ผบ.ตร.สั่งคุมเข้มตรวจคนเข้าด่านชายแดน ส่อวุ่นคนไทยตกค้างมาเลย์ทยอยกลับ ชาวบ้านตั้งป้อมต่อต้านหวั่นนำเชื้อโควิด-19 เข้ามา ด้าน สคร.12 วอนประชาชนอย่าตระหนก มีกลุ่มนี้ความเสี่ยงต่ำให้มั่นใจกระบวนการคัดกรอง ขณะที่อำนาจเจริญ-ภูเก็ตเฮ ปลอดติดเชื้อต่อเนื่อง 
    เมื่อวันอาทิตย์ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. กล่าวถึงกรณีตามที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองได้เปิดด่านพรมแดนทางบกรับคนไทยกลับเข้ามาประเทศตั้งแต่ 18 เม.ย.63 ที่ผ่านมา ตามหนังสือของกระทรวงมหาดไทย ด่วนที่สุด ที่ มท 0230/ว2158 ลงวันที่ 10 เม.ย.63 ถึงแนวทางปฏิบัติในการเดินทางกลับเข้ามาในราชอาณาจักรของคนสัญชาติไทยจากประเทศเพื่อนบ้านผ่านช่องทางในพื้นที่จังหวัดชายแดนว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้เน้นย้ำกำชับการปฏิบัติไปยังสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ตำรวจพื้นที่ ตชด. ให้ประสานการปฏิบัติกับกรมควบคุมโรค ผู้ว่าราชการจังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการปฏิบัติตามระบบการควบคุมโรค พร้อมยึดหลักกฎหมาย ระเบียบ คำสั่งต่างๆ ที่เกี่ยวข้องในช่วงการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ซึ่งมีการกำหนดจำนวนผู้เดินทางวันละไม่เกิน 100คนต่อช่องทาง 
    พ.ต.อ.กฤษณะระบุด้วยว่า และต้องเข้ามาตามกำหนดวันและช่องทางผ่านแดนที่ระบุไว้ในหนังสือรับรอง โดยต้องเดินทางถึงช่องทางผ่านแดนก่อนเวลา 12.00 น. อีกทั้ง ผบ.ตร.มีความห่วงใยเจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยร่วมปฏิบัติทุกภาคส่วน โดยขอให้ใส่อุปกรณ์ป้องกันตนเอง หน้ากากอนามัย ถุงมืออนามัย face shield ล้างมือให้สม่ำเสมอ เพื่อให้เกิดความปลอดภัยของผู้ปฏิบัติงานทุกนาย
    วันเดียวกัน ตั้งแต่ช่วงเช้า ที่ด่านพรมแดนเบตง อ.เบตง จ.ยะลา แรงงานไทยในมาเลเซียเดินทางกลับมาตามยอดที่แจ้งจำนวน 39 ราย เป็นวันที่ 2 ทยอยเดินทางเข้ามา 3 รอบ โดยรอบแรกจำนวน 4 ราย, รอบ 2 จำนวน  7 ราย, รอบที่ 3 จำนวน 10 คน โดยมีเจ้าหน้าที่ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ เบตงตรวจคัดกรองอย่างเข้มข้น สำหรับแรงงานไทยที่เหลือในประเทศมาเลเซียที่เดินทางเข้าชายแดนเบตงนั้น ยอดรวมตามที่แจ้งมาทั้งสิ้น 503 คนที่จะเดินกลับภูมิลำเนาในจังหวัดยะลา สำหรับแรงงานไทยที่กลับมาเมื่อตรวจคัดกรองเสร็จสิ้นแล้ว ก็ส่งกลับไปสถานที่กักตัวในพื้นที่ภูมิลำเนา ตำบล อำเภอที่ตนเองอยู่ในสถานที่ทางราชการจัดให้ 
    หญิงไทยที่เดินทางมาพร้อมแรงงานไทยในวันนี้บอกว่า ตนเองอยู่กับพี่สาวที่รัฐเกดะห์ ประเทศมาเลเซีย ได้ยื่นเรื่องเพื่อเดินทางกลับทางออนไลน์ ขอขอบคุณกงสุลไทยในประเทศมาเลเซียที่ดูแลคนไทยอย่างดีโดยไม่ได้พักผ่อน เนื่องจากมีแรงงานไทยที่จะเดินทางกลับมีอีกจำนวนมาก ขอขอบคุณจากใจ หากไม่มีการประสานจากกงสุลไทยคงไม่ได้เดินทางกลับประเทศไทยแน่ เพราะทางการมาเลเซียเข้มงวดมาก
    ที่ จ.สงขลา มีการเดินทางด่านพรมแดนสะเดา จ.สงขลา มีผู้ลงทะเบียนเดินทางกลับมาจำนวน 97 คน ภายใต้มาตรการตรวจคัดกรองอย่างเข้มงวด และพบผู้ที่มีอุณหภูมิร่างกายเกิน 37.3 องศาเซลเซียส เป็นผู้ที่มาจากพื้นที่เสี่ยงของมาเลเซีย มีจำนวน 5 คน เจ้าหน้าที่นำมายังโรงพยาบาลสะเดา เพื่อเก็บตัวอย่างสารคัดหลั่ง ส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการเพื่อหาเชื้อไวรัสโควิด-19 
    นพ.สุวัฒน์ วิริยพงษ์สุกิจ รักษาการผู้อำนวยการโรงพยาบาลสะเดา กล่าวว่า ผลการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ผู้อยู่ในกลุ่มเสี่ยงที่เดินทางกลับจากประเทศมาเลเซียเมื่อวันที่ 18 เม.ย. มีอุณหภูมิร่างกายสูงจำนวน 10 คนนั้น พบว่าผลเป็นลบทั้ง 10 คน คือไม่ติดเชื้อ แต่ต้องไปกักตัวเฝ้าระวังยังสถานที่จัดเตรียมไว้ ประกอบด้วยพื้นที่ อ.สะเดา 7 ราย, อ.หาดใหญ่ 1 ราย, สะบ้าย้อย 1 ราย ส่วนอีกรายมีอาการป่วยโรคตับแข็ง จึงยังรอดูอาการที่โรงพยาบาลสะเดา สำหรับบุคคลทั้ง 5 ที่พบในวันนี้มีอุณหภูมิร่างกายสูงจะทราบผลในวันพรุ่งนี้
    อย่างไรก็ตาม ภายหลังการทยอยเดินทางกลับของคนไทยจากประเทศมาเลเซียอย่างต่อเนื่อง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวบ้านใน จ.สงขลา เริ่มออกมาต่อต้าน ไม่ให้นำผู้เดินทางกลับจากต่างประเทศมากักตัวในหมู่บ้าน หรือตั้งศูนย์กักตัวขึ้นในพื้นที่ เกรงจะติดเชื้อโควิด-19
    โดยชาวบ้านติดป้ายประกาศไม่ให้มีการตั้งศูนย์กักตัวขึ้นในตำบลของตัวเอง เพื่อรองรับผู้ที่เดินทางกลับจากต่างประเทศ เช่น กลุ่มแรงงานไทยในมาเลเซียที่ทยอยเดินทางกลับตั้งแต่เมื่อวันที่ 18 เม.ย. หรือกลุ่มที่มาจากพื้นที่เสี่ยง โดยในพื้นที่หมู่ 8 บ้านทุ่งส้าน ต.จะโหนง อ.จะนะ มีป้ายไวนิลสีดำพร้อมข้อความไม่ต้อนรับผู้ที่จะมากักตัวติดไว้ที่ตลาดเกษตรหน้าหมู่บ้านและริมถนนสายเอเชีย รวมทั้งไม่เห็นด้วยที่จะมีการตั้งศูนย์กักตัวขึ้นใน ต.จะโหนง เพราะกลัวว่าจะไม่ปลอดภัย และอาจนำเชื้อโควิด-19 เข้ามาในหมู่บ้าน
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้กระแสต่อต้านผู้ที่จะมากักตัวหรือตั้งศูนย์กักตัวรองรับผู้ที่เดินทางกลับจากต่างประเทศ เกิดขึ้นในหลายหมู่บ้านของแต่ละอำเภอ เช่น อ.จะนะ อ.หาดใหญ่ อ.รัตภูมิ และ อ.สทิงพระ ซึ่งสาเหตุสืบเนื่องมาจากกรณีกลุ่มดาวะห์ที่กลับจากอินโดนีเซียจำนวน 76 คน และเกือบทั้งหมดติดเชื้อโควิด-19 สร้างความหวาดกลัวให้กับประชาชน
    ทั้งนี้ ทางจังหวัดได้ให้แต่ละตำบลจัดเตรียมสถานที่ เพื่อเป็นศูนย์กักตัวกลุ่มเสี่ยงที่เดินทางกลับจากต่างประเทศหรือพื้นที่เสี่ยง และมีภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่นั้นๆ เพื่อความสะดวกและง่ายต่อการดูแล แต่ชาวบ้านบางส่วนหวาดกลัว จึงออกมาต่อต้าน
    ขณะที่ นพ.เฉลิมพล โอสถพรมมา ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 12 จังหวัดสงขลา กล่าวว่า กลุ่มคนไทยที่เดินทางมาส่วนใหญ่เป็นแรงงานไทยที่ไปประกอบอาชีพในประเทศมาเลเซีย ซึ่งคนไทยกลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงต่ำ ขอย้ำความมั่นใจในการดำเนินการคัดกรองโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) เป็นไปตามมาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด 
     “ขอย้ำต่อประชาชน อย่าเพิ่งตื่นตระหนกกับเหตุการณ์คนไทยกลับจากมาเลเซีย เนื่องด้วยคนกลุ่มนี้มีความเสี่ยงต่ำ อีกทั้งคนกลุ่มนี้ไม่ได้เข้าร่วมในพิธีชุมนุมชนต่างๆ ที่มีคนจำนวนมาก ขอให้มั่นใจการคัดกรองผู้เดินทางทุกคนอย่างละเอียดเป็นไปตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข” นพ.เฉลิมพลระบุ 
     ที่ จ.อำนาจเจริญ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอำนาจเจริญ แจ้งสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019(COVID 19) ว่าส่งตรวจห้องปฏิบัติการ 0 ราย ไม่พบเชื้อ 0 ราย พบเชื้อ 0 ราย รอผลตรวจ 0 ราย การติดตามเฝ้าระวังผู้เดินทางมาจากพื้นที่ที่มีการระบาดจากต่างประเทศ สมทั้งหมด 162 ราย กักตัวสังเกตอาการที่บ้าน 1 ราย พ้นระยะกักตัว 14 วัน 161 ราย เข้าเกณฑ์สงสัย 0 ราย สรุปตั้งแต่วันที่ 15 เมษายน 63 ยังไม่พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 แม้แต่รายเดียวเป็นเวลา 5 วันแล้ว
    เช่นเดียวกับที่ จ.ภูเก็ต คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดภูเก็ต แจ้งสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) จังหวัดภูเก็ต ประจำวันที่ 19 เมษายน 2563 ข้อมูลตั้งแต่ 5 มกราคม-18 เมษายน 2563 ภูเก็ตมีผู้ติดเชื้อยืนยันจำนวน 192 ราย และไม่พบรายใหม่ 
    ที่ จ.ชลบุรี พล.ร.อ.ลือชัย รุดดิษฐ์ ผบ.ทร. พร้อมด้วยข้าราชการที่เกี่ยวข้อง ร่วมให้การต้อนรับนักเรียนทุนเอเอฟเอสจำนวน 162 คน เช่าเหมาลำสายการบิน OMNI เที่ยวบิน OAE6200 กลับจากสหรัฐอเมริกา ลงจอด ณ สถานีการบิน กองการบินทหารเรือ อ.บ้านฉาง จ.ระยอง โดยกองทัพบกในฐานะหน่วยรับผิดชอบที่รับคำสั่งจากรัฐบาลในการดูแลคนไทยกลับจากต่างแดนชุดนี้ โดยจะเข้าสู่ที่พักยังโรงแรมแอมบาสซาเดอร์ซิตี้ จอมเทียน พัทยา ต.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เพื่อกักตัว 14 วัน.