ดาวอีกหนึ่งดวงของพรรคก้าวไกล


เพิ่มเพื่อน    

 

 

        ภายหลังการงอกใหม่จาก “พรรคอนาคตใหม่” สู่ “พรรคก้าวไกล” นอกจากชื่อของ “วิโรจน์ ลักขณาอดิศร” โฆษกตัวหลักของพรรคก้าวไกล อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อลำดับที่ 34 ของพรรคอนาคตใหม่ที่ได้รับการจับตามอง มาจากช่วงอภิปรายไม่ไว้วางใจ โดยเจ้าตัวอภิปรายในประเด็นปฏิบัติการข้อมูลข่าวสาร หรือ “ไอโอ” ของกองทัพ ด้วยการพูดจาฉะฉาน น้ำเสียงหนักแน่น มั่นคง ขึ้นเสียงสูงต่ำอย่างมีจังหวะจะโคน ทำให้วิโรจน์เป็นที่รู้จักของคอการเมืองและประชาชนทั่วไปมากขึ้น ก่อนจะได้รับตำแหน่ง “โทรโข่ง” เป็นเครื่องการันตีแล้ว

            อีกชื่อที่ดังมาไล่ๆ กัน และกลายเป็นที่จับตามองเช่นกันคือชื่อของ “อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล” หรือ “เจี๊ยบ นครปฐม” แต่ขานี้มาอยู่ในสปอตไลต์จากโลกโซเชียล จนหลายคนแซวกันขำๆ ว่า หากฟากรัฐบาลมี “เอ๋ ราชบุรี” เป็นไพ่เด็ด ฝ่ายค้านก็มี “เจี๊ยบ นครปฐม” ที่พอฟัดพอเหวี่ยงกันได้อยู่

            ในฐานะที่ฐานเสียงที่สนับสนุนพรรคก้าวไกล และคณะก้าวหน้า แทบจะร้อยทั้งร้อยต่างท่องอยู่ในโลกโซเชียลมีเดีย ทำให้ไม่ว่าพรรค หรือ ส.ส.รายบุคคล จะออกแคมเปญอะไรมา หรือออกมาแสดงความเห็นในประเด็นใดๆ ผ่านเพจพรรค หรือสื่อโซเชียลมีเดีย บรรดาสาวกต่างออกมาแสดงความชื่นชม สรรเสริญ กันเป็นเรื่องปกติวิสัย มีเพียงไม่กี่ครั้งที่เสียงก่นด่าจะเกิดขึ้น อย่างล่าสุดที่โดนหนักหน่อยก็เป็นกรณีการออกมาแสดงความเป็นห่วงที่รัฐใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน โดยเกรงว่ารัฐจะฉวยโอกาสในช่วงที่มี พ.ร.ก.ละเมิดสิทธิเสรีภาพของประชาชน เป็นต้น ซึ่งนานทีปีหนถึงจะมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น

            และหากยังจำกันได้ ช่วงต้นเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา โพสต์ของ “เจี๊ยบ นครปฐม” ที่เป็นรูป “ตัวเงินตัวทอง” เดินตัดหน้ารถในทวิตเตอร์ AmaratJeab พร้อมแคปชั่น “จอดรถกะทันหันเจอนายกฯ เดินตัดหน้าแต่เช้า” แน่นอนว่า พอโพสต์มาแบบนี้ นอกจากจะไม่สร้างสรรค์แล้ว ยังหาสาระใดๆ ไม่ได้อีก ทำให้โดนทั้งฝ่ายตัวเองและฝ่ายตรงเข้ามาคอมเมนต์วิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสม

            ยังไม่รวมถึงหลายๆ โพสต์ก่อนหน้าที่จะออกสไตล์ “หมัดตรง” แบบไม่เกรงใจใคร อย่างตอนที่อดีต ส.ส.ส้มหวาน 9 หน่อ ย้ายซบอก “เสี่ยหนูภูมิใจไทย” เจ้าตัวก็ออกมาโพสต์สั้นๆ ง่ายๆ ได้ใจความว่า “หน้าด้านเป็นโรคติดต่อ” เป็นต้น และยังมีอีกหลายครั้งที่เจ้าตัวอภิปรายในสภาแบบถึงพริกถึงขิงจนโดนประธานในที่ประชุมห้ามปรามอยู่บ่อยๆ อย่างกรณีที่ตำหนิ “บิ๊กตู่” ว่า “ทักษะในการพูด-ฟัง” มีปัญหาหรือการแว้งไปตอดแฟนคลับพรรคการเมืองพรรคอื่นให้เลิกวิจารณ์พรรคอนาคตใหม่ ทำให้เจ้าตัวมีวีรกรรมอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว

            เดิมที อมรัตน์เป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 30 ของพรรคอนาคตใหม่ โดยเจ้าตัวเป็นนักการเมืองที่มีบทบาทในพรรคอยู่ไม่น้อย โดยเฉพาะการเป็นกำลังสำคัญในการทำพื้นที่ใน จ.นครปฐม ทำให้การเลือกตั้งใหญ่ที่ผ่านมา “เมืององค์พระฯ” มี ส.ส.ถึง 2 คน และเกือบจะเป็น 3 คนด้วยซ้ำ หลังเขต 1 พ่ายคะแนนไปแบบหวุดหวิดเท่านั้น และยังคงเดินหน้าช่วยทีมท้องถิ่นที่ถูกวางตัวไว้ในพื้นที่ จ.นครปฐม ทำงานอย่างต่อเนื่อง หากเปรียบก็เสมือนแม่ทัพในจังหวัดนครปฐมของพรรคส้ม

            การเลือกตั้งใหญ่ครั้งที่ผ่านมา คนในพื้นที่ต่างรู้ดีว่าความสำเร็จดังกล่าวในจังหวัดมี “เจ้าของปั๊มน้ำมัน PT สวนตะไคร้” ลูกสาวอดีตกำนัน “สัมพันธ์ โชคปมิตต์กุล” เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงสำคัญ เช่นเดียวกับการปรากฏตัวตามงานอีเวนต์ของพรรค และยังเป็นหนึ่งในนักการเมืองที่มีความสัมพันธ์อันดีกับบรรดานักเคลื่อนไหวทางการเมืองเอียงซ้าย (ของประเทศไทย) ที่ช่วยเหลือในการแถลงข่าวในรัฐสภา หรือการประสานงาน การยื่นหนังสือร้องเรียนต่างๆ อีกด้วย ในฐานะที่เจ้าตัวเคยเป็นนักกิจกรรมทางการเมืองมาก่อน

            ในปี 2550-2553 “เจี๊ยบ” เข้าร่วมเคลื่อนไหวกับกลุ่มแดงอิสระ ที่แสดงตัวไม่เห็นด้วยกับการรัฐประหาร ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร เมื่อเจ้าตัวมีแนวคิดปฏิเสธระบอบอำมาตยาธิปไตย และมีความศรัทธาในตัว “สุรชัย แซ่ด่าน” แกนนำกลุ่มแดงสยาม รวมทั้งการเข้ามาทำงานร่วมกับกลุ่ม “คนอยากเลือกตั้ง” ช่วงคาบเกี่ยวกับการเข้ามาทำงานการเมืองกับพรรคอนาคตใหม่อีกด้วย

            ขณะที่ผลงานในสภาฯ เจ้าตัวดำรงตำแหน่งเลขานุการคณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน เจ้าตัวยังเคยไล่บี้ผ่านกระบวนการรัฐสภาเพื่อหาตัวคนผิดมาลงโทษ เมื่อตอนที่ “จ่านิว” ถูกดักตีแถวหน้าปากซอยบ้านอีกด้วย นอกจากนี้ ก่อนจะมีวิกฤติโควิด เจ้าตัวยังคงส่งสัญญาณให้กำลังใจบรรดานักศึกษาหลายสถาบันที่ออกมาร่วมชุมนุมแฟลชม็อบอยู่เลย ก่อนไวรัสโควิด-19 จะเข้ามาหยุดความร้อนแรงของการเมืองไทยเอาไว้

            ภายหลังเปลี่ยนมาเป็นพรรคก้าวไกล เจ้าตัวได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งกรรมการบริหารพรรคสัดส่วนภาคกลาง ขณะในช่วงวิกฤติโควิด-19 เจ้าตัวยังเป็นนักการเมืองกลุ่มแรกๆ ที่จุดประเด็น “#ทำไมไม่ได้5พัน” มาตั้งแต่ต้นเดือน เม.ย. เนื่องจากเจ้าตัวลงพื้นที่รับฟังปัญหาของประชาชนที่เดือดร้อน ทั้งคนตกงาน ผู้พิการ และคนชรา ที่เข้าไม่ถึงเงินเยียวยา 5 พันบาทอีกด้วย ก่อนกระแสจะค่อยๆ แรงขึ้นๆ ตามลำดับ

            สิ่งเหล่านี้นแสดงให้เห็นว่า อมรัตน์เป็นนักการเมืองที่ทำงานจริง ด่าจริง เจ็บจริง และเชื่อขนมกินได้เลยว่า หากวันใดวันหนึ่ง พรรคก้าวไกลมีโอกาสจับพลัดจับผลูได้เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลขึ้นมา ชื่อของ “อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล” จะไม่หลุดจากชื่อในการดำรงตำแหน่งสำคัญๆ ในรัฐบาลอย่างแน่นอน แต่จะมีวันนั้นรึเปล่านั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง. 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"