ว่ากันว่า ในการเดินทางแต่ละครั้งนั้น ถึงแม้จะไปในสถานที่แห่งเดิม แต่หากต่างช่วงเวลากัน ความรู้สึกหรือประสบการณ์ที่ได้รับก็ย่อมแตกต่างกันออกไป เช่นเดียวกับแคมเปญ “แอ่วเมืองเหนือครั้งใหม่ ไม่เหมือนเดิม” ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ภูมิภาคภาคเหนือ ที่จัดขึ้นเพื่อเชิญชวนให้นักท่องเที่ยวได้ไปร่วมซึมซับประสบการณ์ใหม่ๆ จากสถานที่ต่างๆ ในภูมิภาคภาคเหนือกันอีกครั้ง

ทั้งนี้ นางสาวเอิบลาภ ศรีภิรมย์ ผู้อำนวยการ ททท.สำนักงานแพร่ รับผิดชอบพื้นที่จังหวัดแพร่และจังหวัดน่าน เปิดเผยว่า ในปีนี้ ททท.สำนักงานแพร่มีแผนส่งเสริมการท่องเที่ยวในรูปแบบต่างๆ เพื่อให้นักท่องเที่ยวที่เคยเดินทางมาเที่ยวจังหวัดน่านและแพร่ ได้รับประสบการณ์ที่ไม่เหมือนเดิมกลับไป โดยเน้นสินค้าหลัก 3 ตัวที่เป็นไฮไลต์ คือ ท่องเที่ยวชุมชน อาหารถิ่น และกิจกรรมท่องเที่ยวเพื่อสังคม

ผู้อำนวยการ ททท.สำนักงานแพร่ กล่าวต่อว่า สิ่งที่โดดเด่นของชุมชนในพื้นที่จังหวัดแพร่และจังหวัดน่านคือเรื่องของวัฒนธรรมและชาติพันธุ์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว จึงนำขึ้นมาส่งเสริมให้เกิดการเดินทางเพื่อเรียนรู้และสัมผัสวิถีชุมชนหลายพื้นที่ เช่น ชุมชนบ้านถิ่น อำเภอเมืองฯ จังหวัดแพร่

ชุมชนบ้านถิ่น อยู่ห่างจากที่ว่าการอำเภอเมืองแพร่ ประมาณ 7 กิโลเมตร มีแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ คือ วัดพระธาตุถิ่นแถนหลวง, พิพิธภัณฑ์ไทลื้อบ้านถิ่น, สวนแก้วมังกรขนาดใหญ่ที่มีพื้นที่เพาะปลูกมากที่สุดอีกแห่งหนึ่งของประเทศ พร้อมชวนชิมอาหารถิ่นเมนูสำรับไทลื้อที่เป็นอัตลักษณ์ของชุมชน ได้แก่ เมนูไข่ป่ามสมุนไพร, น้ำพริกหน่อโอ่, ถั่วเน่าแผ่น, แกงแค และแอบปลา ตลอดจนเรียนรู้เรื่องการแต่งกายวิถีไทลื้อ โดยเฉพาะชุดของผู้หญิงไทลื้อ ที่มีความเป็นเอกลักษณ์ตั้งแต่ผ้าโพกศีรษะ เสื้อผ่าอกสีดำหรือสีกรมท่าแขนยาวที่สวมใส่ การตกแต่งกระดุมด้วยเครื่องเงิน หรือลูกปัดสีเงิน นุ่งซิ่นลายขวางที่เรียกว่า “ซิ่นตาซิว” สะพายย่าม มีถุงหมากประจำตัว และเครื่องประดับเงินเข้ากับชุด ซึ่งเป็นสิ่งพบเห็นได้ทั่วไปในชุมชนแห่งนี้ และสำหรับคนที่ชื่นชอบเรื่องเครื่องเงิน ยังหาซื้อได้ที่ชุมชนบ้านโป่งศรี ซึ่งอยู่ในบริเวณใกล้เคียงกัน

ในส่วนของชุมชนเมืองเก่าแพร่ นำเสนอเส้นทางบ้านเก่าเล่าเรื่องเมืองไม้สัก เนื่องจากจังหวัดแพร่มีบ้านไม้สักเหลืออยู่มากที่สุดในประเทศไทย มีสถาปัตยกรรมเมืองที่สวยงามเป็นเอกลักษณ์ โดยเฉพาะบ้านไม้ทรงขนมปังขิง อีกทั้งเป็นเส้นทางค้าไม้สักเส้นหลักของประเทศไทย ประกอบกับพื้นเพของชาวแพร่มีความเป็นศิลปินอยู่ในสายเลือด จึงได้ร่วมกับชุมชนนำความงามของศิลปะและสถาปัตย์มาเล่าเรื่องราว ออกแบบเป็นกิจกรรม Art Night tour เที่ยวแพร่กลางคืน เพื่อเปิดเผยมุมมองที่นักท่องเที่ยวยังไม่เคยสัมผัส ซึ่งคาดว่าจะทำให้นักท่องเที่ยวเลือกพักค้างคืนเพิ่มในพื้นที่จังหวัดแพร่ และเป็นกิจกรรมท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ภาคกลางคืนที่จัดขึ้นเป็นครั้งแรกในจังหวัดแพร่อีกด้วย

อีกชุมชนที่มีความโดดเด่นในเรื่องผ้า คือ ชุมชนบ้านทุ่งโฮ้ง มีชื่อเสียงจากการผลิตและจำหน่าย “ผ้าหม้อห้อม” จะมีการจัดกิจกรรมให้นักท่องเที่ยวทำผ้ามัดย้อมด้วยสีห้อมที่บ้านป้าๆ เจ้าของผลิตภัณฑ์ทั้งหลายเช่นที่บ้านป้าเหงี่ยม, ป้ายุพิน, ป้าเหลือง ฯลฯ เป็นต้น

ถัดออกจากตัวเมืองออกอีกนิด ที่อำเภอลอง ซึ่งเป็นเมืองเก่าและต้นกำเนิดของผ้าซิ่นตีนจกและขนมจีนน้ำย้อยเลื่องชื่อ มีชุมชนบ้านดอนทราย และชุมชนบ้านห้วยอ้อ มีตลาดและย่านการค้าอยู่ใจกลางหมู่บ้านให้ชมกันได้

ทั้งนี้ เมืองลองยังมีประวัติศาสตร์ตั้งแต่สมัยพระนางจามเทวีให้เห็น แหล่งท่องเที่ยวที่โดดเด่น ได้แก่ วัดพระธาตุศรีดอนคำ สถานที่ประดิษฐานพระพุทธรูปศิลปะพม่าที่ทำจากไม้ เรียกว่า “พระเจ้าพร้าโต้” และพระเจ้าไม้ 1,000 องค์ พิพิธภัณฑ์ห้องภาพฉลองศิลป์ตลาด 100 ปี พิพิธภัณฑ์โกมลผ้าโบราณ แสดงผ้าเก่าผ้าสะสมที่หาชมได้ยาก ต่อด้วยบ้านศิลปินแห่งชาติแม่ประนอม ทาแปง ผู้ทอผ้าซิ่นตีนจกได้งดงามเป็นที่หนึ่ง และโฮงซึงหลวง แหล่งผลิตเครื่องดนตรีล้านนา สะล้อ, ซอ, ซึง, พิณเปี๊ยะ ซึ่งเจ้าของร้านยังสอนเล่นดนตรีง่ายๆ ให้ด้วย ใครไม่ถนัดเล่น อยากฟังอย่างเดียวก็ได้เช่นกัน

ผู้อำนวยการ ททท. สำนักงานแพร่ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ที่วัดสูงเม่น อำเภอสูงเม่น ระหว่างวันที่ 30 ธันวาคม 2560 - 1 มกราคม 2561 มีการจัดงานเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ภายใต้งานประเพณี “ตากธัมม์ ตานข้าวใหม่ หิงไฟพระเจ้า” เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนมาร่วมทำบุญร่วมกัน

ขณะเดียวกัน ททท.สำนักงานแพร่ ยังเล็งเห็นคุณค่าของการอนุรักษ์คัมภีร์ล้านนาโบราณ ซึ่งวัดสูงเม่นมีอยู่ถึง 9,835 ผูก แต่ได้รับการชำระ หรือแปลออกมา เพียง 10% เท่านั้น จึงจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวกลุ่มผู้สูงอายุวัยเก๋า ในเส้นทางไหว้พระร่วมบุญชำระคัมภีร์หรือแปลคัมภีร์โบราณตลอดทั้งปี 2561 เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในกิจกรรมเพื่อสังคม ร่วมสืบทอดพระพุทธศาสนาและรักษามรดกทางภูมิปัญญาที่ตกทอดกันมาของชาวจังหวัดแพร่ อาทิ พระไตรปิฎกฉบับล้านนา, ตำรายาโบราณ, นิทานชาดก และนิทานพื้นบ้านฉบับล้านนา ถือเป็นการเริ่มต้นสิ่งมงคลเริ่มต้นปีด้วยธรรมะ ทำบุญชำระคัมภีร์เป็นมหากุศลอีกด้วย

ในอำเภอสูงเม่นยังมีชุมชนที่น่าสนใจ ได้แก่ ชุมชนบ้านพระหลวง มีแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ ได้แก่ วัดพระหลวง, พระธาตุเนิ้ง, พิพิธภัณฑ์วัดพระหลวง, บ้านแปดเหลี่ยม มีอาหารที่เป็นอัตลักษณ์ อาทิ ลาบขม, แหนม(จิ้นส้ม), แกงผักปั๋งใส่จิ้นส้ม, การทำน้ำปู (เคี่ยวน้ำปู) เป็นต้น

“สำหรับในช่วงเดือนธันวาคม 2560 - กุมภาพันธ์ 2561 ได้จัดทำบัตรโปรโมชั่นพิเศษส่วนลดช็อป ชิม ชิล ร่วมกับแหล่งท่องเที่ยว ผู้ประกอบการที่พัก ร้านอาหาร ร้านกาแฟ ร้านของที่ระลึกและสินค้าโอท็อปกว่า 50 ร้านค้าทั่วจังหวัดแพร่อีกด้วย โดยนักท่องเที่ยวสามารถสอบถามข้อมูลได้ที่ ททท.สำนักงานแพร่”

ผู้อำนวยการ ททท.สำนักงานแพร่กล่าวต่อว่า สำหรับในส่วนจังหวัดน่าน มีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวกลุ่มผู้หญิง ด้วยแคมเปญ “นุ่งซิ่น..จิบชา @ น่าน” เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2560 - 28 กุมภาพันธ์ 2561 รวม 3 เดือน โดยร่วมกับโรงเรียนน่านคริสเตียนศึกษา, หอการค้าจังหวัดน่าน, YEC น่าน และ อพท.น่าน จัดกิจกรรมเชิญชวนนักท่องเที่ยวกลุ่มผู้หญิงมาสัมผัสบรรยากาศเมืองน่าน ย้อนไปใน พ.ศ.2458 ตั้งแต่ยุคแรกที่มีมิชชันนารีเข้ามาในพื้นที่ บริเวณตึกรังษีเกษม โดยจัดชุดน้ำชา พร้อมขนมไทยบริการในราคาชุดละ 60 บาทไว้

สำหรับนักท่องเที่ยวที่ร่วมกิจกรรมแชะแชร์ภาพนุ่งซิ่นจิบชาทางอินสตาแกรม ติดแฮชแทค #TATPHRAE #นุ่งซิ่นจิบชา #ผู้หญิงเที่ยวน่าน ใครที่มียอดไลค์สูงสุดในแต่ละเดือน ททท.สำนักงานแพร่ มีของที่ระลึกจากน่านมอบให้ด้วย

ในเมืองน่านยังมี 10 ชุมชนน่าเที่ยวเส้นทางใหม่แนะนำ ซึ่งได้ออกแบบกิจกรรมท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์เพื่อนำเสนอในคุณค่าและจุดเด่นที่มีของชุมชน ได้แก่ ชุมชนบ่อสวก, ชุมชนนาซาว, ชุมชนในเวียง, ชุมชนม่วงตึ๊ด, ชุมชนปัว, ชุมชนวรนคร, ชุมชนมณีพฤกษ์, ชุมชนศิลาเพชร, ชุมชนเวียงสา และชุมชนน้ำมวบ ที่สามารถไปชมอัตลักษณ์และวิถีชีวิตของชาวน่านอย่างลึกซึ้ง

นอกจากนี้ ยังมีเส้นทางท่องเที่ยวธรรมชาติ เส้นทางชมดอกไม้ เส้นทางชมดาว ชมทะเลหมอกเพื่อส่งเสริมการเดินทางท่องเที่ยวในอุทยานแห่งชาติทั้ง 7 แห่งของจังหวัดน่าน และดอยต่างๆ อาทิ ดอยเสมอดาว, ดอยมณีพฤกษ์, ดอยภูคา, ดอยสันเจริญ, ดอยภูแว, ดอยตีดู้ว์ และบ่อเกลือ ซึ่งมีธรรมชาติที่สวยงามสามารถเดินทางท่องเที่ยวได้ทั้งปี โดยในช่วงกลางเดือนมกราคม - มีนาคม 2561 ดอกไม้ต่างๆ จะเริ่มบานสวยงาม และนักท่องเที่ยวสามารถมาเที่ยวชมได้ อาทิ ดอกนางพญาเสือโคร่ง, ดอกชมพูภูคา ที่จะบานเพียงปีละ 1 ครั้งเท่านั้นในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ - มีนาคม เป็นต้น

“ด้วยนโยบายของรัฐบาลและ ททท. ที่มุ่งเน้นเชิญชวนให้นักท่องเที่ยวกระจายตัวไปท่องเที่ยวในพื้นที่เมืองระดับรอง มั่นใจได้ว่าหากทุกท่านเลือกท่องเที่ยวเมืองน่านและแพร่ครั้งใหม่นี้ รับรองว่าจะไม่เหมือนเดิม ด้วย 3ไฮไลต์สำคัญ คือ ท่องเที่ยวชุมชน อาหารถิ่น และกิจกรรมเพื่อสังคมที่เติมเต็มความสุขและความประทับใจได้ตลอดปี 2561” ผู้อำนวยการ ททท. สำนักงานแพร่กล่าวปิดท้าย

ผู้ที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ททท. สำนักงานแพร่ รับผิดชอบพื้นที่จังหวัดแพร่และน่าน โทรศัพท์ 0-5452-1127 Facebook TATPHRAE รวมทั้งดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน Go2 Phrae-Nan เพื่อรับข้อมูลเกี่ยวกับแหล่งท่องเที่ยว หรือ 1672 เบอร์เดียวเที่ยวทั่วไทย.