"สุดปลายเชือกก็ต้องปล่อย"


เพิ่มเพื่อน    

       คาดการณ์กันแต่แรกว่า.....

            "รัฐบาลประยุทธ์" โคแดง-โคส้มขวิดไม่พัง แต่เมื่อเจอโควิดขวิด พังแหง

            แต่ไม่ยักพัง!

            ตรงกันข้าม กลับอายุมั่น-ขวัญยืน แก่กล้าศักดาเดช-ศรีเป็นมนตรีธำรง คู่กับกรุงรัตนโกสินทร์

            ที่เวียนรอบวัน "องค์พระปฐมบรมราชจักรีวงศ์" ทรงประดิษฐาน "เสาหลักเมือง" ครบ ๒๓๘ ปี เมื่อวาน (๒๑ เม.ย.๖๓)

            เมื่อนายกฯ รับมือสถานการณ์ "โควิดเปลี่ยนโลก" ได้ดีผิดคาดเช่นนั้น ถึงขั้นโลกกล่าวขาน ไทยโดดเด่น เป็นหนึ่ง

            -"การสาธารณสุข" เป็นเยี่ยม

            -"มาตรการรัฐบาล" เป็นยอด และ

            -ประชาชน" เสียสละ-มีวินัย-ใจร่วม" เป็นเลิศ

            ไฟริษยาก็โหมเผาทรวง พวกการเมืองตระกูลโคและขบวนการล่มชาติ again and again

            ยิ่งเมื่อวาน โฆษก ศบค. "หมอทวีศิลป์" แถลงปฏิทินรายวัน ในขณะที่ประเทศอื่นๆ ยิ่งในอาเซียนด้วยกัน ตัวเลขป่วยโควิดพุ่งพรวดๆ น่าตกใจ

            แต่ของไทย ลดฮวบๆ ๒๑ เมษา. คนทั้งประเทศ ๖๗ ล้านคน มีป่วยแค่ ๑๙ คน        

            ในโรงพยาบาลทั้งประเทศ มีผู้ป่วยระหว่างรักษาอยู่แค่ ๖๕๕ ราย!

            มีแต่คนดีใจ ประเทศไทยใกล้พ้นทุกข์-พ้นโศกด้านโรคภัย ประชาชนจะได้ตั้งหลักชีวิตกันใหม่ ในมิติ New Moral กันซะที

            รัฐบาลก็จะได้เดินหน้า แก้ไข-ฟื้นฟู เศรษฐกิจ ว่าด้วยอุตสาหกรรมและการเกษตร เร่งทำหน้าที่เป็น "ครัวโลก" ผลิตอาหารเลี้ยงพลโลกที่กำลังหิวโหยตอนนี้

            แต่การเมืองใฝ่ต่ำกลับรุ่มร้อนใจ เมื่อนายกฯ ประยุทธ์ทำได้ ฝ่ายตัวเองที่เป็น "ผีรอป่าช้า" มา ๕-๖ ปี ต้องเป็น "ผีคาโลงผุ" เป็นแน่แล้ว

            วัน-สองวันนี้ จึงเห็น ทั้งผีเด็ก ผีผู้ใหญ่ กระทั่งผีที่ถูกศาลสะกดวิญญาณไปแล้ว ออกอาละวาด ทั้งโพสต์ ทั้งทวีต ทั้งสัมภาษณ์

            ไม่รู้ล่ะ ทุกเรื่อง-ทุกมาตรการ ที่รัฐบาลทำ เลวหมด, ผิดหมด, ไม่ถูก-ไม่ใช่ ไปทั้งหมด

            โดยเฉพาะเรื่อง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน มาตรการเคอร์ฟิว ก็คิดกันแบบง่ายๆ-พูดง่ายๆ เท่าที่สติปัญญาโคมี

            "ชาวบ้านไม่กลัวโควิด แต่กลัวอดตาย ที่ออกไปทำมาหากินไม่ได้"

            ก็พูดแบบมีเชือกสนตะพายคาปาก ไม่ฟังว่ารัฐบาลเขาบอกประเด็นคลาย-ประเด็นเข้ม ตรงไหน-อย่างไร ก็มุ่งค้าน-ต้าน-ด่า ตะบึงไป

            ว่ารัฐบาลใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เป็นการรวบอำนาจ ต้องคืนเสรีภาพให้ประชาชน ไปไหน-มาไหนได้อิสระ ประมาณนั้น

            ฝูงนี้....

            น่าต้อนไปรวมอยู่ในคอกทรัมป์ ที่สหรัฐฯ ดินแดนหลุมศพฟรีดอมโน่นน่ะ!

            พวกนี้ พูด-คิด-ทำ เป็นแพตเทิร์นเดียวกัน ที่บอกว่าเป็นตระกูลโค ไม่ผิดหรอก ทั้งพูด-คิด-ทำ ทำตามกันไปเป็นฝูงๆ

            ประชาชนเสียอีก กลับรู้ผิด-รู้ถูก

            ยอมสละตัวเอง ด้วยเข้าใจ โควิดเป็นมหันตภัยเฉพาะหน้า ยอมอด-ยอมทน ร่วมกันรบให้ชนะก่อน

            ส่วนจะเปิด-จะแง้ม หรือยังต้องปิดต่อที่ไหน ก็พิจารณาตามเหตุ-ปัจจัย เป็นพื้นที่ๆ ไป

            นักธุรกิจการค้า-การอุตสาหกรรมด้วยซ้ำ เดิมพันเขาเป็นหมื่น-เป็นแสนล้าน ไม่พูดซักคำ รัฐบาลเอาไง-เอากัน พร้อมใจร่วมมือทุกด้าน

            ตรงข้ามพวกการเมืองประเภท "ผีจับยัด" ต้นทุนมี ๒ อย่าง "น้ำลายกับสันดาน"

            วันๆ คอยประดิษฐ์แต่คำถากถาง-ด่ากระแทกรัฐบาล แล้วรับเงินเดือน เดือนละเป็นแสนๆ!

            และคอยหาช่อง-หาประเด็น หยิบมาเป็นเรื่องโจมตีรัฐบาล อย่างเรื่องเงินแจก ๕,๐๐๐ เรื่องค่าไฟฟ้าประจำเดือน

            คอยจับผิดคนทำงานน่ะ มันง่าย ถึงไม่ผิด กูพูดให้มันผิด ก็พูดได้ อย่างเรื่องแจก ต่อให้กางทะเบียนบ้านแจกมันครบทุกหัว-ทุกตัวคน

            ก็จะมีมนุษย์ป้าหน้าใหม่-หน้าเดิม ออกมาตีอก-ชกตัวรัวพูดเป็นชุดให้โทรทัศน์ถ่ายไปออกจออีกละว่า

            "บ้านนั้นลูกมาก ได้มาก ส่วนบ้านฉันลูกน้อย ได้น้อย แต่เดือดร้อนเท่าๆ กัน ฉันเดือดร้อนไม่มีจะกินมากกว่าด้วยซ้ำ รัฐบาลแจกอย่างนี้ได้ไง?"

            เห็นมั้ย เรื่องเงินน่ะ แจกก็มีปัญหา ไม่แจกก็มีปัญหา บางที แจกมีปัญหามากกว่าไม่แจกด้วยซ้ำ

            คนทำธุรกิจ บริษัท-ห้างร้าน จะรู้ดี ถึงปีปรับเงินเดือน หรือแจกโบนัส แทนที่จะดี กลับมีปัญหาจากพนักงานร้อยแปดให้ปวดหัว

            อย่างค่าไฟฟ้าที่โวยกันตอนนี้ โวยไม่ว่า แต่ตั้งประเด็นว่าการไฟฟ้าฯ โกงมิเตอร์ ผมว่ามันเกินไป

            ย้อนดูการใช้ไฟตัวเองก่อน แล้วขอความเห็นใจรัฐบาลในยามนี้ จะสวยงามกว่าโวยรัฐบาลโกยเงินกลับด้วยโกงค่าไฟ

            มันเป็นความจริงเชิงประจักษ์อยู่ ๑.หน้าร้อนใช้ไฟกันมากอยู่แล้ว ๒.ปิดบ้าน-ปิดเมือง ต้องอยู่กับบ้าน ใช้เพิ่มดับเบิลทวีคูณ

            ปกติเปิดแอร์ เปิดโทรทัศน์ ใช้เครื่องไฟฟ้าช่วงเย็นและช่วงค่ำ

            นอกนั้นใช้ไฟที่ทำงาน ที่สถานศึกษา, สถานบริการ ที่ห้าง โรงหนัง, โรงแรม, ร้านค้า ในรถ และ ฯลฯ

            เมื่อต้องเก็บตัวอยู่กับบ้าน ทำงานที่บ้าน กินที่บ้าน ทั้งเครื่องไฟฟ้าสารพัด ทั้งดูหนัง ฟังเพลง เล่นคอมพิวเตอร์ ทำอาหาร ซักผ้า

            โดยเฉพาะแอร์ที่เคยเปิดตอนเย็นและในห้องตอนนอน มีนา.-เมษา. "อยู่บ้าน-หยุดเชื้อ-เพื่อชาติ" ต้องเปิดตลอดทั้งวัน-ทั้งคืน

            มิเตอร์มันจะไม่หมุนจี๋ เห็นบิลค่าไฟหัวจะไม่หมุน-ตาไม่ลายได้ไง?

            ใช้เหตุ-ใช้ผล ขอความเข้าใจจากรัฐบาลในช่วงนี้ ราษฎร์ช่วยรัฐ-รัฐช่วยราษฎร์ ซักครึ่ง-ครึ่งช่วงนี้ จะได้ไหม?       

            สังคมก็จะน่ารัก.......

            มากกว่าที่จะด่าทอ ชี้หน้าว่าโกงนั่น-โกงนี่ พวกผีจับยัดก็ฉวยโอกาสตัดเติมเสริมเรื่อง ปั่นโพสต์-ปั่นทวีต กระทอกรัฐบาล    

            อย่างบางครอบครัว ทั้งพ่อ-ทั้งลูก ยกโคตรเหยียบย่ำด่าทอประเทศรายวัน ทั้งที่เป็นถึงระดับดอกเตอร์ จานมหา'ลัย?

            บางที ก็ไม่เข้าใจพวกนี้....

            เมื่อเห็นว่า ประเทศไทยไม่ดี ก็น่าหอบลูก-หอบเมียและตัวเอง เฉดหัวไปอยู่ประเทศที่เห็นว่าดี อาศัยเมียฝรั่ง-แม่ฝรั่ง ก็ทำได้ แต่ไม่ไป

            รับจ้างขบวนการไซออนิสต์เป็นไส้ศึก "ปั่นชาติ" อยู่ภายในนี่แหละ!

            ช่วงโควิดนี่ "แพทย์-พยาบาล-บุคลากรทางการแพทย์" ต้องยกว่าเป็น "ทหารเสือเสื้อกาวน์กู้แผ่นดิน"

            แต่มีหมออยู่คน อดีตก็เคยเป็นหมอเนื้อหอม สาวๆ ตอมอยู่กระทรวงสาธารณสุข

            แต่ตอนนี้ ผันมาเป็นทหารเสือนอกเสื้อกาวน์ คอยกู้อำนาจให้ระบอบทักษิณ-ยิ่งลักษณ์

            "นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว" ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย เมื่อวานเขาให้สัมภาษณ์ตอนหนึ่งว่า......

            "หากมาตรการทางด้านสาธารณสุขควบคุมได้ ไม่จำเป็นที่จะต้องต่ออายุพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน (พ.ร.ก.ฉุกเฉิน)

                รัฐไม่ควรขี่ช้างจับตั๊กแตน เอา พ.ร.ก.ฉุกเฉินมาใช้กับการแพร่ระบาดโควิด-19

                ตั้งแต่ พล.อ.ประยุทธ์ รวบอำนาจในการบริหารมาไว้ที่ตัวเอง ไม่น่าจะมีผลต่อการควบคุมการระบาดของไวรัส กลไกปกติของทีมแพทย์ทำงานเต็มความสามารถ ผลที่ตามมาจากการรวบอำนาจของ พล.อ.ประยุทธ์ คือ

                การดำเนินการในเรื่องต่างๆ ของรัฐบาลล้มเหลวมาตลอด"

                อืมมม......

            หมอคือหมอ แต่พอเข้าการเมืองระบอบทักษิณ จิตวิญญาณและจรรยาหมอ ดูจืดจางไปนะ

            เพื่อไทย-ระบอบทักษิณ คืนอำนาจเป็นรัฐบาลเมื่อไหร่ นพ.ชลน่าน รัฐมนตรีว่าการสาธารณสุข ไม่หนีไปไหน

            ที่ว่า "กลไกปกติของทีมแพทย์ทำงานเต็มความสามารถ" ผมไม่มีคำโต้แย้ง

                แต่ที่ว่า "การดำเนินการในเรื่องต่างๆ ของรัฐบาลล้มเหลวมาตลอด" ผมมีคำอยากกล่าวเล็กน้อยในภาพรวม ว่า

            ที่มาถึงวันนี้ มิใช่จากฝ่ายหนึ่ง-ฝ่ายใดโดยเฉพาะ

            หากแต่ "ทีมแพทย์+รัฐบาล" เพียรสร้าง และประชาชนเสริม ส่วนพวกไหน-ใครขวาง ก็ช่าง 

            เพราะนั่น มันเป็นรากเหง้าจากเวรคนเดนชั่ว จึงฝังชัง-ฝังพยาบาท เวียนผูกเป็นชาติกำเนิด

            ในการสร้างแย้ง-แช่งด่า ด้วยริษยาต่อกัน ถึงวันนี้ อยากบอกว่า

            ถ้าสามารถเปลี่ยนชาติภพ "หนอน" ให้หน่ายอุจจาระได้เมื่อไหร่

            เมื่อนั้น ค่อยคิดเปลี่ยนนิสัย-สันดานพวกชั่วช้าแต่ชาติกำเนิด ให้เกิดสัมมาทิฐิ

            รู้ว่าชาติ-ต้องรัก, พระศาสนา-ต้องปฏิบัติ และสถาบันพระมหากษัตริย์-ต้องเทิดรักษา

            ด้วยเหตุเช่นนี้......

            เมื่อรั้งสุดปลายเชือกแล้ว เหล่าโคสียังไม่ประสา ก็ปล่อยให้เตลิดตกหน้าผาไปตายเอง

            ตามคำที่ว่า "เป็นไปตามกรรม" เถิด!. 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"