ญี่ปุ่นตรวจพบลูกเรือสำราญของอิตาลีที่จอดซ่อมอยู่ที่ท่าเรือเมืองนางาซากิติดเชื้อโควิด-19 แล้วอย่างน้อย 48 ราย

เรือคอสตา แอตแลนติกา เทียบท่าที่นางาซากิ เมื่อวันที่ 22 เมษายน 2563

    คอสตา แอตแลนติกา เรือสำราญของอิตาลีที่มีลูกเรือ 623 คน เดินทางมาถึงอู่เรือในเมืองนางาซากิของญี่ปุ่นเมื่อเดือนมกราคม เนื่องจากมีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้ต้องยกเลิกกำหนดการเดิมที่จะแล่นเรือไปซ่อมที่จีน

    สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ผู้ควบคุมเรือติดต่อกับเจ้าหน้าที่เมืองนางาซากิให้มาช่วยตรวจลูกเรือว่าติดเชื้อโควิด-19 หรือไม่ และเริ่มตรวจลูกเรือ 4 รายในวันจันทร์ พบติดโควิด-19 หนึ่งราย จากนั้นตรวจลูกเรืออีก 57 รายในวันพุธ พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มอีก รวมยอดผู้ติดเชื้อเป็น 34 ราย

    คัตสึมิ นากาตะ เจ้าหน้าที่เมืองนางาซากิ เผยกับผู้สื่อข่าวทางไลฟ์สตรีม ในวันพฤหัสบดีที่ 23 เมษายน ว่าเจ้าหน้าที่ตรวจลูกเรืออีก 66 คน พบติดเชื้อโควิดเพิ่ม 14 ราย รวมลูกเรือที่ติดโรคโควิด-19 แล้ว 48 ราย ลูกเรือ 14 คนที่พบติดเชื้อโควิดขณะนี้กักตัวเองอยู่ในห้องพักบนเรือ ทั้งหมดเป็นกุ๊กหรือพนักงานเสิร์ฟบนเรือ และมีลูกเรือที่ติดเชื้อโควิดที่มีอาการหนัก 1 รายต้องใส่เครื่องช่วยหายใจ ส่งเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล

    เจ้าหน้าที่หวังว่าจะตรวจลูกเรือได้ทั้งหมดภายในสัปดาห์นี้ หลังตรวจลูกเรือไปแล้ว 127 ราย พบผู้ติดเชื้อโควิด 48 ราย อัตราติดเชื้ออยู่ที่ 38% และกังวลว่าลูกเรือที่ติดเชื้อโควิดอาจส่งผลกระทบต่อพลเมืองนางาซากิ เนื่องจากมีรายงานว่าลูกเรือบางคนออกจากเขตหวงห้าม

    เมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมา ญี่ปุ่นต้องรับมือกับการระบาดของโรคโควิด-19 บนเรือสำราญไดมอนด์ปรินเซส ที่เทียบท่าเมืองโยโกฮามา มีผู้โดยสารและลูกเรือติดเชื้อโควิด-19 มากกว่า 700 ราย เสียชีวิต 13 คน  

    ขณะนี้ญี่ปุ่นมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 เกือบ 12,000 ราย เสียชีวิตราว 290 คน แต่ตัวเลขผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นมากสร้างความกังวลว่าโรงพยาบาลที่มีไม่สามารถรองรับผู้ป่วยได้ทั้งหมด ทำให้รัฐบาลประกาศภาวะฉุกเฉิน 1 เดือน จนถึงวันที่ 6 พฤษภาคม.