เพลิงไหม้บ้านทรงไทยเสียหายกว่า 10 ล้านบาท เดชะบุญที่ไม่ลุกลามไปไหม้โรงน้ำแข็งและบ้านเรือนใกล้เคียง เผยตอนเกิดเหตุไม่มีใครอยู่บ้าน ส่วนสาเหตุต้องรอตรวจสอบ
    เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 19 เมษายน ร.ต.ท.อธิพงษ์ ยิ้มทอง รองสารวัตรสอบสวน สภ.วิเศษชัยชาญ ได้รับแจ้งเกิดเหตุเพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชนและกำลังจะลุกลามไปบ้านเรือนใกล้เคียง เหตุเกิดบริเวณบ้านเลขที่ 34 หมู่ที่ 10 ตำบลศาลเจ้าโรงทอง อำเภอวิเศษชัยชาญ จังหวัดอ่างทอง หลังได้รับแจ้งจึงได้ประสานขอรถน้ำดับเพลิงจาก อบต.ศาลเจ้าโรงทอง เทศบาลตำบลวิเศษไชยชาญ อบต.ยี่ล้น และ ทต.ม่วงเตี้ย จำนวน 6 คัน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่อาสามูลนิธิร่วมกตัญญู รีบรุดไปที่เกิดเหตุ
    ที่เกิดเหตุพบว่าเพลิงกำลังโหมลุกไหม้บ้านทรงไทย และกำลังจะลุกลามไปยังโรงน้ำแข็งและบ้านเรือนของประชาชนที่อยู่ใกล้เคียง โดยมีประชาชนในหมู่บ้านที่ทราบข่าว ต่างออกมาดูเหตุการณ์กันเป็นจำนวนมาก ซึ่งบริเวณที่เกิดเหตุเป็นถนนในหมู่บ้าน ถนนแคบ รถวิ่งได้ทางเดียว รถดับเพลิงจึงต้องทยอยกันเข้าไปที่จุดเกิดเหตุทีละคัน ทางเจ้าหน้าที่ดับเพลิงจึงได้ทำการระดมฉีดน้ำสกัดเพลิงเพื่อไม่ให้ลุกลามไปยังโรงน้ำแข็งและบ้านเรือนของประชาชนที่อยู่ติดกัน โดยใช้เวลาในการควบคุมเพลิงกว่า 1 ชั่วโมงจึงสามารถควบคุมเพลิงเอาไว้ได้ จากการตรวจสอบพบว่าบ้านทรงไทยหลังเกิดเหตุได้รับความเสียหายถูกเพลิงไหม้หมดทั้งหลังเหลือแต่เสาเป็นตอตะโก
    จากการสอบสวน นายสมหวัง บัวขม อายุ 53 ปี เจ้าของบ้าน เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุไม่มีใครอาศัยอยู่ในบ้าน ตนเองได้เดินทางออกไปทำธุระที่ตลาดในอำเภอวิเศษชัยชาญ จนมาทราบอีกทีมีเพื่อนบ้านโทรศัพท์ไปบอกว่าบ้านถูกเพลิงไหม้ จึงได้รีบเดินทางมาดูถึงกับทำอะไรไม่ถูก ซึ่งบ้านหลังดังกล่าวปลูกเป็นบ้านทรงไทยยกพื้นสูงทั้งหลัง มีราคากว่า 10 ล้านบาท เดชะบุญที่ยังไม่ลุกลามไปยังโรงน้ำแข็งของตนเองและบ้านเรือนของประชาชนที่อยู่ใกล้เคียง
    ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ เบื้องต้นได้ทำการสอบสวนเจ้าของบ้านที่เกิดเหตุ พร้อมตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุอย่างละเอียด ซึ่งความเสียหายจากการเกิดเพลิงไหม้ในครั้งนี้ยังไม่สามารถประเมินได้ แต่คาดไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท ส่วนสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้จะให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานเดินทางมาตรวจสอบเก็บรายละเอียด เพื่อหาสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ที่แท้จริงตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.