ประเด็นที่ถกเถียงกันมากในวันนี้
    ไม่ใช่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เท่าไหร่
    แต่เป็นเรื่อง...ต้นเดือนพฤษภาคมนี้ จะคลายล็อก....หรือจะล็อกดาวน์กันต่อไป
    ความบีบคั้นด้านเศรษฐกิจปากท้อง มองข้ามไม่ได้เลย แม้รัฐบาลจะเยียวยา แต่ในความจริงมันไม่เพียงพอต่อการดำรงชีพ
    อีกมุมหนึ่ง ภาพของสิงคโปร์-ญี่ปุ่นก็ตามหลอนเราอยู่ คลายล็อก การ์ดตกเมื่อไหร่ การระบาดรอบใหม่จะตามมาทันที
    เท่ากับว่าที่ทำมาทั้งหมดสูญเปล่า
    ฉะนั้น การตัดสินใจเรื่องนี้จึงไม่ง่าย มีข้อมูลและเงื่อนไขที่ต้องนำมาประกอบการพิจารณามากมาย
    มีพวกไม่ชอบขี้หน้ารัฐบาลบอกว่า "ลุงตู่" กำลังขี่ช้างไล่จับตั๊กแตน
    ตัวเลขคนติดเชื้อรายใหม่แค่ ๓๐ บวก-ลบนิดหน่อย แต่ดันปิดประเทศทำคนตกงาน ไม่มีจะกินเป็นล้านๆ
    แม้กระทั่ง "หมอใหญ่" บางท่านยังจับประเด็นผิด ตำหนิคุณหมอทวีศิลป์ วิษณุโยธิน เรื่องประชาชนไปรับของบริจาคย่านดอนเมืองว่าทำเกินหน้าที่
    ติว่าการแถลงของโฆษก ศบค. ถ้าเมื่อไหร่ยอดป่วยและตายเพิ่มขึ้นก็จะแถลงว่าเพราะคนไทยไร้วินัย ไม่ค่อยให้ความร่วมมือ แต่ไม่เคยยอมรับในความล้มเหลวและเหลวแหลกที่ปล่อยให้คนนำเข้าเชื้อจากต่างประเทศมาติดคนไทย
    แล้วสรุปว่า ชาวบ้านไปแออัดรับของบริจาคเพราะ "เขาหิว" ไปว่าเขาทำไม
    "หมอใหญ่" ท่านที่ว่านี้คือ คุณหมอเรวัต วิศรุตเวช อดีตอธิบดีกรมการแพทย์
    อดีตที่ปรึกษา "ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ" เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง รมช.พาณิชย์ สมัยรัฐบาลเพื่อไทย
    คุณหมอเรวัตสวมเสื้อพรรคเสรีรวมไทย ทำหน้าที่รองหัวหน้าพรรค ดูแลงานด้านสาธารณสุขและสังคมให้พรรคในการเลือกตั้งที่ผ่านมา
    ครับ...ฟังคำแถลงของคุณหมอทวีศิลป์ในวันนั้น ไม่ได้เป็นการตำหนิชาวบ้าน แต่เตือนว่าการให้และรับของบริจาคช่วงนี้ต้องมีการจัดระบบ เว้นระยะห่าง ไม่ให้แออัดเกินไป เพราะเสี่ยงต่อการติดเชื้อ
    ความจน ความหิว เป็นอีกเรื่อง
    แต่ถ้าอ้างว่าจน หิว แล้วไม่สนใจมาตรการป้องกันโรค เกิดติดโควิด-๑๙ กันงอมแงม ใครจะรับผิดชอบ
    ฉะนั้น เวลานี้จะมองอะไรมิติเดียวไม่ได้ ละทิ้งเรื่องการเมืองได้ก็ควรละไปก่อน
    ที่ยกตัวอย่างนี้มาบอกเล่า เพราะต้องการให้เห็นว่าการคลายหรือไม่คลายล็อกต้องใช้ข้อมูลที่รอบด้าน โดยปราศจากอคติ และไม่ใช่การตัดสินใจของคนเพียงคนเดียว
    เป็นเรื่องของทีม
    "ลุงตู่" มีทีมอยู่แล้ว มีคณะแพทย์ ทีมข้าราชการ ภาคเอกชน คณะรัฐมนตรี ตัดสินใจร่วมกัน
    แต่ผู้รับผิดชอบคือ "ลุงตู่"
    และนี่คือหัวเลี้ยวหัวต่อสำคัญของประเทศไทย จะคลายล็อกหรือไม่ แค่ไหน คลายแล้วเอาอยู่หรือเปล่า
    สุดท้ายขอแจ้งข่าวร้ายในวันนี้ ยอดผู้ป่วยโควิด-๑๙ สิงคโปร์กำลังจะแซงญี่ปุ่น.