เว็บไซต์แอลพีจีเอได้สัมภาษณ์ “โปรโม” โมรียา จุฑานุกาล โปรสาวไทยถึงความรู้สึกในวันที่คว้าแชมป์แรกในแอลพีจีเอทัวร์  รายการแอลเอ โอเพ่น เมื่อปี 2018 โดยโปรโมทำสกอร์รวม 12 อันเดอร์พาร์ 272 เฉือนชนะปาร์ก อินบี และโค จิน ยอง สองโปรเกาหลีใต้ ที่ทำสกอร์เท่ากันที่ 10 อันเดอร์พาร์ 274

        โมรียา จุฑานุกาล กล่าวว่า จำได้ว่าช่วงนั้นก่อนจะคว้าแชมป์ ตัวเองทำผลงานได้ดีในหลายรายการ แต่เมื่อเข้าใกล้แชมป์มากขึ้นเรื่อยๆ ในรอบสุดท้ายที่ลงแข่งขันจะรู้สึกกังวลและตื่นเต้นมากๆ อย่างไรก็ตามรอบสุดท้ายของ แอลเอ โอเพ่น มันต่างออกไป เพราะวันนั้นไม่รู้สึกตื่นเต้นเลย ตื่นเช้ามาด้วยความรู้สึกสงบนิ่งมากๆ นิ่งกว่าหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา

        “วันนั้นโมอยากจะคว้าแชมป์ให้ได้ แต่ไม่อยากจะไปโฟกัสกับแชมป์มากนัก มันน่าจะมาจากความนิ่งที่มีมาก่อนหน้านี้ สัปดาห์นั้นตื่นมาแล้วรู้สึกว่าตัวเองสงบมากๆ แต่มันไม่ใช่ว่าไม่อยากจะได้แชมป์นะ โมอยากได้ เพราะผลงานที่มันออกในช่วงนั้นทำให้รู้สึกหวังได้ แต่ก็ต้องพยายามนิ่งที่สุด” โมรียา กล่าว

        นักกอล์ฟไทยวัย 25 ปี กล่าวอีกว่า แชมป์หนแรกจะอยู่ในความทรงจำตลอดไป เรื่องอื่นๆ อาจจะลืมได้ แต่แชมป์แรกที่ทำได้จะเป็นความทรงจำที่ดีที่สุด การคว้าแชมป์ในลอสแองเจลิส เป็นเรื่องที่พิเศษมากๆ เพราะก่อนจะย้ายไปอยู่ฟลอริดา เคยอยู่ที่ลอสแองเจลิสมาก่อน ทำให้มีเพื่อนอยู่ที่นั่นมากมาย รวมทั้งยังชอบวิลเชียร์ คันทรี คลับ สนามที่ใช้แข่งขันรายการนี้ด้วย เพราะมันแคบและต้องวางแผนให้ดี ส่วนตัวแล้วไม่ชอบสนามกว้างๆ เพราะจะทำให้หลุดโฟกัส

         “การได้เล่นในแฟร์เวย์ที่แคบ และพื้นที่เล็กๆ จะช่วยให้มีสมาธิมากขึ้น เพราะทุกช็อตในการแข่งขันเป็นความท้าทายเสมอ ซึ่งก็ต้องวางแผนให้ดีและทำตามแผนให้ได้อย่างรัดกุม เนื่องจากไม่ได้เป็นนักกอล์ฟที่ใช้พละกำลังมากในสนามได้ มันไม่ใช่สไตล์ที่ชอบ จึงต้องบริหารจัดการทุกอย่างให้รอบคอบ และวิลเชียร์ คันทรี คลับ ก็เหมาะกับสไตล์ของตัวเอง”

        แอลพีจีเอ ยังได้ถามถึงความคาดหวังหลังจากนี้ของ โมรียา โปรสาวไทยตอบว่า “ในฐานะที่เป็นนักกีฬาก็ต้องมีเป้าหมายในใจอยู่แล้ว แต่ก็ไม่ควรคิดว่าต้องลงเล่นเพื่อคนอื่น สิ่งที่ควรทำ คือวางเป้าหมายของตัวเองเอาไว้ และใช้สิ่งนั้นในการเดินหน้าทำงานหนัก ไม่ใช่จากความคาดหวังของคนอื่น เนื่องจากอาจจะมีคนบอกว่า คุณเป็นนักกอล์ฟที่เก่งมากและจะก้าวไปเป็นแชมป์แน่นอน มันเป็นความรู้สึกที่ดี โมก็ชอบมันนะ แต่มันเป็นเรื่องภายนอก ไม่ได้มาจากสิ่งที่อยู่ในตัวเรา ดังนั้นต้องจัดการให้ดี เหมือนการคว้าแชมป์แรกที่แอลเอ โมทำแบบนั้นและมันก็ไปได้สวยมาก”