ปตท.จ่อรื้อแผนลงทุนเซ่นโควิดหลังราคาน้ำมันโลกดิ่ง


เพิ่มเพื่อน    

23 เมษายน 2563 นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าจากภาวะโรคระบาด โควิด-19 กระทบต่อเศรษฐกิจทั่วโลกมีการล็อคดาวน์ทั่วโลก ส่งผลให้การใช้น้ำมันดิบในตลาดโลกลดลง แม้จะมีประเทศผู้ผลิตนั้นลดกำลังการผลิตลงบ้างแล้ว แต่ซัพพลายก็ยังล้นตลาดอยู่ดีและจะส่งผลต่อราคาน้ำมันดิบตลาดโลกลดลง จากการคาดการณ์เมื่อต้นปีที่ผ่านมาคาดว่าราคาน้ำมันดิบจะเฉลี่ยอยู่ที่ 55-65 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล แต่ล่าสุดได้ปรับคาการณ์ราคาน้ำมันใหม่ ที่จะอยู่ที่ 30-40 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล โดยคาดว่าสถานการณ์โควิด-19 น่าจะดีขึ้นในช่วงปลายไตรมาส 3 ของปีนี้

ทั้งนี้ได้ให้บริษัทในเครือ ปตท. ศึกษาแผนและการปรับตัวรับมือ โดยให้เสนอแผนกลับมาทุก 1 เดือน จากเดิมที่จะมีการทบทวนแผนทุก 6 เดือน ซึ่งเบื้องต้นได้ให้ตัดงบค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นออกประมาณหลักพันล้านบาท  ส่วนงบลงทุนระยะยาวยังคงเดินหน้าโครงการต่อไป  เช่น โครงการก่อสร้างท่อส่งก๊าซธรรมชาติเส้นที่ 5 โครงการก่อสร้างท่าเรือมาบตาพุด ระยะ 3 ที่อยู่ในช่วงดำเนินการถมทะเล โครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง ระยะ 3 ที่อยู่ในขั้นตอนการเจรจาผลตอบแทนเพิ่มเติส  และการลงทุนในเขตนวัตกกรรมระเบียวเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก(อีอีซีไอ) เป็นต้น ซึ่งจะมีการประชุมบอร์ด ปตท.ในวันที่ 30 เม.ย. เพื่อพิจาณาแผนการลงทุนต่อไป  

นายชาญศิลป์ กล่าวว่า จากสถานการณ์ของราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ปรับตัวลดลงต่อเนื่อง รวมถึงความต้องการใช้น้ำมันลดลง และตลาดส่งออกไปจีนจำกัดเนื่องจากนโยบายของรัฐบาลจีน อาจต้องทบทวนชะลอแผนการลงทุนในกลุ่มปิโตรเคมีของบริษัทในเครือ ได้แก่ โครงการลงทุนปิโตรเคมีคอมเพล็กซ์ ของ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ จีซี ที่เป็นโครงการผลิตเอทิลีน 1.5 ล้านตันต่อปี ในรัฐโอไฮโอ สหรัฐ มูลค่าประมาณ 200,000 ล้านบาท ซึ่งร่วมกับพันธมิตร บริษัท Dealim Industrial ของเกาหลีใต้
โครงการแม็กซิมั่ม อะโรมเมธิกส์ หรือ มาร์ส (MARS) ของ บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) หรือ เป็นโครงการลงทุนขนาดใหญ่ที่ใช้เงินลงทุนสูงถึง 30,000-40,000 ล้านบาทเพื่อผลิตพาราไซลีน 1-1.3 ล้านตันต่อปี และเบนซีน 300,000-500,000 ตันต่อปี จากเดิมที่คาดว่าจะมีความชัดเจนภายในไตรมาส 2 ปี 2562 นี้

นอกจากนี้ในส่วนราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง ได้ส่งผลกระทบต่อโรงกลั่นน้ำมัน ในเครือปตท. 3 บริษัท ได้แก่ โรงกลั่นน้ำมันไทยออยล์ โรงกลั่นพีทีทีจีซี และโรงกลั่นไออาร์พีซี ได้รับผลกระทบการขาดทุนทางบัญชีจากการสต็อกน้ำมันดิบเป็นจำนวนมากในช่วงต้นปีที่ผ่านมา  ประกอบกับความต้องการใช้น้ำมันของโลกและของไทยลดลง โดยเฉพาะน้ำมันอากาศยานที่ไม่มีความต้งการใช้ จึงได้สั่งให้โรงกลั่นน้ำมันในเครือทั้ง 3 แห่งลดกำลังการผลิตลงประมาณ 15-20%

เหตุผลที่ต้องนำมาแผนการลงทุนของกลุ่มปตท.มาพิจารณาใหม่ เพราะสถานการณ์เปลี่ยนแปลงไปมาก โครงการไหนที่ยังไม่มีความจำเป็นต้องชะลอกการลงทุนไว้ก่อน หรืออาจจะยกเลิกได้ เพราะมีความจำเป็นต้องเก็บเงินสำรองไว้ใช้ยามนี้ หรือรักษาสภาพคล่องของกลุ่มไว้ให้มากที่สุด” นายชาญศิลป์ กล่าว


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"