นักวาดการ์ตูนนำแนวทาง WORK FROM HOME ลดการแพร่เชื้อ มาเล่าในสไตล์ขายหัวเราะ

 

 

     สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ทุกสาขาอาชีพรวมพลังกันเพื่อก้าวผ่านวิกฤติในครั้งนี้ "ขายหัวเราะ” นิตยสารการ์ตูนไทยที่โด่งดังอาสาร่วมเผยแพร่ข้อมูลแนวทางปฏิบัติควบคุมการแพร่เชื้อโควิดผ่านตัวการ์ตูนแบบฉบับขายหัวเราะ เพื่อสนับสนุนทีมหมอและพยาบาลด่านหน้าที่กำลังต่อสู้กับโรคระบาดครั้งใหญ่ และช่วยคนไทยได้ความรู้ปกป้องตัวเอง  

       พิมพ์พิชา อุตสาหจิต กรรมการบริหาร กลุ่มบริษัท บันลือ กรุ๊ป กล่าวว่า ในเวลาที่ประเทศเกิดวิกฤติทางด้านสาธารณสุข มีการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 การสื่อสารเป็นสิ่งสำคัญมาก ขายหัวเราะมีความถนัดด้านงานศิลป์ มีประสบการณ์สื่อสารเรื่องยากให้เป็นเรื่องง่าย จึงได้ออกประกาศแสดงความช่วยเหลือหน่วยงานสาธารณสุขในการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ข้อมูลโรคโควิด-19 โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ซึ่งได้รับการตอบรับจากหน่วยงานและองค์กรจำนวนมาก ด้วยตัวการ์ตูนขายหัวเราะมีคาแรคเตอร์เฉพาะตัว เฟรนลี่ และเข้าถึงทุกเพศทุกวัย โดยสื่อสารหัวข้อต่างๆ ผ่านภาพการ์ตูนและการเล่าเรื่องที่เป็นประโยชน์กับประชาชน

 

 

      สำหรับหน่วยงานที่ขายหัวเราะได้ร่วมสนับสนุนวาดการ์ตูนให้ความรู้สู้โควิด-19 ไปแล้ว อาทิ กรมอนามัย เนื้อหาของการ์ตูนเกี่ยวกับการล้างมืออย่างถูกวิธีป้องกันเชื้อไวรัส และการใช้น้ำยาทำความสะอาดฆ่าเชื้อโควิด-19, กรมควบคุมโรค เขียนการ์ตูนแนะนำการปฏิบัติตัวระหว่างกักตัวทั้งตัวเองและผู้อยู่อาศัยร่วมบ้าน, ทันตแพทยสภา ทำการ์ตูนสื่อสารข้อมูลการดูแลเหงือกและฟันช่วยป้องกันแพร่เชื่อโควิด, สภากาชาดไทย เนื้อหาการ์ตูนเรื่องการขาดแคลนโลหิตและแนะนำการบริจาคเลือด นอกจากนี้ ขายหัวเราะออกการ์ตูนโควิดให้กับกระทรวงสาธารณสุข สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.), กระทรวงวัฒนธรรม, Covid Bot Thai Cocare, กลุ่มแพทย์ผู้นำยุคใหม่ สถาบันพระปกเกล้า รวมถึงมูลนิธิศูนย์นมแม่แห่งประเทศไทย เนื้อหาการ์ตูนเรื่องการให้นมบุตรและดูแลทารกแรกเกิดอย่างปลอดภัยจากไวรัสนี้

 

ขายหัวเราะจับมือ WHO ออกการ์ตูนสลายความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับโควิด-19  ภาพนี้เป็น 1 ใน 12 ความเชื่อผิดๆ

 

      “ การ์ตูนโควิด-19 ขายหัวเราะคัดเลือกประเด็นสำคัญสื่อสารกับประชาชน ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูล และสร้างสรรค์องค์ความรู้ที่เข้าใจง่าย เพื่อให้การ์ตูนมีส่วนช่วยปกป้องชีวิตคน และตระหนักถึงการดูแลตัวเอง เล่าผ่านการ์ตูนสั้นและแก๊กขายหัวเราะ เราระดมพลังทีมขายหัวเราะตั้งแต่นักเขียนการ์ตูนรุ่นพี่ที่มีลายเส้นเป็นเอกลักษณ์ อย่างพี่ต่าย พี่เฟรน พี่เอ๊าะ และนักเขียนรุ่นใหม่นิวเจนมีลายเส้นร่วมสมัย ทั้งพี่น้อยหน้า พี่ยุง พี่วิรัตน์ เจ้าของนามปากกา ณ เอก วาดการ์ตูนและใส่แก๊กผ่านตัวการ์ตูนจากข้อมูลและเนื้อหาที่ส่งมา" พิมพ์พิชา กล่าว

 

พิมพ์พิชา อุตสาหจิต กรรมการบริหาร กลุ่มบริษัท บันลือ กรุ๊ป  

 

      สดๆ ร้อนๆ การ์ตูนไทย "ขายหัวเราะ” ร่วมมือกับองค์กรระดับโลกอย่าง องค์การอนามัยโลก (WHO) ประเทศไทย ออกการ์ตูนความรู้โควิด-19 ผู้บริหาร กลุ่มบริษัท บันลือ กรุ๊ป กล่าวว่า เป็นอีกความภาคภูมิใจที่ขายหัวเราะได้ทำแคมเปญร่วมกับ WHO ไทย โดยได้รับการติดต่อจาก ดร.อิสระ เสรีวัฒนวุฒิ ผู้ก่อตั้งกลุ่ม Know Covid ซึ่งได้ประสานความร่วมมือกับ WHO ไทย ประชุมร่วมกัน โจทย์เป็นการ์ตูนเล่าเกี่ยวกับความเชื่อผิดๆ 12 ประการเกี่ยวกับโควิด-19 โดยอ้างอิงจากข้อมูลทางวิชาการล่าสุด เราเห็นด้วยกับเนื้อหา เหมาะกับสถานการณ์ประเทศไทย จำเป็นมาก เพราะที่ผ่านมาพบปัญหาข่าวลวง หรือ Fack News ในโลกโซเชียล ประชาชนไม่รู้ว่าผิดหรือถูก สิ่งที่น่ากลัวคือ การทำตามความเชื่อผิดๆ โดยไม่รู้ตัว เช่น การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ช่วยป้องกันโควิด ทั้งที่ไม่ได้ช่วย แต่ควรป้องกันด้วยการล้างมือบ่อยๆ สวมหน้ากากอนามัย เลี่ยงการเข้าใกล้ผู้ที่มีไข้ มีอาการไอ หรือความเชื่อผิดๆ เครื่องวัดอุณหภูมิสามารถระบุผู้ป่วยที่เป็นโควิดได้ 100%  ซึ่งข้อเท็จจริงไวรัสใช้เวลา 2-10 วัน ทำให้ผู้ติดเชื้อป่วยและมีไข้ อีกความเชื่อ การฉีดพ่นแอลกอฮอล์หรือคลอรีนใส่ตามตัวฆ่าเชื้อไวรัสโควิดที่อยู่ในร่างกายได้  ซึ่งไม่ถูกต้อง จะทำลายเยื่อบุทั้งตา ปาก การ์ตูนชุดนี้จะป้องกันความเข้าใจผิดได้

รักษาระยะห่างระหว่างกัน  หรือ Social Distancing มาตรการหยุดแพร่เชื้อโควิดผ่านการ์ตูน 

 

      “ การ์ตูนโควิดได้รับการตอบรับดีมากจากสังคมในวงกว้าง นอกจากเผยแพร่ผ่านช่องทางของหน่วยงานต่างๆ แล้ว ยังผ่านเพจเฟซบุ๊กขายหัวเราะ มียอดวิว ยอดไลค์ ยอดแชร์คึกคักจากแฟนๆ ขายหัวเราะ และประชาชนที่เข้าถึงการ์ตูนและเห็นประโยชน์ อีกทั้งมีการนำไปใช้เป็นสื่อสอนเด็กๆ ต่อด้วย ดีใจที่การ์ตูนปกป้องชีวิตเด็ก ประชาชน และช่วยลดภาระบุคลากรทางการแพทย์ได้" พิมพ์พิชา กล่าว

 

แก๊กขำขันตามแบบฉบับขายหัวเราะ คลายเครียดยุคโควิด

 

      นอกจากการ์ตูนจะส่งมอบความรู้และความสุขให้ผู้คน พิมพ์พิชากล่าวว่า ขายหัวเราะยังเป็นบันทึกประวัติศาสตร์ไทยและเหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้น ที่ผ่านมาการ์ตูนไทยขายหัวเราะมีประโยชน์ช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตคน ก่อนสถานการณ์โควิด เราทำหน้าที่เป็นกระบอกเสียงให้คนไทยเกิดความตระหนักและตื่นตัวปัญหาฝุ่น PM 2.5 จับตัวการ์ตูนใส่หน้ากาก เล่าเรื่องราว โดยไม่เอ่ยถึงฝุ่นพิษนี้ แต่นักอ่านรู้สึกได้ผ่านการ์ตูนว่า ปัญหามลพิษไม่ควรละเลย ขายหัวเราะ เป็นสื่อ Edutainment เรื่องซับซ้อนเวลาเล่าผ่านคาแรคเตอร์ปังปอนด์ไอ้ตัวเล็ก, หนูหิ่น คนเปิดรับมากขึ้น นี่เป็นงานศิลปะ และเสน่ห์ของขายหัวเราะที่อยู่คู่คนไทย ส่วนนิตยสารการ์ตูนขายหัวเราะเล่มต่อไป ทีมงานกำลังระดมสมอง ส่วนจะออกรูปแบบและทิศทางใด ฝากติดตามกัน แต่สิ่งที่อยากสื่อสารในยุคโควิด นอกจากความรู้ คือ การให้กำลังใจและสร้างอารมณ์ขัน อยากให้คนไทยหัวเราะได้ จนกว่าจะผ่านวิกฤตินี้ไปด้วยกัน ช่วงที่คนอยู่บ้าน ทำงานที่บ้านเป็นเวลานานเครียด การ์ตูนจะเป็นเพื่อนหัวเราะด้วยกัน