้ความสนใจ โดยเฉพาะเรื่องของการจัดการขยะที่แต่ละประเทศต่างให้ความสำคัญ และมีนโยบายควบคุมการเก็บ แยก ทิ้ง เพื่อสุดท้ายจะสามารถนำทรัพยากรกลับมาหมุนเวียนใช้ได้ใหม่ หรือสร้างระบบเศรษฐกิจหมุนเวียนให้เกิดขึ้นอย่างแท้จริง ฮีโร่ในฐานะผู้นำธุรกิจเศรษฐกิจหมุนเวียน และนวัตกรรมรีไซเคิล มีความมุ่งมั่นที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของสังคมและสิ่งแวดล้อม เปิดวิสัยทัศน์ในการทำธุรกิจที่จะสร้างมาตรฐานใหม่ของการใช้ชีวิตให้กับคนไทย ผ่านแผนโครงการในปี 2020 ที่จะมุ่งเน้นไปที่การให้ความรู้และนวัตกรรมใหม่ๆ มาเปลี่ยนพฤติกรรมการจัดการขยะของผู้คนในประเทศ"

        อย่างไรก็ตาม บริษัทก็มีแผนการที่จะนำความรู้ และแนวทางการจัดการของประเทศชั้นนำเหล่านั้นมาเผยแพร่ และกระตุ้นให้ผู้คนเข้าใจ และตื่นตัวกับการจัดการขยะในประเทศไทย รวมทั้งยังมีการวางแผนโครงการเพื่อสังคมในปี 2020 ที่ได้ผนึกกำลังร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจ องค์กรภาครัฐและเอกชนจัดทำโครงการเพื่อสังคมที่จะเน้นนำความรู้และนวัตกรรมมาช่วยยกระดับการจัดการขยะในสังคมอย่างยั่งยืนใน 3 มิติ

        1.การปลูกจิตสำนึกให้คนไทยตระหนักถึงการรักษาสิ่งแวดล้อม 2.การแบ่งปันความรู้และนวัตกรรมมาสร้างระบบการจัดการเก็บ "แยก" ขยะให้ชุมชนต่างๆ 3.การพัฒนานวัตกรรมรีไซเคิล พร้อมผลักดันนโยบายเพื่อนำไปสู่การจัดการ จัดเก็บ  "แยก" ขยะอย่างยั่งยืน โดยแบ่งเป็น โครงการ Hero Clean Up After Fun โครงการต่อเนื่องจากปีที่แล้ว เพื่อร่วมรณรงค์ให้คนรู้จักเก็บขยะในช่วงเทศกาลสำคัญ เช่น วันสงกรานต์  และวันปีใหม่ เช่นปีก่อนที่เราร่วม ได้แก่ กิจกรรมร่วมกับเหล่าเซเลบริตี้ ที่เอเชียทีค และกิจกรรม "คลีนคลอง" ร่วมกับจิตอาสาในการช่วยฟื้นฟูแม่น้ำลำคลองให้กลับมามีทัศนียภาพสวยงาม

        โครงการ Hero Squad ที่จะรวมพลคนจากหลากหลายสาขา ตั้งแต่พนักงาน คู่ค้า ไปจนถึงอินฟลูเอเซอร์ มาร่วมกันสร้างทีมผู้พิทักษ์ขยะที่จะให้ความรู้เกี่ยวกับการเก็บ แยก ทิ้งขยะในชุมชนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นในโรงเรียน หรือตึกสำนักงานต่างๆ  โครงการ Hero Eco Bag พัฒนาการผลิตถุงขยะจากพลาสติกรีไซเคิล ที่นำเศษพลาสติกจากบ่อขยะ และขยะพลาสติกในภาคอุตสาหกรรมของคู่ค้ามาผลิตเป็นถุงพลาสติกรีไซเคิล สร้างระบบเศรษฐกิจหมุนเวียนในภาคอุตสาหกรรม

        โครงสร้างเมืองตัวอย่าง โดยจับมือพันธมิตรในการสร้างเมืองต้นแบบในการจัดการระบบการจัดเก็บ แยก ทิ้ง ขยะให้เกิดในระดับชุมชนเมืองซึ่งยกตัวอย่างได้เช่น "อีอีซีที่กำลังจะเกิด ซึ่งถือว่าอยู่ในจุดที่เป็นเมืองท่องเที่ยว โดยจะต้องคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมเป็นหลัก ซึ่งหากเกิดการพัฒนาพื้นที่มากขึ้น ก็จะทำให้มีคนเข้ามาในพื้นที่ดังกล่าวเยอะขึ้น  หากคนในพื้นที่หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่มีความเข้าใจในการกำจัดขยะ หรือไม่มีรูปแบบการกำจัดที่ดีพอ ปัญหาขยะก็จะเป็นหนึ่งในปัญหาหลักที่เกิดขึ้นได้ในพื้นที่ และจะส่งผลให้ไม่ต่างจากหัวเมืองใหญ่ๆ ที่เป็นอยู่ รวมถึงการขยายตัวของภาคอุตสาหกรรม ก็จะทำให้เกิดขยะที่จะต้องทิ้งมากขึ้นด้วย โดยเราจะต้องร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐในพื้นที่เพื่อจะเข้าไปสร้างระบบการจัดการนี้เพื่อรองรับการขยายตัวในอนาคต"

      แต่อย่างไรก็ตาม บริษัทมีความมั่นใจกับนโยบายการผลักดันพื้นที่พัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ให้เกิดขึ้นอยู่แล้ว เนื่องจากการพัฒนาส่วนนี้จะทำให้ความต้องการใช้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นด้านใดก็ตาม รวมถึงสินค้าของบริษัทด้วย เนื่องจากเป็นสินค้าจำเป็นต้องใช้อยู่แล้ว ขณะเดียวกันก็จะผลักดันให้อุตสาหกรรมอื่นๆ นั้นเติบโตตามมา ซึ่งในส่วนนี้มองว่าเป็นเรื่องดีอย่างมาก

        ขณะเดียวกัน บริษัทได้ร่วมทุนกับพาร์ตเนอร์ต่างชาติจากสหรัฐอเมริกา เพื่อจัดตั้งโรงงานโลจิสติกส์และโรงงานผลิตฟิล์มเพื่อใช้ในการขนส่ง โดยใช้เงินลงทุนไปประมาณ 1,000 ล้านบาทเพื่อตั้งโรงงาน อยู่ในพื้นที่จังหวัดอีอีซี และจากมีการลงทุนเครื่องจักรเพิ่มเติมอีก 1,200 ล้านบาท โดยคาดว่าจะสามารถเดินเครื่องการผลิตได้ภายในเดือน ก.ค.ปีนี้ ซึ่งส่วนนี้ก็จะเป็นหนึ่งในการตอบรับนโยบายของอีอีซีที่มั่นใจว่าจะทำให้ภาคอุตสาหกรรมนั้นเติบโตขึ้น

        นายไพบูลย์ กล่าวว่า เป้าหมายการดำเนินงานของปีนี้จะเน้นไปที่การสร้างแบรนด์ให้ยั่งยืนและเป็นที่รับรู้ในวงกว้าง ซึ่งต้องยอมรับว่าตลาดของถุงขยะนั้นใหญ่มาก ยิ่งถ้ามองเรื่องการส่งออกนั้นจะมีความต้องการเข้ามาอยู่ตลอดเวลา และสามารถกระจายสินค้าได้อย่างรวดเร็ว แต่ในขณะที่ประเทศไทยเองมีตลาดที่ใหญ่เช่นเดียวกัน จึงเป็นโจทย์สำคัญให้กับบริษัท ที่จะไปพัฒนาและต่อยอดแนวคิดที่จะทำให้แบรนด์นั้นเป็นที่รู้จักและสามารถเจาะตลาดได้เพิ่มมากขึ้น

        โดยมั่นใจว่าภายใต้แบรนด์ฮีโร่นั้นมีจุดแข็งเป็นอย่างมาก  ทั้งการผลิตสินค้าจากขยะรีไซเคิล ที่ปัจจุบันเป็นที่ต้องการของตลาดอยู่แล้ว ยังมีการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย ทำให้สินค้ามีคุณภาพที่ชัดเจนกว่าแบรนด์อื่นๆ ทั้งความทนทาน และเรื่องกลิ่นไม่พึงประสงค์ที่ทางบริษัทสามารถกำจัดเรื่องนี้ไปได้ ทั้งนี้วัตถุดิบของบริษัทที่นำมาใช้เมื่อเป็นขยะพลาสติกจากบ่อขยะแล้วนั้น ก็ทำให้มั่นใจได้ว่าจะมีวัตถุดิบใช้ไปได้อีกหลายสิบปี โดยบริษัทตั้งเป้ารายได้ที่จะเติบโตไว้ที่ 20% โดยมีรายได้อยู่ที่ประมาณ 6,000 ล้านบาท

        "อย่างไรก็ตาม แม้จะเป็นการตั้งเป้าการเติบโตของบริษัท  แต่ก็ยังไม่ลืมที่จะเน้นเรื่องการดูแลสิ่งแวดล้อม หรือการทำเศรษฐกิจหมุนเวียน ที่บริษัทมองว่าเป็นหน้าที่ของคนทุกคน โดยเชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงจะเกิดขึ้นได้ เมื่อทุกคนร่วมกันให้ความสำคัญ และลุกขึ้นมาเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตด้วยความรู้และนวัตกรรมที่มี ซึ่งภายใต้แบรนด์ฮีโร่เองก็จะเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยผลักดันให้คนไทยตระหนักถึงความสำคัญของการรักษาสิ่งแวดล้อม ผ่านการจัดการขยะที่ถูกวิธี เพื่อทำให้ประเทศไทยสามารถสร้างระบบเศรษฐกิจหมุนเวียนได้อย่างแท้จริง.

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"