ถึงครา "๒๐ มหาเศรษฐี" กู้ชาติ


เพิ่มเพื่อน    

    อยู่เมืองไทย.....
    ไม่ต้องขยันทำมาหากิน ก็เหลือกิน
    ตื่นขึ้นมา......
    แค่หยิบมือถือไถๆ ในเฟซ มีเมนูเป็นสิบ-เป็นร้อยเจ้าให้เลือก เพียบพร้อม ๓ มื้อ ไปเลือกกินได้ตามใจชอบ
    แบบนี้ เมืองปิด "ทั้งปี" ก็ไม่มีใครอดตาย
    คนใจบุญ ใจเผื่อแผ่ ก็ใจคนไทยนี่แหละ อาหารแต่ละเจ้าที่ทำแจกทั่วบ้าน-ทั่วเมือง เห็นแล้ว ไม่ต้องกินก็อิ่ม
    อิ่มทิพย์........
    คืออิ่มใจ เมืองไทย "เมืองสวรรค์"!
    สวรรค์ไม่ได้อยู่บนฟ้า หรือบนยอดเขาไกรลาสอย่างที่จินตนาการกัน
    อยู่บนดิน "ถิ่นเมืองเมืองไทย" นี่แหละ!
    เทพบุตร-นางฟ้า ก็เห็นอยู่ "สะอาด-บริสุทธิ์" ขาวทั้งกาย ด้วยอาภรณ์คลุมเรือนร่าง ขาวทั้งใจ ด้วย "เมตตา-เสียสละ" คอยช่วยเหลือมนุษย์ผู้ป่วยไข้
    สถิตอยู่ตามวิมานต่างๆ กระจายทั่วประเทศ ทั้ง ๗๗ จังหวัด 
    เช่น สาธารณสุขวิมาน, ศิริราชวิมาน, รามาฯ วิมาน, จุฬาฯ วิมาน, บำราศนราดูรวิมาน, วชิรพยาบาลวิมาน, โรงพยาบาลประจำจังหวัด-อำเภอ-ตำบลวิมาน และ ฯลฯ
    ด้วยแรงแห่ง "ศรัทธา-เมตตา-เสียสละ" ของเหล่าเทพบุตร-นางฟ้า "แพทย์-พยาบาล-บุคลากรทางการแพทย์" ตามวิมานต่างๆ เหล่านั้น
    โน้ม "ศรโควิด" หักหัวลงต่ำ ที่เลข ๒๘ แล้วเห็นมั้ย?
    "หมอทวีศิลป์" โฆษก ศบค.ที่โคส้ม-โคแดงแสลงใจ รุมเสียบรายวัน แถลงตัวเลขเมื่อวาน (๑๗ เม.ย.)
    "มีผู้ป่วยรายใหม่ ๒๘ ราย ยอดสะสม ๒,๗๐๐ ราย 
    เสียชีวิตเพิ่ม ๑ ราย รวมเสียชีวิตสะสม ๔๗ ราย หายแล้วรวม ๑,๖๘๙ ราย 
    ทั้งนี้ มีผู้ป่วยที่รักษาตัวอยู่ ๙๖๔ ราย ซึ่งต่ำที่สุดเท่าที่มีการรักษามา"
    อืมมม.....
    มาถึง "จุดวัดใจ" อีกครั้ง จะปิด-จะเปิด-จะแง้มเมืองกันขนาดไหน เห็นว่าท่านนายกฯ กำลัง "ชั่งข้อมูล"
    เข้าใจทุกฝ่าย คือฝ่ายชาวบ้าน ในแต่ละจังหวัดก็แง้วๆ รบผู้ว่าฯ ให้ผ่อนคลายมาตรการ อยู่เหย้า-เฝ้าหอร่วมเดือน จะอัดใจตาย!
    คือ โควิดน่ะ ก็กลัวอยู่...... 
    แต่กลัวอดตาย กลัวไม่ได้ออกไปไหน-ต่อไหน ตามเคยชิน ก็กลัว
    ไม่เปิดหมด ก็ไม่เป็นไร แง้มๆ อ้าๆ ซักหน่อยจะได้มั้ย?
    ผู้ว่าฯ แต่ละจังหวัด ตอนนี้เหมือนกะหรี่ปั๊บ เป็นไส้อยู่ตรงกลาง รัฐบาลอยากให้ตึงไว้ก่อน ชาวบ้านก็อยากให้ผ่อนลงมาบ้าง
    บีบบน-บีบล่าง แล้วผู้ว่าฯ "คนตรงกลาง" จะเอาไง?
    ความจริงไม่ยาก ถ้าสังเกตจะเห็น นับแต่โควิดระบาด สิ่งแรกในระบบบริหารและปกครอง ที่ขยับเขยื้อนเป็นรูปธรรมมากที่สุด
    คือ การกระจายอำนาจ จากส่วนกลางลงท้องถิ่น!
    รัฐบาล โดยนายกฯ ประยุทธ์ 
    มอบอำนาจให้ผู้ว่าฯ แต่ละจังหวัด มีอำนาจตัดสินใจ-สั่งการได้เด็ดขาด ในเรื่องนั้นๆ 
    เราจึงเห็นศักยภาพในการบริหาร-จัดการของแต่ละจังหวัดแตกต่างกันไป 
    นั่นเพราะปัญหาแต่ละพื้นที่ไม่เหมือนกัน รูปแบบ-วิธีการ ที่จะใช้รับมือปัญหานั้นๆ จึงขึ้นอยู่กับวิสัยทัศน์ผู้นำอำนาจท้องถิ่น
    วันนี้ ทำให้เราได้เห็น บทบาทและธาตุแท้ อสม., อบต. กำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน, โรงพยาบาลจังหวัด-อำเภอ-ตำบล เรื่อยขึ้นไปถึงระดับจังหวัด คือผู้ว่าฯ
    ซึ่งเป็นเรื่องดี.......
    เท่ากับ "เช็กเครื่อง-ทดสอบ" ระบบอำนาจกระจาย ผ่านแต่ละยูนิตงาน ที่ประกอบเข้าเป็น "การบริหารและปกครองท้องถิ่น" ไปในตัว
    ตอนนี้ เห็นแล้ว......
    ว่าจังหวัดไหน พร้อม "เข้าใจ-เข้าถึง" ในแต่ละอำนาจตามหน้าที่ของหน่วยงาน และทำงานประสานกันได้-ไม่ได้ขนาดไหน?
    โดยเฉพาะ "ผู้ว่าฯ" แต่ละจังหวัด มีวิสัยทัศน์ ขับเคลื่อนจังหวัดของตนได้โดดเด่นระดับไหน? 
    สถานการณ์โควิด เป็นตัวทดสอบได้ดีที่สุด!
    นี่คือ คำตอบที่ว่า "แล้วผู้ว่าฯ จะเอาไง"?
    หมายถึง ด้วยอำนาจที่นายกฯ กระจายมอบให้ผู้ว่าฯ ไปแล้ว บนนิยาม "ปัญหาแต่ละพื้นที่อยู่ที่ดุลยพินิจผู้ว่าฯ"
    ดังนั้น จังหวัดไหน "จะเข้ม-จะคลาย" อยู่ที่ดุลยพินิจ-วิสัยทัศน์ ของผู้ว่าฯ จังหวัดนั้นๆ มองขาดและตัดสินใจ
    ต้องไม่ลืม.....
    "อำนาจ" ต้องใช้พร้อม "ความรับผิดชอบ" สั่งการอย่างใดไป "ผิด-ชอบ" ที่เกิด ต้องรับด้วย
    ถ้าสังเกตตามข่าวคราว.......
    เราจะเห็นบางจังหวัด "ปิดถนน-ปิดเมือง" เลย บางจังหวัดไม่ปิด บางจังหวัดห้ามขายเหล้า บางจังหวัดไม่ห้าม
    และเราก็จะเห็น บางจังหวัด ไม่มีคนป่วยโควิดเลย บางจังหวัด ป่วยเล็กน้อย หายแล้วก็ไม่เป็นอีกเลย บางจังหวัดป่วยเป็นร้อย และยังจะมีป่วยต่อ
    เมื่อแต่ละพื้นที่ ปัญหาต่างกันเช่นนี้ ในมาตรการเดียวกัน จึงเห็นแต่ละผู้ว่าฯ ออกอาวุธ "ยักเยื้อง" แตกต่างกันไป
    ความเห็นผมนะ ที่ ศบค.แถลงข่าวแต่ละวัน เมื่อหมอทวีศิลป์และคุณณัฐภาณุ แถลงจบแล้ว
    น่าจะใช้ระบบทางไกล เชิญผู้ว่าฯ แต่ละจังหวัด "ตามสถานการณ์" มาออกจอ 
    ให้หมอทวีศิลป์คุยเชิงสัมภาษณ์ ให้ท่านเล่าถึงเทคนิคการบริหารปัญหาในพื้นที่ให้ฟัง จะได้รู้กึ๋นแต่ละผู้ว่าฯ ในสถานะ "พ่อเมือง"
    แต่ยังไงก็ตาม....
    ถึงป่วยรายวันลดเหลือ ๒๘ ราย ก็ยังวางใจไม่ได้ ระวังจะพุขึ้นมาอีกเหมือนสิงคโปร์
    เพราะตอนนี้ ที่ชายแดนใต้ เข้าคิวทยอยกลับเข้ามาเป็นร้อย-เป็นพัน ยังไม่นับทางเครื่องบิน จากยุโรป-สหรัฐฯ
    พื้นที่ไหนจะปิด-จะเปิด มาตรการที่ใช้ควบคู่เงื่อนไขต้องเข้มเข้าไว้ คือ ยังไงๆ ก็ต้อง "ตั้งการ์ด" เอาไว้ให้รัดกุม
    ถ้ายังไม่ลดเหลือ "เลขหลักเดียว" อย่าส่งสัญญาณว่าปลอดภัยให้ระเริงก็แล้วกัน เพราะถ้าโควิดมันตลบหลัง "หนักกว่ารอบแรก" นะ จะบอกให้!
    ดูสิงคโปร์เป็นหนังตัวอย่างไว้ คุณ Thakrit Rungreungthanja ขมวดไว้กระชับ
    เห็นกราฟของสิงคโปร์แล้วจะเป็นลม ตั้งแต่วันที่ 1-10 เมษายน ผู้ป่วยเพิ่มขึ้นจาก 1,000 เป็น 2,108
    จากวันที่ 10-16 เมษายน เพิ่มขึ้นจาก 2,108 เป็น 4,427
    ในประชากร 1 ล้านคน สิงคโปร์เจอผู้ติดเชื้อไปแล้ว 727 คน
    โดยเขามีประชากรทั้งหมด 5.6 ล้านคนเท่านั้น กับพื้นที่เพียง 721.5 ตร.กม.
    เล็กกว่า กทม.ที่มีพื้นที่ 1,569 ตร.กม.อยู่ครึ่งหนึ่ง
    ซึ่ง กทม.มีผู้ติดเชื้อแล้ว 1,349 ราย
    เทียบบัญญัติไตรยางศ์ง่ายๆ ในพื้นที่เท่ากัน และจำนวนคนพอๆ กัน (เทียบกับพื้นที่และประชากร กทม.) สิงคโปร์จะมีเคสเยอะกว่าเรา 6.5 เท่า สวัสดี
    คือ เฉพาะเมื่อวาน (๑๖ เม.ย.) วันเดียว สิงคโปร์มีป่วยรายวันเพิ่มถึง ๗๒๘ ราย
    เป็นสถิติรายวัน "สูงสุด" ในกลุ่มประเทศอาเซียน นับแต่มีการระบาด!
    ไม่ว่าเขา-ว่าใคร มีป่วยเจ็บ มันไม่ดีทั้งนั้น ช่วยระงับ-ยับยั้งทางไหนได้ ต้องช่วยกัน
    เย็นวาน (๑๗ เม.ย.) ฟังนายกฯ ออกทีวีพูลกันแล้วใช่มั้ย ท่านจะทำจดหมายเปิดผนึกถึง ๒๐ มหาเศรษฐีไทย
    ให้มาร่วมฝ่าฟันสถานการณ์....
    นำธงประเทศขึ้นไปปักบนยอดภูผาแห่งไพศาลสำเร็จ
    ผม..."คนที่ ๒๑" ขอส่งใจช่วย!.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"