โชคดีที่ได้รัฐบาลนี้นำทัพสู้โควิด


เพิ่มเพื่อน    

            ข่าวดีอีกตามเคย

            วานนี้ (๒๑ เมษายน) ตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-๑๙ รายใหม่แค่ ๑๙ รายเท่านั้น

            ถ้ายืนระยะกดลงให้เหลือเลขตัวเดียวสัก ๑๔ วันตามที่คุณหมอทวีศิลป์ วิษณุโยธิน ร้องขอไว้ ก็น่าจะเห็นหน้าเห็นหลัง

            เราจะค่อยๆ กลับไปใช้ชีวิตตามปกติที่เคยเป็นมา แต่ยังต้องรักษาระยะห่างทางสังคมและกายภาพไปอีกหลายเดือน

            ไม่เฉพาะไทยที่ต้องตัดสินใจ เปิดไม่เปิด คลายไม่คลาย ที่ออสเตรเลียก็มีความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจ และเป็นการบ้านให้เราได้ลอกเช่นกัน

            นักเศรษฐศาสตร์ออสเตรเลีย ๑๒๒ คน เขียนจดหมายเปิดผนึก ถึง สกอต จอห์น มอร์ริสัน นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย ให้รอบคอบในการตัดสินใจ เปิดประเทศ เปิดเศรษฐกิจ ภาคธุรกิจ หลังต้องปิดจากวิกฤติโควิด-๑๙

            นักเศรษฐศาสตร์กลุ่มนี้ให้ความเห็นว่า

            ...อย่าเสียสละสุขภาพและชีวิตผู้คนด้วยความหวังว่าเศรษฐกิจจะกลับมาเป็นปกติ

            แต่ควรรักษาชีวิตผู้คน

            และทุ่มเทงบประมาณบรรเทาผลกระทบเศรษฐกิจต่อประชากรและธุรกิจไปอีกสักระยะ

            การไม่แยแสต่อชีวิตเป็นเรื่องน่ารังเกียจทางศีลธรรม

            และการคาดหวังว่า การผ่อนปรนก่อนกำหนดเพื่อเป็นประโยชน์ต่อเศรษฐกิจ จะนำไปสู่ความผิดพลาดอัตราการแพร่เชื้อจะกระจายอย่างรวดเร็ว

            จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งที่จะต้องรักษามาตรการทางสังคมไว้ จนกว่าจำนวนการติดเชื้อจะต่ำลงมากที่สุด

            หากเกิดการระบาดรอบ ๒ จะสร้างความเสียหายอย่างมากต่อเศรษฐกิจ นอกเหนือไปจากการสูญเสียชีวิตอย่างไม่ควรจะเกิด...

            ครับ...ที่ออสเตรเลียก็ไม่ต่างจากไทยสักเท่าไหร่ ที่นักเศรษฐศาสตร์ออสเตรเลีย ๑๒๒ คนนี้ต้องออกมา เพราะมีนักวิจารณ์ นักเคลื่อนไหว นักการเมือง อ้างว่าชีวิตที่ได้รับการช่วยเหลือจากการล็อกดาวน์นั้นไม่คุ้มกับความเสียหายที่เกิดขึ้นกับเศรษฐกิจ

            ในไทยก็มีกลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมือง ออกมาด่าเรี่ยราดเช่นกัน

            กระแนะกระแหน คุณหมอทวีศิลป์ ว่า ช่วยแถลงยอดผู้ที่ฆ่าตัวตายเพราะไม่ได้รับความช่วยเหลือจากรัฐบาลด้วย

            พรรคเพื่อไทยโวยวายว่ารัฐบาลต่ออายุ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เท่ากับขี่ช้างไล่จับตั๊กแตน

            ที่หนักหนาสาหัสดูจะเป็น พล.ท.พงศกร รอดชมภู อดีต ส.ส.ของอดีตพรรคอนาคตใหม่ ที่ทำตัวเข้าอกเข้าใจฝรั่งมากกว่าใคร

            เห็นฝรั่งแหกกฎมาตรการทางสังคมไปนั่งตากแดดว่า นั่นคือความรักในสิทธิและเสรีภาพของฝรั่งยิ่งกว่ากลัวความตาย

            จะบอกว่าฝรั่งตายเป็นเบือเพราะรักในเสรีภาพ ก็คงไม่ใช่ แต่เพราะประมาทมากกว่า

            ฝรั่งไม่คิดว่าโควิด-๑๙ จะสร้างความเสียหายได้มากขนาดนี้ แรกๆ พวกเขาไม่ใส่หน้ากากอนามัย  ไม่รักษาระยะห่างทางสังคม และคนไทยกลุ่มนี้นี่แหละ เคยแหกปากว่าใส่หน้ากากอนามัยทำไม ฝรั่งยังไม่ใส่เลย

            มาวันนี้ฝรั่งเห็นของจริงแล้ว ตายหลักหมื่น ป่วยหลักแสน

            กลัวตายใส่หน้ากากกันหมด!

            แต่ พล.ท.พงศกร ดูยังจะบูชาฝรั่งจนน่าหมั่นไส้ แนะนำให้คนไทยลองฝึกคิดแบบฝรั่งบ้างก็ดี ใช้เหตุผลและวิทยาศาสตร์เยอะๆ วิกฤติแบบนี้มีเรื่องใหม่ๆ เกิดขึ้นให้วิเคราะห์ได้ดีทีเดียวน่าสนุกมาก

            ครับ...โชคดีที่รัฐบาลของประเทศไทยในช่วงการระบาดโควิด-๑๙ ไม่ได้มาจากพรรคการเมืองรักเสรีภาพมากกว่าชีวิต

            ไม่งั้นคงตายกันเป็นเบือไปแล้ว.

 

  


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"