องค์การอนามัยโลกเตือนวิกฤติโควิด-19 ยังไม่จบในเวลาอันใกล้ จีนเพิ่มเงินลงขันอีก 30  ล้านดอลลาร์ หลังจากผู้นำสหรัฐอเมริกาสั่งระงับเงินช่วยเหลือองค์กรนี้ ยอดสังเวยไวรัสทั่วโลกเกิน  184,000 ศพ สิงคโปร์ยังติดเชื้อเพิ่มรายวันหลักพัน

    คำเตือนขององค์การอนามัยโลก (ดับเบิลยูเอชโอ) ล่าสุดมีขึ้นหลังจากรัฐบาลของหลายประเทศเริ่มหาหนทางผ่อนคลายมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ทำให้ประชากรกว่าครึ่งโลกถูกกักกันในเคหสถานไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ในขณะที่จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ถึงช่วงเย็นวันพฤหัสบดีที่ 23 เมษายน 2563 ตามการรวบรวมของมหาวิทยาลัยจอห์นฮอปกินส์ อยู่ที่ 2,645,092  ราย เสียชีวิต 184,268 ราย
    รายงานเอเอฟพีเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 23 เมษายน 2563 อ้างคำกล่าวของทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการดับเบิลยูเอชโอจากนครเจนีวา ว่าวิกฤติโรคระบาดครั้งนี้ยังไม่จบลงในเวลาอันใกล้  ประเทศส่วนใหญ่ยังอยู่ในช่วงแรกของการแพร่ระบาด และบางประเทศที่มีการระบาดช่วงแรกๆ ก็เริ่มกลับมาพบการติดเชื้อใหม่อีก "อย่าทำผิดพลาด เรายังมีหนทางอีกยาวไกล ไวรัสนี้จะอยู่กับพวกเราไปอีกยาวนาน" เขาเตือน 
     วันก่อนหน้านั้น โรเบิร์ต เรดฟีลด์ ผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคติดต่อแห่งสหรัฐอเมริกา (ซีดีซี) ก็เพิ่งเตือนคนอเมริกันให้เตรียมพร้อมรับมือการแพร่ระบาดระลอกสอง ซึ่งอาจก่อความเสียหายร้ายแรงกว่า เพราะมีความเป็นไปได้ที่จะเกิดควบคู่กับช่วงเริ่มฤดูไข้หวัดใหญ่ในช่วงหน้าหนาว  ซึ่งจะทำให้การรับมือทำได้ยากลำบากยิ่งขึ้น 
     สหรัฐอเมริกาเป็นประเทศที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 มากที่สุดในโลก จนถึงวันพฤหัสบดีมีผู้ติดเชื้อสะสมแล้วมากกว่า 842,000 ราย เสียชีวิตมากกว่า 46,700 ราย ยอดเสียชีวิตเพิ่มรายวันที่  1,738 ราย และนครนิวยอร์กมีคนเสียชีวิตมากที่สุด 15,074 ราย ขณะเดียวกันมีผลการศึกษายืนยันว่า  สหรัฐอเมริกาอาจมีผู้เสียชีวิตรายแรกตั้งแต่เดือนมกราคมหรือต้นเดือนกุมภาพันธ์ ก่อนหน้าที่จะเกิดการตื่นตัวรับมือโรคระบาดนี้ โดยพบว่าผู้ป่วย 2 รายที่แคลิฟอร์เนียที่เสียชีวิตเมื่อวันที่ 6 และ 7 กุมภาพันธ์นั้น แท้จริงแล้วเป็นผู้ป่วยโควิด-19 
    ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งปรารถนาจะเปิดเศรษฐกิจของประเทศอีกครั้งโดยไว เพิ่งลงนามคำสั่งประธานาธิบดีเมื่อวันพุธ ระงับการออกใบอนุญาตสำหรับผู้มีถิ่นพำนักถาวรในสหรัฐอเมริกา (กรีนการ์ด) ชั่วคราวเป็นเวลา 60 วัน โดยอ้างว่าเพื่อปกป้องแรงงานอเมริกัน 
    สัปดาห์ที่แล้ว ทรัมป์เพิ่งประกาศระงับเงินช่วยเหลือดับเบิลยูเอชโอ โดยกล่าวหาองค์กรนี้ว่าบริหารจัดการผิดพลาดและลำเอียงเข้าข้างจีน หากดับเบิลยูเอชโอประเมินสถานการณ์ในจีนอย่างเที่ยงตรงกว่านี้จะมีคนตายน้อยลง พร้อมกับตัดพ้อว่าอเมริกาคือผู้บริจาครายใหญ่ที่สุด เงินภาษีของคนอเมริกันเกื้อหนุนองค์กรนี้ปีละ 400-500 ล้านดอลลาร์ ในขณะที่จีนให้แค่ราว 40 ล้านดอลลาร์ต่อปีหรือน้อยกว่านั้น    เมื่อวันพฤหัสบดี กระทรวงการต่างประเทศของจีนประกาศว่า รัฐบาลจีนจะให้เงินช่วยเหลือดับเบิลยูเอชโอในการต่อสู้กับโรคระบาดนี้ทั่วโลกอีก 30 ล้านดอลลาร์ เพิ่มจากยอดเก่า 20 ล้านดอลลาร์ และจะช่วยเสริมสร้างระบบสาธารณสุขของกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาให้เข้มแข็งยิ่งขึ้น เงินช่วยเหลือที่จีนมอบให้องค์กรในสังกัดองค์การสหประชาชาติแห่งนี้ "สะท้อนการสนับสนุนและความไว้วางใจที่รัฐบาลจีนและประชาชนชาวจีนมีต่อดับเบิลยูเอชโอ" 
    ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่เริ่มแพร่เชื้อสู่มนุษย์ครั้งแรกในจีนเมื่อปลายเดือนธันวาคม และถึงขณะนี้พบผู้ติดเชื้อแล้วในมากกว่า 193 ประเทศและดินแดน ข้อมูลของจอห์นฮอปกินส์ถึงเวลา 17.30 น.  สหรัฐอเมริกามีผู้ติดเชื้อ 842,624 ราย, สเปน 213,024 ราย, อิตาลี 187,327 ราย, ฝรั่งเศส 157,135  ราย, เยอรมนี 150,729 ราย, สหราชอาณาจักร 134,639 ราย, ตุรกี 98,674 ราย, อิหร่าน 85,996 ราย,  จีน 83,876 ราย และรัสเซีย 62,773 ราย
     ประเทศที่มีผู้เสียชีวิตมาก 10 อันดับแรกของโลก สหรัฐอเมริกาเสียชีวิต 46,785 ราย, อิตาลี  25,085 ราย, สเปน 22,157 ราย, ฝรั่งเศส 21,340 ราย, สหราชอาณาจักร 18,100 ราย, เบลเยียม  6,490 ราย, อิหร่าน 5,481 ราย, เยอรมนี 5,315 ราย, จีน 4,636 ราย และเนเธอร์แลนด์ 4,054 ราย
     ในภูมิภาคอาเซียน สิงคโปร์ออกรายงานเมื่อวันพฤหัสบดีว่า มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 1,037 ราย โดยเป็นวันที่ 4 ติดต่อกันที่สิงคโปร์มีผู้ติดเชื้อรายใหม่มากกว่า 1,000 ราย ขณะที่ยอดสะสมเพิ่มเป็น 11,178 ราย มีเสียชีวิต 12 ราย ส่วนฟิลิปปินส์มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 271 ราย ยอดรวม 6,981 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 16 ราย ยอดรวมเป็น 271 ราย, อินโดนีเซียมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 357 ราย ยอดรวมเป็น 7,775  ราย เสียชีวิตเพิ่ม 12 ราย ยอดรวมเป็น 647 ราย และมาเลเซียมีผู้ติดเชื้ออีก 71 ราย ยอดรวมเป็น  5,603 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 2 ราย ยอดรวมเป็น 95 ราย.