ห้าวจริงๆ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ทวีตสั่งการกองทัพเรือสหรัฐยิงเรืออิหร่านได้ หากตามรังควานเรือสหรัฐกลางทะเล คล้อยหลังไม่นานแถลงเสียงอ่อนยังยึดถือกฎการปะทะทางทหาร โฆษกกองทัพอิหร่านย้อน ทรัมป์ควรช่วยอเมริกาให้พ้นวิกฤติไวรัสแทนที่จะมาขู่กัน

    ท่าทีแข็งกร้าวของประธานาธิบดีทรัมป์ผ่านทวิตเตอร์เมื่อวันพุธที่ 22 เมษายน 2563 มีออกมาภายในไม่กี่ชั่วโมงหลังจากกองทัพพิทักษ์การปฏิวัติอิหร่านประกาศความสำเร็จในการปล่อยดาวเทียมทางทหารดวงแรกของอิหร่านขึ้นสู่วงโคจรได้สำเร็จ และรัฐมนตรีต่างประเทศ ไมค์ ปอมเปโอ ของสหรัฐชี้ว่า การปล่อยดาวเทียมครั้งนี้พิสูจน์คำกล่าวหาของสหรัฐที่ว่า โครงการอวกาศของอิหร่านมีวัตถุประสงค์เพื่อการทหารมากกว่าการพาณิชย์ และอิหร่านต้องรับผิดชอบกับผลของการกระทำ

    เอเอฟพีรายงานว่า ในทวีตเมื่อวันพุธ ทรัมป์บอกว่า เขาได้สั่งให้กองทัพเรือสหรัฐยิงและทำลายเรือของอิหร่านทุกลำได้ หากตามก่อกวนรังควานเรือของสหรัฐกลางทะเล

    เหตุการณ์เผชิญหน้ากันกลางทะเลระหว่างเรือของกองทัพสหรัฐและอิหร่านเกิดขึ้นเป็นครั้งคราวช่วงปี 2559-2560 หลายครั้งเรือของสหรัฐยิงเตือนเรืออิหร่านที่เข้ามาใกล้เกินไป แม้กองทัพเรือจะมีอำนาจดำเนินการเพื่อป้องกันตนเองได้ตามกฎการปะทะ แต่ถ้อยคำของทรัมป์ดูเหมือนจะเลยเถิดและน่าจะเพิ่มความตึงเครียดระหว่าง 2 ชาติยิ่งขึ้น

    อย่างไรก็ดี ระหว่างแถลงข่าวที่ทำเนียบขาวเวลาต่อมา ทรัมป์ชี้แจงว่า กองทัพสหรัฐจะไม่เปลี่ยนแปลงกฎการปะทะ และยังปฏิบัติตามกฎนี้ 100 เปอร์เซ็นต์

    เจ้าหน้าที่ระดับสูงของเพนตากอนกล่าวกันว่า คำกล่าวของทรัมป์เพียงต้องการเตือนอิหร่าน กองทัพสหรัฐจะยังคงปฏิบัติตามสิทธิในการป้องกันตนเองโดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงกฎ

    เดวิด นอร์ควิสต์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมสหรัฐ ชี้แจงกับผู้สื่อข่าวที่เพนตากอนว่า ทวีตของทรัมป์เป็นการเตือนที่สำคัญถึงอิหร่าน สิ่งที่ทรัมป์ย้ำก็คือเรือของสหรัฐทุกลำมีสิทธิ์ป้องกันตนเอง

    คำสั่งของทรัมป์มีออกมา 1 สัปดาห์หลังจากเหตุการณ์ที่เรือเร็วขนาดเล็กติดอาวุธ 11 ลำของกองทัพอิหร่านโอบล้อมเรือ 6 ลำของกองทัพเรือและกองกำลังป้องกันชายฝั่งของสหรัฐระหว่างการฝึกในน่านน้ำสากลทางเหนือของอ่าวเปอร์เซียเมื่อวันที่ 15 เมษายน เรือสหรัฐไม่ได้ยิงเตือน แต่เพนตากอนกล่าวว่าการกระทำของอิหร่าน "อันตรายและยั่วยุ" เสี่ยงที่เรือจะชนกันหรือเกิดเหตุร้ายแรงกว่านั้น มีช่วงหนึ่งที่เรืออิหร่านอยู่ห่างจากเรือตรวจการณ์เมาอีของสหรัฐเพียง 9 เมตร

    ด้านพลจัตวา อาบุลฟาซัล เชการ์ชี โฆษกกองทัพอิหร่าน แถลงตอบโต้เมื่อวันพุธว่า ทรัมป์ควรทุ่มเทสมาธิกับการช่วยประเทศของเขาให้รอดวิกฤติใหญ่ของโรคระบาด

    "วันนี้ แทนที่จะเที่ยวขู่คนอื่น พวกอเมริกันควรจะช่วยทหารของพวกเขาจากการติดเชื้อไวรัสโคโรนาจะดีกว่า" เขากล่าว "ถ้าสหรัฐมีความชำนาญและความสามารถ พวกเขาจะถอนกำลังทหาร (ออกจากตะวันออกกลาง) เพื่อรักษา (ประเทศ) จากโรคไวรัสโคโรนา ก่อนจะระดมสรรพกำลังในสหรัฐ เพื่อรักษาชีวิตผู้คนจากวิกฤติใหญ่ที่กระทบต่อประเทศของพวกเขา"

    ทั้งนี้ ข้อมูลจากมหาวิทยาลัยจอห์นฮอปกินส์เมื่อวันพฤหัสบดี สหรัฐมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 แล้วมากกว่า 842,600 ราย เสียชีวิตอย่างน้อย 46,785 ราย ในขณะที่ทั่วโลกมีผู้ติดเชื้อรวมกันมากกว่า 2,637,000 ราย และเสียชีวิตราว 183,600 ราย ส่วนอิหร่านนั้น ข้อมูลอย่างเป็นทางการของรัฐบาลระบุว่า นับแต่พบการติดเชื้อครั้งแรกในประเทศเมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ อิหร่านมีผู้ติดเชื้อสะสมเกือบ 86,000 ราย และเสียชีวิตแล้วเกือบ 5,400 ราย แต่นักสังเกตการณ์เชื่อกันว่าจำนวนที่แท้จริงสูงกว่านี้มาก.