24 เม.ย.63- นายวัฒนา เมืองสุข แกนนำพรรคเพื่อไทย จำเลยคดีทุจริตโครงการบ้านเอื้อาทร โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Watana Muangsook ว่าการผ่อนคลายมาตรการเพื่อให้ประชาชนได้กลับไปทำมาหากินไม่ควรพิจารณาตามพื้นที่ (Area Based) เพราะจังหวัดส่วนใหญ่ที่ได้รับการผ่อนผันก่อนจะเป็นเมืองเล็กจึงไม่ส่งผลดีต่อเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม การผ่อนผันจึงควรพิจารณาตามประเภทของธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับคนยากจนและไม่สุ่มเสี่ยงต่อการติดเชื้อมากกว่า
มนุษย์หลังโควิด-19 จะให้ความสำคัญด้านสุขภาพและสุขลักษณะ (Health & Hygienity) หากผมเป็นรัฐบาลผมจะร่วมกับสถาบันการศึกษาหรือสถาบันที่โลกยอมรับทำโครงการเสริมสมรรถนะ (Capacity Building) ให้กับคนไทยที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจอาหารและบริการ เช่น เกษตรกร โรงแรม ภัตตาคาร หรือร้านค้า เพื่อเข้ารับการฝึกอบรมการผลิตอาหารและการให้บริการที่ปลอดภัยและถูกสุขลักษณะ
โครงการดังกล่าวรัฐควรออกค่าใช้จ่ายทั้งหมด รวมถึงการจ่ายเบี้ยเลี้ยงและออกใบรับรองให้ผู้เข้ารับการอบรมอันเป็นการลงทุนภาครัฐที่ให้ผลตอบแทนทางเศรษฐกิจ เพราะจะทำให้ลูกค้าทั้งที่เป็นคนไทยและต่างประเทศมีความมั่นใจกล้ากินอาหารนอกบ้านและกล้าใช้บริการถือเป็นการกระตุ้นให้เกิดการบริโภคภายใน อีกทั้งยังเป็นการยกระดับมาตรฐานด้านอาหารและบริการของคนไทยให้อยู่ในระดับโลกซึ่งเป็นอนาคตทางธุรกิจที่เราแข่งขันได้
โครงการนี้นอกจากจะส่งผลดีต่อภาพลักษณ์และเศรษฐกิจของประเทศแล้ว รัฐบาลยังจะได้อานิสงส์ทางการเมืองอีกด้วย เพราะทำให้คนไทยมีรายได้ มีงานทำไม่ฟุ้งซ่าน จะได้ไม่มีเวลาออกมาไล่รัฐบาล.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |