ในฐานะแฟนประจำของคิม จองอึน แห่งเกาหลีเหนือ ผมชักเป็นห่วงสุขภาพท่านมากขึ้นทุกวัน ข่าวลือล่าสุดบอกว่า ผู้นำโสมแดงเข้าผ่าตัดหัวใจ เมื่อวันที่ 12 เมษายน อาการเป็นอย่างไรไม่มีใครบอกได้ พอถึงวันที่ 15 เมษาฯ ซึ่งตรงกับวันเกิดหรือชาตกาลของคุณปู่คิม อิลซุง ผู้ก่อตั้งเกาหลีเหนือ ท่านคิมผู้หลานไม่ปรากฏตัวในงานใหญ่

                ทุกปีวันนี้เป็นวันสำคัญ เฉลิมฉลองกันอย่างเอิกเกริก แต่เมื่อคิมน้อยไม่เป็นประธานของงานก็เกิดข่าวลือในแวดวงข่าวกรองและนักข่าวที่เกาะติดทันที

                อยู่ดีๆ ก็มีข่าวจากซีเอ็นเอ็นอ้าง “แหล่งข่าวกรองสหรัฐ” ว่าท่านคิมมี “อาการน่าเป็นห่วง”

                สื่อญี่ปุ่นบอกว่าคิมหลังผ่าตัดอาจจะกลายเป็น “ผัก” หรือ “เจ้าชายนิทรา” ไปแล้ว

                ขณะเดียวกันรอยเตอร์ก็รายงานว่า จีนได้ส่งคณะแพทย์ที่เชี่ยวชาญโรคหัวใจไปเปียงยางแล้ว

                แต่พอเช็กกับข่าวกรองเกาหลีใต้ ซึ่งปกติจะเกาะติดเรื่องภายในของเกาหลีเหนืออย่างใกล้ชิด ก็ได้คำตอบว่า “ไม่มีวี่แววอะไรของเรื่องนี้”

                ทันทีทันใดนั้นก็เริ่มมีบทความวิเคราะห์จากญี่ปุ่นและอเมริกาว่า ถ้าคิมเป็นอะไรไป ใครจะขึ้นมาเป็นผู้นำแทน

                เกือบทุกสำนักเห็นพ้องกันว่า คือน้องสาวที่ชื่อ “คิม โยจอง” น่าจะเป็นทายาทที่โดดเด่นที่สุด

                ดังนั้นถ้ามีการคาดการณ์ไปต่างๆ นานา ว่าด้วยสุขภาพของคิมผู้น้องก็อย่าได้แปลกใจ เพราะเกาหลีเหนือเป็นประเทศปิด ข่าวสารทางการออกมาไม่ได้ถ้าไม่ได้รับอนุญาตจากผู้นำสูงสุดเอง

                ในทำนองเดียวกันก็มีคำถามก่อนหน้านี้ว่า เกาหลีเหนือไม่มีใครติดเชื้อ Covid-19 เลยแม้แต่คนเดียวจริงหรือ?

                ถ้าฟังจากสื่อทางการของเปียงยาง รัฐบาลของท่านคิม จองอึน มีความสามารถระดับเหนือปฐพี เพราะสามารถสกัดไม่ให้ไวรัสตัวร้ายนี้หลบเข้ามาทำให้คนเกาหลีเหนือติดเชื้อเลยแม้แต่คนเดียว

                แต่มีใครเชื่อโฆษณาชวนเชื่อของท่านคิมไหม? คำตอบคือไม่มีใครเชื่อเท่าไหร่

                และถ้าเกาะติดความเคลื่อนไหวอื่นๆ ที่อาจจะสะท้อนถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในเกาหลีเหนือเกี่ยวกับเรื่องนี้ ก็อาจจะต้องเชื่อว่าท่านคิมไม่ได้เก่งเรื่องปราบโรคระบาด

                ท่านเก่งเรื่องบริหารข่าวสารทั้งสำหรับประชาชนของแกเอง และมีความกล้าหาญชาญชัยอย่างยิ่งที่จะบอกกับชาวโลกว่า “บ้านฉันไม่เห็นมีปัญหาอะไรเหมือนบ้านคุณเลย”

                ที่เด็ดกว่าการบริหารการไหลเทของข่าวสารเพื่อให้เกาหลีเหนือดูพิเศษกว่าทุกคนในโลกนี้ก็คือ การที่สามารถจะดึงความสนใจของประชาคมโลกไปสู่เรื่องที่ท่านคิมต้องการจะบอกกล่าว

                นั่นคือระหว่างที่คนทั้งโลกกำลังวุ่นวายกับไวรัสโควิดนั้น เปียงยางก็ประกาศยิงขีปนาวุธพิสัยใกล้เป็นว่าเล่น

                ยิงไป 4 ชุดเต็มๆ....เพื่อบอกกล่าวกับผู้ที่ติดตามข่าวสารว่าทุกอย่างในเกาหลียังเป็นไปตามปกติ

                ปกติตรงที่ว่าเขายังทดลองยิงขีปนาวุธเพื่อสำแดงแสนยานุภาพทางทหารได้ตลอด

                หรือท่านคิมต้องการจะบอกว่าวิธีการปราบไวรัสที่คุกคามทั้งโลกนั้นคือการทดลองขีปนาวุธที่อาจจะทำให้เชื้อโรคกลัว ไม่กล้าเข้ามายุ่มย่ามในประเทศนั้น

                อย่าลืมว่าเกาหลีเหนือมีชายแดนติดกับจีนและเกาหลีใต้...สองประเทศที่มีตัวเลขการแพร่ระบาดของโควิดอย่างกว้างขวาง

                นั่นแปลว่า ยังไงๆ เกาหลีเหนือก็หนีไม่พ้น ต้องโดนหางเลขของไวรัสบ้าง

                เพราะกว่า 190 ประเทศแล้วที่ได้รายงานคนติดเชื้อและเสียชีวิต

                เป็นไปได้อย่างไรที่โสมแดงเป็นเจ้าเดียวที่อยู่รอดปลอดภัย

                แต่หากติดตามรายงานข่าวจากหลายๆ แหล่งก็จะพบว่า มีการร้องขอจากเกาหลีเหนือให้ส่งชุดตรวจจับไวรัสโควิดไปยังองค์การอนามัยโลกและเอ็นจีโอทางการแพทย์ระดับโลกคือ Medecins Sans Frontieres หรือ “แพทย์ไร้พรมแดน” มาช่วย

                อีกกระแสข่าวหนึ่งที่ผมติดตามอยู่บอกว่า ตอนที่อู่ฮั่นของจีนเริ่มรายงานการแพร่ระบาดของโควิดนั้น เกาหลีเหนือก็สั่งการควบคุมสื่อทั้งหมด ห้ามรายงานข่าวเรื่องนี้โดยเด็ดขาด

                ต่อมาก็มีคำสั่งจากรัฐบาลเปียงยางให้ปิดประเทศ ระงับการเข้า-ออกของผู้คน ทัวร์ถูกยกเลิกหมด

                คนเกาหลีเหนือถูกห้ามผ่านเข้า-ออกชายแดนที่ติดกับจีน และคนจีนก็ถูกห้ามเข้าเกาหลีเหนือทันที

                อีกไม่กี่วันต่อมาก็มีคำสั่งให้ตรวจสินค้าที่เข้าประเทศอย่างเข้มข้น ไม่ว่าจะเป็นทางบกหรือทางทะเล ส่วนทางอากาศก็สั่งปิดน่านฟ้าไปก่อนหน้านี้แล้ว

                นี่ไง Lockdown ของแท้และแน่นอน

                ข่าวที่ไม่ยืนยันชิ้นหนึ่งบอกว่า เจ้าหน้าที่เกาหลีเหนือคนหนึ่งที่ไปติดเชื้อโควิดจากจีนถูกสั่งประหารชีวิต

                ข่าว “สั่งปลิดชีวิต” โดยคำสั่งท่านคิมนั้นมีให้ได้อ่านกันบ่อยๆ แต่ไม่มีใครสามารถยืนยันหรือปฏิเสธได้ เพราะไม่รู้จะไปถามใครในประเทศนั้น

                แต่ที่ค่อนข้างจะแน่ๆ ก็คือมีการสั่งปิดโรงเรียนประถมและมัธยมถึง 20 เมษายนที่ผ่านมา จากที่ตอนแรกสั่งให้ปิด 5 สัปดาห์ ถึง 23 มีนาคม

                ถึงวันนี้มีการขยายเวลาการปิดโรงเรียนหรือเปล่า ยังต้องคอยติดตามข่าวกัน

                กลางเดือนมีนาคม หลายจังหวัดของเกาหลีเหนือสั่งให้คนทำงานในโรงงานและบริเวณใกล้เคียงใส่หน้ากากในชีวิตประจำวัน

                ข่าวอีกกระแสหนึ่งบอกว่า ท่านคิมสั่งให้สร้างโรงพยาบาลใหม่ขึ้นมาอย่างน้อย 1 แห่งเพื่อปกปักรักษาคนเกาหลีเหนือ

                ความจริง แผนการสร้างโรงพยาบาลแห่งนี้ได้รับอนุมัติตั้งแต่เดือนธันวาคมปีที่แล้ว แต่จู่ๆ ก็มีการเริ่มตอกเสาเข็มเมื่อวันที่ 17 มีนาคม

                สื่อทางการแสดงภาพท่านคิมมาเป็นประธานในพิธีตอกเสาเข็มด้วย

                และเมื่อมีคำสั่งขอซื้อเวชภัณฑ์พิเศษและเร่งด่วนจากเปียงยางไปปักกิ่ง ผมก็เชื่อว่าสงสัยเจ้าไวรัสโควิดจะเจาะทะลุป้อมปราการของเกาหลีเหนือได้แล้วกระมัง

                ถ้าท่านคิมสามารถสกัดไวรัสตัวนี้ได้อย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด ไม่มีคนป่วยแม้แต่คนเดียวได้จริง นักรัฐศาสตร์ทั้งโลกก็ต้องมาระดมความคิดวิเคราะห์กันแล้วว่า

                หรือต้องประกาศให้เกาหลีเหนือเป็นมหาอำนาจตัวจริง...แต่จะเป็นพระเอกจริงต้องปรากฏตัวให้ชาวโลกได้เห็นหน่อยว่ายังสบายดีอยู่!.