22 เม.ย.2563 - พล.อ.ต.นพ.อิทธพร คณะเจริญ เลขาธิการแพทยสภา โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ในหัวข้อ "ละครหลายฉาก" ระบุว่า กราฟที่ยิ่งดูยิ่งภูมิใจในความเป็นไทย ตัวเลขสวยงามช่วงปิดเมือง เป็นเรื่องของ การค้นหา การตรวจเชื้อ การรักษา ของทางการแพทย์ รวมกับความอดทนและเสียสละของประชาชน ในการหยุดงานและมี การเว้นระยะห่าง โดยเฉพาะระดับ ล่างที่เสียสละอย่างมาก เป็น ฉากแรก ที่เราผ่านไปได้ด้วยดี คนป่วยน้อย คนตายน้อย แลกกับคนส่วนหนึ่งเดือดร้อน ตกงาน ขาดรายได้ จนถึงกลับบ้านต่างจังหวัด
ฉาก 2 ที่จะต้องมาถึง คือการเปิดเมือง ที่ต้องมาลุ้นว่ายังคงความเป็นแชมป์ต่อเนื่องหรือไม่ ขึ้นกับจังหวะและโอกาส ที่เราจะเปิดเมือง บวกกับความพร้อม ของ ผู้คนและปัจจัย เสี่ยง ทิศทางการระบาดหลักจะไม่ได้ขึ้นกับการแพทย์ เหมือนเดิม คนละเจ้าภาพ คนละฉาก
เปิดเมืองกลับมาทำงาน ฉากผู้ใช้แรงงาน ในร้านในสรรพสินค้า ในโรงงาน เป็นพระเอก กลับมาจะพักอยู่ที่ใด อยู่รวมกันในพื้นที่ราคาค่าเช่าถูก เช่นอาคารคอนโด กินอยู่อย่างไร ต้องสำรวจดูแล เดินทางอย่างไร มาที่ทำงาน เพราะคนจะแออัดทันที รถตู้จะจัดการอย่างไร ถ้าติดต่อกัน รถไฟฟ้า จะจัดการอย่างไร คนจะเข้ามา เดินทางพร้อมกันในช่วงเวลา กี่คน ต่อเส้นทางต่อชั่วโมง ถ้ามีผู้ป่วยใน 1 ตู้รถไฟฟ้าจะทำอย่าง ไร มาตรการต้องรองรับพระเอกฉากสอง เพราะมี บทเรียนชองกลุ่มนี้ที่ทำให้ระบาดซ้ำในหลายประเทศที่เปิดเมือง ทั้งที่ตัวเลขช่วงแรกต่ำๆแบบเรามาก่อน อย่าชะล่าใจครับ
ฉากต่อมาคือเมื่อถึงที่ทำงาน ห้างร้านแล้ว ดูมาตรการของห้างต่างๆ ทั้งของลูกจ้าง และของผู้มาใช้บริการ ที่วางไว้ เยอะแยะจุใจ เป็นสเต็ปเป็นขั้น เป็นตอน ทั้งใส่หน้ากากพ่นแอลกอฮอล์ ทำ ความสะอาดลิฟท์ และพื้นที่ หลายครั้งใน 1 วัน จนดูไม่น่ากังวลมากนักนะครับ ในการไปใช้บริการ
ฉากภาพการผ่อนคลายของคนเมือง ความเคยชิน การลดระดับ ของ Guard การกินเลี้ยง ชุมนุม ที่จะกลับมา มาตรการ จะยอม เมื่อไหร่อย่างไรน่าสนใจครับ เพราะจะเกี่ยวโยงกับยอดที่จะเพิ่มใหม่โดยตรง ถ้าเริ่มมีจะทำอย่างไร ต้องสื่อสารปัญหากันก่อนเลยครับ
ฉากเด็กๆที่ไปโรงเรียนและสถานศึกษา การจัดการเรียน โรงอาหาร กีฬา การสอบ เป็นพื้นที่เสี่ยงที่ระบาดง่าย ขั้นตอน เด็กเดินทางไปโรงเรียน ผ่านรถสาธารณะ สัมผัสกับ คนทำงาน ในห้าง บนรถตู้รถไฟฟ้า จะทำอย่างไร จะเหลือม เวลา อย่างไร ให้เด็กๆปลอดภัย และถ้ามีปัญหา รร.ใดจะมีมาตรการอะไร เพราะกลุ่มเหล่านี้ต้องพึ่งพาผู้ใหญ่และผู้ปกครอง
ฉากตัดกลับมาที่ รพ. กำลังเข้าโหมดรบกับไข้เลือดออก จากต้นปีมานี้ หลายพันคนแล้ว และกำลังจะเข้า Peak หลังฝนตก ตอนนี้มีไข้ไอน้ำมูก ต้องตกลงว่าจะตรวจอะไรบ้าง ถ้า pui ทั้งหมดคงโกลาหล หาอุปกรณ์ไม่ได้แน่นอน N95 ก็ยังมีไม่พอ ไข้เลือดออกตามมาสมทบเสียอีกแล้ว แคมเปญการรณรงค์กำจัดลูกน้ำยุงลาย ต้องรีบออกโดยพลัน มิฉะนั้นโรงพยาบาลจะศึกเข้า 2 ด้าน คนป่วยเกิดคล้ายกัน ไข้เลือดออกก็เป็นแชมป์เก่าของการเสียชีวิต เช่นกัน
ฉากเปิดเมืองจึงเป็นฉากสำคัญ ไม่มีเมืองใดปิดได้ตลอด ทุกคนต้องกลับมาใช้ชีวิต การเตรียมความพร้อมในแต่ละกลุ่ม มีความสำคัญมาก ต้องถูกแยกแยะ และคิดถึง ทีละกลุ่ม มีมาตรการ ถ้าอย่างไร จะทำแบบไหน ถ้าระบาด แค่ไหนจะหยุดต่อ แค่ไหนจะไปต่อ และจะช่วยพวกเขาอย่างไร เป็นความท้าทาย ของภาครัฐในวันนี้
แผนที่ดีคือไม่ใช่เพียงแค่เพื่อชัยชนะ แต่เพื่อความเสียหายน้อยที่สุดหากพ่ายแพ้ เพราะโควิดมองไม่เห็น รบกับสิ่งที่มองไม่เห็น ยากกว่าปกติหลายเท่า อาวุธสำคัญที่เราอาจทำให้เสมือนมองเห็นโควิดได้คือโปรแกรม ที่ถูกมาตอบโจทย์เช่นใน ประเทศจีนใช้ QR Code tracking เรามีหมอชนะ หากทุกคนใส่ใจ ลงข้อมูลและ สแกนทุกครั้ง อาจแก้ปัญหาได้ ด้วยเทคโนโลยีนี้ แบบเดียวกับที่จีนชนะครับ
ในที่สุดต้องเปิดเมืองแต่อยู่ที่จังหวะและโอกาส ใดที่เหมาะสม เปิดช้า ธุรกิจการค้าและประชาชนลำบาก เปิดเร็ว ชีวิตคนป่วยและตายมาก ควรต้องทำเส้นตัด ดูจุดสมดุลคุ้มค่า ให้เดือดร้อนไม่มากและ ตายไม่เยอะ ทีละพื้นที่ โดยมีแผนพร้อม รับมือ ที่ประชาชนเข้าใจปัญหาตรงกัน และร่วมมือกับภาครัฐ หากสถานการณ์เปลี่ยนไป รู้ก่อนเท่ากับเป็นการป้องกัน รู้ทีหลังกลายเป็นแก้ตัว นาทีนี้ต้องเดินไปด้วยกันครับ ถ้าไม่อยากเหมือนญี่ปุ่นหรือสิงคโปร์รอบ 2
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |