ม.๔๔ 'มือถือ-ทีวีดิจิทัล' (อีกที)


เพิ่มเพื่อน    

      ใช้ ม.๔๔......

      อุ้ม AIS-TRUE ยืดค่างวดคลื่น ๙๐๐ กว่า ๑๒๐,๐๐๐ ล้านออกไป ๕ ปี หรือไม่?

      ครม.เมื่อวาน (๓ เม.ย.๖๑) ยังไม่มีคำตอบ!

      ต้องรอดูอังคารต่อๆ ไป ตามเทอมเวลา ภายในเดือนเมษา

      รู้คำตอบ "อุ้ม-ไม่อุ้ม"?

      ม.๔๔ เป็นอำนาจหัวหน้า คสช.คือนายกฯ ประยุทธ์ ในฐานะองค์รัฏฐาธิปัตย์ 

      อำนาจนี้ จะชี้เป็น-ชี้ตายอย่างไรก็ได้

      ประชาชนไม่ว่า ถ้าการชี้นั้น...........

      อยู่บนฐานเหตุและผล ยังประโยชน์ต่อชาติและสังคมรวม!

      ก็อยู่ที่ใจนายกฯ ไม่บังอาจไปท้วงติงอะไรท่าน

      แต่ก่อนตัดสินใจ ว่า........

      จะยืดค่างวดสุดท้าย ให้ ๒ ค่าย ผ่อนจ่ายเงินแสนล้านไปอีก ๕ ปี คิดอัตราดอกเบี้ยนโยบายแบงก์ชาติ คือ ๑.๕% หรือไม่?   

      ผมมี "แนวพิจารณา" จากศาล ให้ท่านใช้เป็นอนุสติ

      จำเรื่อง "จำนำข้าว" ยิ่งลักษณ์ได้ใช่ไหม?

      เมื่อ เมษา ๖๐........

      ที่ท่านเรียกให้ยิ่งลักษณ์ "ชดใช้ค่าสินไหมทดแทน" แก่ทางราชการนั่นน่ะ

      ยิ่งลักษณ์ฟ้องกลับต่อศาลปกครอง ขอให้ศาลเพิกถอนคำสั่ง และขอให้มีคำสั่งทุเลาบังคับตามคำสั่งพิพาทไว้เป็นการชั่วคราว จนกว่าคดีจะถึงที่สุด

      ศาลท่านว่า ดังนี้........

        "พิเคราะห์แล้วเห็นว่า การที่ศาลจะมีอำนาจออกคำสั่งทุเลาการบังคับตามคำสั่งพิพาทในระหว่างพิจารณาคดีได้นั้น

        ต้องมีเงื่อนไขตามที่กฎหมายกำหนดไว้ ๓ ประการ เกิดขึ้นครบถ้วนกล่าวคือ

        (1) คำสั่งพิพาทน่าจะไม่ชอบด้วยกฎหมาย

        (2) การให้คำสั่งพิพาทมีผลใช้บังคับต่อไป จะทำให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงที่ยากแก่การเยียวยาแก้ไขในภายหลัง และ

        (3) การทุเลาการบังคับตามคำสั่งพิพาท ไม่เป็นอุปสรรคแก่การบริหารงานของรัฐหรือแก่บริการสาธารณะ

        เมื่อพิจารณาคำขอของนางสาวยิ่งลักษณ์และข้อเท็จจริงในชั้นไต่สวนคำขอวิธีการชั่วคราวก่อนการพิพากษาแล้ว เห็นว่า

        ภายหลังจากนายกรัฐมนตรีและพวกออกคำสั่งเรียกให้นางสาวยิ่งลักษณ์ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนนั้น

        ได้มีหนังสือแจ้งเตือนให้ชำระให้เสร็จสิ้นภายใน ๑๕ วัน นับแต่วันที่ได้รับหนังสือ

        ซึ่งนอกจากหนังสือแจ้งเตือนดังกล่าวแล้ว............

        ยังไม่มีการใช้มาตรการบังคับทางปกครองด้วยการยึดหรืออายัดทรัพย์สินและขายทอดตลาดเพื่อชำระค่าสินไหมทดแทนแต่อย่างใด

        ในเมื่อยังไม่มีการใช้มาตรการบังคับทางปกครอง.........

        ในชั้นนี้ จึงรับฟังไม่ได้ว่า หากศาลไม่มีคำสั่งทุเลาการบังคับตามคำสั่งพิพาท จะทำให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงแก่นางสาวยิ่งลักษณ์ที่ยากแก่การเยียวยาแก้ไขในภายหลัง

        จึงเห็นว่า เงื่อนไขตามข้ออ้างในคำขอให้ศาลมีคำสั่งทุเลาการบังคับตามคำสั่งพิพาท

        ยังไม่มีน้ำหนักพอที่จะรับฟังได้

        กรณีจึงไม่เข้าเงื่อนไขที่ศาลจะมีคำสั่งทุเลาการบังคับตามคำสั่งที่เรียกให้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนไว้เป็นการชั่วคราวในระหว่างพิจารณาคดีได้"

      ประยุกต์คิดดูเถอะครับ แนวทางไม่ต่างกัน ในประเด็นหลัก คือ

      จะ "อุ้ม" ควรยึดเงื่อนไขกฎหมาย ๓ ข้อเป็นกรอบ

      -สัญญาที่ AIS-TRUE ทำกับ กสทช.มีตรงไหนไม่ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่?  

      -ไม่อุ้ม จะทำให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงที่ยากแก่การเยียวยาแก้ไขในภายหลังหรือไม่?

      -ถ้าอุ้ม จะไม่เป็นอุปสรรคแก่การบริหารงานของรัฐหรือแก่บริการสาธารณะ

      ข้อแรก ชัดเจน สัญญาชอบด้วยกฎหมาย

      ข้อที่สอง ตามที่ AIS-TRUE อ้างเหตุผลร้องให้ คสช.ใช้ ม.๔๔ อุ้ม

      ว่าถ้าต้องจ่ายค่างวดที่ ๔ รวมแล้วกว่า ๑๒๐,๐๐๐ ล้าน ทำให้เขาทั้ง ๒ จะไม่สามารถเข้าประมูลคลื่น ๘๐๐ ในปีนี้ได้

      เนื่องจากวงเงินกู้แบงก์ "เต็มแล้ว" นั้น!

      ข้อเท็จจริงที่ต้องพิจารณา คือ........

      "ถ้าไม่อุ้ม จะทำให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงที่ยากแก่การเยียวยาแก้ไขในภายหลังจริงหรือ?"

      ก็มาดูกัน หุ้นใหญ่ของ AIS  คือ...........

      บริษัท อินทัช โฮลดิ้ง ๔๐%

      SINGTEL.........๒๓.๓๒%

      อินทัช ก็คือ "บริษัท ชินคอร์ป" เดิม ของทักษิณ ที่ยิ่งลักษณ์ เคยเป็น CEO ก่อนมาเป็นนายกฯ นอมินีให้ทักษิณ

      สิงเทล ก็กลุ่มทุนเทมาเส็กของรัฐบาลสิงคโปร์ ที่ทักษิณขายหุ้นให้

      ปี ๖๐ AIS มีกำไร ๓๐,๐๗๗ ล้านบาท

      จ่ายปันผล ๒ งวด รวม ๗.๒๖ บาท ต่อ ๑ หุ้น

      เมื่อวาน (๓ เม.ย.) "เกศรา มัญชุศรี" กรรมการ-ผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์ฯ แถลง

      ปี ๒๕๖๐ ใน SET ที่จ่ายเงินปันผลสูงสุด ๕ อันดับแรก คือ

      ปตท. (PTT), แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC), ปูนซิเมนต์ไทย (SCC), ไทยพาณิชย์ (SCB), พีทีที โกลบอล เคมิคอล (PTTGC)

       มูลค่ารวม ๑๓๒,๐๘๕ หรือ ๒๘% ของเงินปันผลทั้งหมดใน SET

      ส่วน TRUE หุ้นใหญ่สองอันดับแรก คือ

      บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด ๑๙.๖๒%

      CHINA MOBILE....๑๓.๔๗%

      นอกนั้น ประกอบด้วยบริษัทเครือซีพีกับไชน่าโมบาย เป็นส่วนใหญ่

      TRUE หลังจากขาดทุนต่อเนื่องยาวนาน ผลประกอบการ ปี ๖๐ กำไร ๒,๓๒๒ ล้านบาท

      ประกาศจ่ายปันผลเป็นครั้งแรก หุ้นละ ๐.๐๓๑ บาท

      จากข้อมูลนี้ พิจารณาดูละกันว่า ทั้ง AIS-TRUE ประมูลได้คลื่น ๙๐๐ ไปทำธุรกิจแล้ว

      ขาดทุน หรือ กำไร?

      จำเป็นต้องอุ้มโดยขยายค่างวดให้หรือไม่?

      และด้วยรวยอันดับโลกของหุ้นใหญ่ AIS คือ อินทัชหรือชินคอร์ปเดิมกับเทมาเส็ก

      และหุ้นใหญ่ TRUE เครือเจริญโภคภัณฑ์ ผู้มีเงินซื้อประเทศไทยได้ทั้งประเทศ กับไชน่าโมบาย โทรคมนาคมค่ายยักษ์ของจีน ถ้านายกฯ ไม่ใช้ ม.๔๔ อุ้ม..........

      AIS กับ TRUE จะไม่มีเงิน ไม่มีสถาบันการเงินไหนจะให้วงเงินเพื่อเข้าประมูล

      ...........ก็ให้มันรู้ไป!?

      ยกเว้นแต่ ที่มีอยู่ เรอแล้ว-อ้วกแล้ว ไม่ต้องการ เป็นอีกเรื่อง

      อีกประเด็นที่ควรมอง ที่ศาลปกครอง "ยกคำขอ" ยิ่งลักษณ์ ก็ด้วยเหตุผลว่า

      ตอนฟ้องนั้น........

      "ยังไม่มีการใช้มาตรการบังคับทางปกครองด้วยการยึดหรืออายัดทรัพย์สินและขายทอดตลาดเพื่อชำระค่าสินไหมทดแทนแต่อย่างใด"

        นั่นคือ การเอาเรื่องอนาคต ซึ่งยังไม่เกิด มากล่าวอ้างแบบทึกทักบนฐานสมมุติเป็นปัจจุบันมาฟ้อง

      ไม่เข้าเงื่อนไข และรับฟังไม่ได้!

      ค่างวดที่ ๔ ที่ AIS-TRUE ต้องจ่าย รวมกว่า ๑๒๐,๐๐๐ ล้าน นั้น ก็เหมือนกัน กำหนดในปี ๒๕๖๓

      คืออีกตั้ง ๒-๓ ปี กว่าจะถึง.........

      และการประมูลคลื่น ๘๐๐ ก็ยังเป็นเรื่องอนาคต!

      แต่ ๒ ค่ายรวมหัว ยกอนาคตเป็นเหตุปัจจุบัน อาศัยแต้ม "ผูกขาด" กลายๆ ในกิจการโทรคมนาคมในมือ เป็นทั้งแต้มต่อและแต้มขู่

      ไม่ยื่นเรื่องผ่าน กสทช.ด้วยนะ...........

      ข้ามหัว ทำหนังสือส่ง "นายกฯ" ให้ใช้ ม.๔๔ อุ้มโดยตรงเลย

      ก็อาจไม่ตรงซะทีเดียว

      เฉี่ยวหัว "เนติบริกร" ที่ชื่อวิษณุไปก็ได้?

      ปีแรกยังกำไรกันเป็นพัน-เป็นหมื่นล้าน จากฐานกำไรปีนี้ ถึงปี ๖๓ AIS จะกำไรรวมกว่าแสนล้าน  TRUE ก็จะเหยียบหมื่นล้าน

      แบบนี้ ถ้าใช้ ม.๔๔ อุ้ม.......

      นอกจากไม่เข้าเงื่อนไขกฎหมายข้อ ๓ แล้ว ยังบอกได้ว่า การอุ้มนี่แหละ

      เป็นอุปสรรคแก่การบริหารงานของรัฐและแก่บริการสาธารณะอย่างมาก!

      งบประมาณที่คาดการณ์ไว้ในปี ๖๓ หายไปแสนกว่าล้าน เหลือแค่ดอก ร้อยละ ๑.๕

      ในขณะที่แบงก์และค่ายมือถือเอาไปหมุนได้ร้อยละ ๗-๒๐

      เอาหัวแม่ตีนตรองก็เห็น ว่า.......

      อุ้มโจรไปปล้นต่อ หรือ พยุงคนล้มให้ยืน?     

      ที่พูดกันว่า "ฉ้อฉลเชิงนโยบาย" มันแบบไหน ก็แบบนี้แหละ!

      อย่าไปเอาเหตุที่ยังไม่เกิดมาทึกทักเป็นเงื่อนไขอุ้มกันในปัจจุบันเลย

      รู้ได้ไง ว่า..........

      เปิดประมูลคลื่น ๑๘๐๐ แล้ว จะไม่มีใครมาประมูล มีแต่ DTAC เจ้าเดียว?

      ไม่เพราะเจ้ามือถือกับพวกแบงก์ "ฮั้วกัน" ในระบบประมูลดอกหรือ ประเทศไทยจึงมีแค่ ๒-๓ เจ้าคล้ายผูกขาด

      แล้วใช้ "ลูกค้าในมือ" เป็นแต้มบีบภาครัฐ... ไม่อุ้มกู เกิดปัญหา "คลื่นดับ" ประชาชนเดือดร้อน ไม่รู้ด้วยนะ !?

      ถ้าจะอุ้มโดยสุจริต "โทรทัศน์ดิจิทัล" นั่นแหละ เป็นเหตุปัจจุบันที่เกิดขึ้นแล้ว

      อุ้มเขาเถอะ!

      เรียกทุกช่องหารือในเงื่อนไขสรุป แล้วใช้ ม.๔๔ เยียวยา

      ปัญหาขณะนี้ เข้าเงื่อนไขกฎหมาย ๓ ข้อ และเป็นเหตุ-เป็นผล ทางดุลยธรรมบริหาร

      ถ้าจะอุ้ม AIS-TRUE ก็มีเงื่อนไขเดียว........

      ยืดชำระ ๕ ปีก็ได้ แต่ดอกเบี้ยต้องเริ่มจาก ร้อยละ ๗-๒๐ สุดแต่ตกลง

      ถ้าร้อยละ ๑.๕ แสดงว่า "กินด้วยกัน"!


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"