"โควิด" ลด "โคขวิด" พุ่ง


เพิ่มเพื่อน    

             เลข ๑๓ ฝรั่งบอกว่า เป็นเลขอาถรรพ์...ไม่ดี

                แต่วันนี้ทุบโต๊ะว่า ดี!

                ตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-๑๙ รายใหม่ ถอยหลังไปวันเสาร์ที่ ๑๘ เมษายน ๓๓ ราย วันอาทิตย์ ๓๒ คน วันจันทร์ ๒๗ ราย วันอังคาร ๑๙ ราย วันพุธ ๑๕ คน และวานนี้ (๒๓ เมษายน) ๑๓ ราย 

                หวังว่าจะลดลงไปเรื่อยๆ จนเหลือเลขตัวเดียว

                และไปจบที่ ไม่พบผู้ป่วยรายใหม่ในเร็วๆ นี้

                แต่อย่าเพิ่งดีใจไป วันนี้ผู้คนเริ่มกลับมาใช้ชีวิตปกติมากขึ้น รถราบนท้องถนนกลับมาติดขัดอีกครั้ง แม้ยังไม่เยอะเท่าเก่า แต่ก็มากกว่าช่วงต้นเดือนเมษายน

                ผลงานที่คนไทยทั้งชาติช่วยกันทำในวันนี้คือความร่วมมือร่วมใจเมื่อ ๑๔ วันก่อน

                อีก ๑๔ วันข้างหน้า ยังตอบยากว่าเราเอาโควิด-๑๙ อยู่หมัดหรือไม่

                ฉะนั้นการออกจากบ้านมากขึ้น จึงต้องระวังตัวมากขึ้นเช่นกัน

                มีแนวคิดที่ผิดเพี้ยนของคนจิตไม่ปกติ อะไรที่รัฐบาลบอกว่าใช่ พวกนี้จะบอกว่าไม่ใช่ทุกอย่าง ไม่ต้องถามหาเหตุผล เพราะกูไม่ชอบมึง

                หม่อมหลวงณัฏฐกรณ์ เทวกุล ตรรกะป่วยสุดๆ

            "พลเมืองไม่ใช่สัตว์เลี้ยงของรัฐหรือผู้ซึ่งมีอำนาจทางการปกครอง เลิกคิดว่าคนต้องอยู่ในกรง หัวหดอยู่ที่บ้าน"

                ไม่แน่ใจว่าจะมีคนสักกี่คนที่คิดแบบนี้ แต่ดูจากตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ล่าสุดที่ ๑๓ ราย ก็น่าจะมีคนแบบ "หม่อมหลวงปลื้ม" ไม่มากนัก

                การอ้างว่าเด็กนักเรียนในจีน สวีเดน เดนมาร์ก ญี่ปุ่น ฯลฯ ได้ไปโรงเรียน

                ผิดกับเด็กไทย รัฐบาลลุงตู่สติเเตกสั่งล็อกเด็กไว้ในบ้าน เด็กไม่ได้ไปโรงเรียน ไม่ได้ออกกำลังกาย ไม่ได้วิ่งเล่น ไม่ได้สนทนากับเพื่อนร่วมโลก

                ฉะนั้นต้องให้เด็กไปโรงเรียน ไม่ต้องกลัวโควิด-๑๙

                สถานการณ์แบบนี้จะมีผู้ปกครองสักกี่คนที่ยอมปล่อยลูกไปโรงเรียน ฝากบรรดาโพลสำนักต่างๆ ช่วยสำรวจหน่อย  

                ถ้าผู้ปกครองเอาตาม "หม่อมหลวงปลื้ม" ก็เอาเลยครับ ส่งเด็กไปแนวหน้าได้เลย

                แต่ส่วนใหญ่คงจะไม่ปลื้มตามหม่อมเสียมากกว่า

                ที่เราไม่เห็นเด็กติดโควิด ไม่ใช่เพราะโควิดไม่ชอบเด็ก

                แต่เด็กๆ ได้รับการปกป้องจากผู้ปกครอง

                เดือนกว่าที่ผ่านมาเด็กๆ ไม่ได้ไปไหน อยู่แต่ในบ้าน และการอยู่ในบ้านไม่ได้ทำให้ไอคิวเด็กไทยต่ำลงแต่อย่างใด

                ที่ไอคิวหายดูจะเป็น "หม่อมหลวงปลื้ม" นั่นแหละ เพราะติดเชื้อโคขวิด

                พ้นจากเรื่อง "โค" มาดูว่า "คุณหมอ" คิดอย่างไรกับสถานการณ์ปัจจุบัน

                "รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์" จากคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ท่านยังคงให้ความสำคัญกับความเสี่ยงหากปลดล็อกเร็วไป

                ....เสี่ยงมาก ปลดล็อกเร็ว โดยยังไม่พร้อม หากเริ่มตั้งแต่ต้นเดือนหน้า ก็จะมีโอกาสเริ่มเห็นการแพร่ระบาดเพิ่มตั้งแต่วันที่ ๗-๑๐ พฤษภาคม และจะทวีไปเรื่อยๆ

                ดังนั้นรัฐไม่ควรเชื่อคำยุยงกดดัน จนกลายเป็นทำทั้งศึกในบ้านแบบหลายก๊ก และทำศึกนอกบ้านไปพร้อมกัน

                ศึกนอกบ้าน หมายถึง การนำปัญหาจากนอกบ้านมาสู่ในบ้าน

                ตราบใดที่โรคระบาดยังลามอยู่ทั่วโลก ถ้าเปิดเข้ามา นั่นคือการฆ่าตัวตาย ไม่ช้าก็เร็ว ไม่ว่านักท่องเที่ยวจะมาจากประเทศเสี่ยงต่ำเสี่ยงสูง มันก็เสี่ยง 

                ธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการขาดนักท่องเที่ยว อาจต้องได้รับความช่วยเหลือให้ไปประกอบกิจการแนวทางอื่นๆ ไปก่อน เพราะสุดท้ายหากเอาความเสี่ยงเข้ามาในประเทศ จะได้เงินอยู่ช่วงเดียว แต่พินาศรุนแรงระยะยาว....

                ครับ...อีกไม่กี่ก้าวเราจะเดินถึงทางแยกแล้ว. 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"