21 เม.ย.63-นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยภายหลังการประชุมติดตามโครงการขนาดใหญ่ที่ล่าช้าของกระทรวงคมนาคม ว่า ขณะนี้ยังมีหลายโครงการที่มีความล่าช้า เนื่องจากติดปัญหาในเรื่องของการบังคับใช้ข้อกฎหมาย การเช่าพื้นที่ และการควบคุมงานที่ไม่มีประสิทธิภาพ โดยในปัจจุบันภาพรวมโครงการทางของกรมทางหลวง (ทล.) ข้อมูล ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2563 มีโครงการขนาดใหญ่ที่มีมูลค่าโครงการ 500-10,000 ล้านบาท ซึ่งมีจำนวน 308 โครงการ แบ่งเป็น โครงการแล้วเสร็จ 81 โครงการ และโครงการยังไม่แล้วเสร็จ 222 โครงการ 

ทั้งนี้ ได้สั่งการให้เร่งรัดดำเนินการ 5 โครงการ ได้แก่ 1.โครงการก่อสร้างถนนพระราม 2 ทางหลวงหมายเลข 35 ทางแยกต่างระดับบางขุนเทียน-เอกชัย ซึ่งในขณะนี้ ภาพรวมการดำเนินการเร็วกว่าแผนที่วางไว้ หรือมีความคืบหน้า 69.31% โดยสั่งการให้เร่งการคืนผิวทางหรือการลาดยาง โดยตอนที่ 1 และ 2 จะแล้วเสร็จภายใน พ.ค. 2563 และแล้วเสร็จครบ 3 ตอนหรือ 100% ภายใน ก.ค. 2563 จากนั้นจะดำเนินการทางกลับรถ หรือเกือกม้า ให้แล้วเสร็จได้ ก.พ.2564

นอกจากนี้ ภายหลัง พ.ค. 2563 จะเริ่มดำเนินการก่อสร้างโครงการทางด่วนพระราม 3 ซึ่งเป็นทางด่วนยกระดับ โดยสั่งการให้มีการบูรณการร่วมกับการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) เพื่อไม่ให้มีปัญหาติดขัดเรื่องจราจร โดยขณะนี้มีการวางแผนแล้ว โดยมีการออกแบบการก่อสร้างให้ไม่รบกวนผิวทางจราจร

2.โครงการก่อสร้างทางหลวงหมายเลข 118 สายเชียงใหม่-เชียงราย 8 สัญญา โดยจากข้อมูลพบว่า การก่อสร้างยังมีปัญหา ทั้งนี้ ตนจึงได้สั่งการให้นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) เร่งรัดการก่อสร้าง โดยตอนนี้ช่วงที่ 1 ช่วง อ.ดอยสะเก็ด-อ.ป่าเมี่ยง ได้ก่อสร้างเป็น 4 ช่องจราจรเสร็จแล้ว และคาดว่าทุกช่วงจะดำเนินการแล้วเสร็จ พร้อมเปิดบริการได้ในช่วง ก.พ. 2564

3.โครงการพัฒนาคูน้ำริมถนนวิภาวดีรังสิต ระยะที่ 2 ซึ่งมี 3 ตอนนั้น ในขณะนี้สามารถดำเนินการได้ตามแผนที่กำหนด ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในต้น ธ.ค. 2564 โดยเมื่อดำเนินการแล้วเสร็จจะป้องกันปัญหาน้ำท่วมได้อย่างมีประสิทธิภาพ 4.โครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) สายบางใหญ่-กาญจนบุรี (M81) ที่ได้เริ่มดำเนินการตั้งแต่ปี 2559 และคาดว่าจะเร่งรัดดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน ก.พ. 2566 อย่างไรก็ตาม เมื่อโครงการแล้วเสร็จนั้น เชื่อว่าจะเป็นเส้นทางคมนาคมจากกรุงเทพไปทางภาคตะวันตก ซึ่งจะช่วยประหยัดเวลาการเดินทาง เพียง 1 ชั่วโมงเท่านั้น

5.โครงการมอเตอร์เวย์ สายบางปะอิน-สระบุรี-นครราชสีมา จำนวน 40 สัญญา ขณะนี้ภาพรวมโครงการแล้วเสร็จกว่า 80% ยืนยันว่า จะสามารถเปิดให้บริการได้ในปี 2565 พร้อมได้สั่งการให้เร่งรัดให้เปิดให้บริการก่อน โดยขณะนี้เหลือเพียงการติดตั้งระบบความปลอดภัยและค่าผ่านทาง

นายศักดิ์สยาม กล่าวถึงสถานการณ์โควิด-19 ว่าขณะนี้ทุกหน่วยงานได้ปฎิบัติตามมาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุข จากสถิติวันนี้เป็นที่หน้าชื่นชม แต่ก็คงจะประมาทไม่ได้ซึ่งสถิติหลายอย่างชี้ให้เห็นว่าประเทศไทยกำลังมีทิศทางที่ดีขึ้นในการที่จะต่อสู้กับสถานการณ์นี้ได้ท่าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้กำชับในเรื่องนี้ว่าอย่าประมาท ขณะที่ในส่วนของกระทรวงคมนาคมได้มีมาตรการมาตั้งแต่แรกเรื่องของการทำความสะอาดไม่ว่าจะเป็นยานพาหนะ,สถานีขนส่ง หรือที่นั่งผู้โดยสาร และที่เน้นย้ำที่สุดคือมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมเมื่อผู้โดยสารขึ้น-เรือจะเห็นว่าเจ้าหน้าที่ได้จัดที่นั่งเว้นระยะห่างกัน

“มาตรการที่ดำเนินการนั้น เพื่อความปลอดภัยให้แก่ผู้ใช้บริการรวมถึงการใส่หน้ากากอนามัย ขอความร่วมมือให้ทุกท่านสวมใส่เมื่อออกจากบ้านรวมถึงเมื่อใช้บริการระบบขนส่งสาธารณะทุกประเภท สิ่งเหล่านี้จะช่วยลดให้การแพร่กระจายของเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้ สิ้นเดือนเม.ย.นี้เมื่อรัฐบาลได้ประเมินแล้วว่าเรามีแนวโน้มในการป้องกันการแพร่ระบาดได้ดีเราอาจจะมีข่าวดีมีโอกาสกลับไปใช้ชีวิตปกติที่เคยเป็น”นายศักดิ์สยาม กล่าว