หลังจาก พ.ร.ก.เงินกู้ 1 ล้านล้านบาท หนี้มากที่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศ ผ่านราชกิจจานุเบกษาฯ จากนั้นก็ถูกฝ่ายค้านตั้งแท่นตรวจสอบทันทีในการเปิดสมัยประชุมสภาฯ ในปลายเดือน พ.ค.นี้

     ฝ่ายค้านขู่ในทำนองว่า เตรียมตัวดี เพราะเล็งเห็นว่าจะเกิดการเอื้อประโยชน์ รวมทั้งมีการโกงมหาศาลหรือไม่ #รัฐบาลขอทาน

     เป้าที่ถูกล็อกตรวจสอบคงหนีไม่พ้นคือทีมเศรษฐกิจ ภายใต้ความรับผิดชอบของ สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ และ อุตตม สาวนายน รมว.การคลัง

     โดยเฉพาะ พ.ร.ก.เงินกู้ 1 ล้านล้านบาท ที่แบ่งเป็นเงิน 2 ก้อนคือ ก้อนแรกจำนวน 6 แสนล้านบาท ที่เกี่ยวกับการจ่ายเงินเยียวยาประชาชน ที่ส่วนใหญ่มุ่งไปที่การจ่ายเงิน 5 พันบาท เป็นเวลา 3เดือน ว่าจะจ่ายให้ทุกคนอย่างเท่าเทียมและเป็นธรรมหรือไม่ จากเดิมเคยให้ความหวังว่าจะจ่าย 6 เดือน

     รวมทั้งชี้แจงกรณีมีผู้เดือดร้อนไปทวงถามเรื่องนี้ที่กระทรวงการคลัง แต่ถูก จนท.ปิดประตูกระทรวงใส่หน้าประชาชน

     แต่ที่น่ากังวลมากคือเงินอีก 4 แสนล้านบาทที่รัฐใช้ฟื้นฟูเศรษฐกิจลงไปในพื้นที่ต่างๆ ผ่านกลไกกระทรวงมหาดไทย และกองทุนหมู่บ้าน แม้คนกันเองยังออกอาการห่วง

     คำนูณ สิทธิสมาน สมาชิกวุฒิสภาโพสต์ จับตาเงินกู้ 1 ล้านล้านบาท ดักคอ "ฝูงแร้งลง"-"รุมทึ้ง"-"เชื้อชั่วไม่ยอมตาย"

    "เบื้องต้นจะต้องไม่ใช่แค่งบประมาณเพื่อหาเสียงหาคะแนนนิยมให้พรรคการเมืองต่างๆ ตามที่ผู้เชี่ยวชาญทางการเมืองในทางปฏิบัติที่เป็นจริงเขาห่วงกัน"

     กรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า ตั้งข้อสังเกตว่า "ผมเห็นว่าต้องมีแผนในรายละเอียด อย่าลักไก่หลีกเลี่ยงกลไก พ.ร.บ.งบประมาณปกติ"

     นี่แค่เงินกู้ 1 ล้านล้านบาท ยังไม่นับเรื่อง พ.ร.ก.การรักษาเสถียรภาพของระบบการเงินฯ ที่ฝ่ายค้านจับตาว่าแบงก์ชาติจะโอบอุ้มเสี่ยงผลประโยชน์ทับซ้อนช่วยเอื้อตราสารหนี้ให้บริษัทยักษ์ใหญ่ที่จะครบกำหนดไถ่ถอนปีนี้ด้วยหรือไม่

     ประเด็นเหล่านี้ จึงเป็นสิ่งที่ทีมเศรษฐกิจต้องชี้แจง...เพื่อกู้วิกฤติติดศูนย์ให้รัฐบาล

                             เด็กคลองเตย