จีนแก้ยอดสังเวยไวรัสเมืองอู่ฮั่นเพิ่มเกือบ 1,300 ศพ ตอกย้ำข้อกังขาของหลายชาติเรื่องความโปร่งใส "โดนัลด์ ทรัมป์" ประกาศแผนรีบูตเศรษฐกิจสหรัฐ แต่วันเดียวกันยอดตายรายวันพุ่งเป็นสถิติใหม่เกือบ 4,500 ศพ สิงคโปร์ชาติที่ 4 อาเซียนยอดติดโควิด-19 เกิน 5,000 ราย
คำแถลงของเจ้าหน้าที่ศูนย์บัญชาการควบคุมโรคระบาดเมืองอู่ฮั่นของจีนเมื่อวันศุกร์ที่ 17 เมษายน 2563 ยอมรับว่ามีความผิดพลาดในการรวบรวมและรายงานจำนวนผู้เสียชีวิตในเมือง ซึ่งเป็นศูนย์กลางของการแพร่เชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่เมื่อปลายปีที่แล้ว โดยพบว่ามีผู้เสียชีวิตอีกราวครึ่งหนึ่งของยอดอย่างเป็นทางการ 2,579 ศพ ที่ไม่ได้รายงานหรือรายงานผิดพลาด หรือเท่ากับจำนวน 1,290 ศพ และทำให้ยอดตายรวมในเมืองอู่ฮั่นเพิ่มเป็น 3,869 ศพ ในขณะที่ยอดตายทั่วจีนแผ่นดินใหญ่เพิ่มเป็น 4,632 ศพ นับข้อมูลถึงวันพฤหัสบดี
จำนวนอย่างเป็นทางการของผู้เสียชีวิตในจีน ซึ่งมีประชากร 1,400 ล้านคน แม้จะปรับเพิ่มแล้ว ก็ยังถือว่าต่ำมากเมื่อเทียบกับประเทศอื่นที่มีขนาดเล็กกว่าจีนมาก เช่น อิตาลีและสเปน ซึ่งจำนวนผู้เสียชีวิตถึงวันศุกร์อยู่ที่ 22,170 ศพ และ 19,478 ศพ ตามลำดับ และหลายสัปดาห์ที่ผ่านมามีข่าวลือและภาพถ่ายที่บ่งชี้ว่าจำนวนผู้เสียชีวิตที่แท้จริงในเมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย์ นั้นมากมายกว่าที่มีรายงาน แม้แต่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐยังกล่าวถึงยอดเสียชีวิตในจีนเมื่อวันพุธ อย่างไม่เชื่อตัวเลขว่ามีเพียงแค่ 3,000 กว่าคนเท่านั้น
เจ้าหน้าที่ทางการอู่ฮั่นเคยพยายามปกปิดเรื่องโรคปอดอักเสบลึกลับระบาดในเมืองนี้เมื่อปลายปีที่แล้วก่อนที่สถานการณ์ที่รุนแรงขึ้นจะเปิดเผยต่อสายตาชาวโลก และแม้รัฐบาลจีนจะยืนกรานว่าจีนเปิดเผยข้อมูลเรื่องโรคระบาดนี้อย่างโปร่งใสแล้ว แต่รัฐบาลหลายประเทศโดยเฉพาะสหรัฐอเมริกายังคลางแคลง เมื่อวันพฤหัสบดี รัฐบาลฝรั่งเศสและอังกฤษก็ร่วมวงสหรัฐกดดันจีนด้วย
ประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส กล่าวกับหนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียลไทม์ว่า คงเป็นการมองอย่างใสซื่อเกินไปหากจะกล่าวว่าจีนจัดการกับสถานการณ์โรคระบาดได้อย่างดี เห็นได้ชัดว่ามีหลายสิ่งหลายอย่างเกิดขึ้นที่เราไม่รู้
วันก่อนหน้านี้หนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์และสถานีฟอกซ์นิวส์ของสหรัฐรายงานว่ามีข้อสงสัยกันมากขึ้นว่าไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่อาจหลุดออกมาจากห้องปฏิบัติการทดลองไวรัสวิทยาเมืองอู่ฮั่น ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากตลาดสดที่จีนอ้างว่าเป็นต้นตอของไวรัส แล็บนี้ทำการศึกษาค้างคาว ที่นักวิทยาศาสตร์ระบุว่าคือแหล่งกำเนิดของไวรัสโคโรนา รวมถึงที่ก่อโรคซาร์สระบาดเมื่อปี 2546 ทรัมป์เพิ่งกล่าวถึงข้อสงสัยนี้ในการแถลงข่าวเมื่อวันพุธว่า รัฐบาลของเขากำลังสืบสวนเรื่องนี้ด้วย
รัฐบาลจีนแถลงเมื่อวันศุกร์ ยืนกรานว่าจีนไม่ได้ปกปิดข้อมูล และรัฐบาลก็ไม่ยอมให้มีการปกปิดด้วย กระทรวงการต่างประเทศกล่าวถึงการปรับแก้ตัวเลขที่อู่ฮั่นด้วยว่า แม้การรวบรวมข้อมูลจะมีความบกพร่อง แต่จีนมีความรับผิดชอบต่อประวัติศาสตร์ ต่อประชาชน และต่อผู้วายชนม์ที่ต้องรายงานตัวเลขอย่างถูกต้อง
ถึงวันศุกร์ โควิด-19 คร่าชีวิตชาวโลกแล้วมากกว่า 147,000 ราย จากผู้ติดเชื้อมากกว่า 2,193,000 ราย สหรัฐอเมริกามีผู้เสียชีวิตมากที่สุดเกิน 34,600 ราย ติดเชื้อสะสมเกิน 678,000 ราย ถึงกระนั้น ประธานาธิบดีทรัมป์มั่นใจว่าสถานการณ์โดยรวมในสหรัฐผ่านจุดสูงสุดแล้ว และเมื่อวันพฤหัสบดี เขาประกาศแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจใหม่ โดยกำหนดไว้ 3 ระยะด้วยกัน แต่จะเป็นการเปิดเศรษฐกิจแบบเป็นขั้นเป็นตอนและระมัดระวัง
ทรัมป์กล่าวด้วยว่า บางรัฐที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 น้อยที่สุดอาจสามารถยุติการชัตดาวน์ได้เลยตั้งแต่วันศุกร์ แต่รัฐอื่นๆ ผู้ว่าการรัฐสามารถตัดสินใจโดยทำเนียบขาวจะให้เสรีภาพและแนะนำแนวทางให้
ขณะเดียวกัน แอนดรูว์ คูโอโม ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์กจากพรรคเดโมแครต ที่กำหนดมาตรการของตนเอง เพิ่งประกาศขยายการชัตดาวน์ออกไปถึงวันที่ 15 พฤษภาคม รัฐนี้สถานการณ์รุนแรงที่สุด โดยมีผู้เสียชีวิตแล้วมากกว่า 16,000 คน
วันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สหรัฐมีผู้เสียชีวิตรายวันเพิ่มเป็นสถิติใหม่ถึง 4,491 ศพ ตามการรวบรวมข้อมูลของมหาวิทยาลัยจอห์นฮอปกินส์ในรอบ 24 ชั่วโมง ถึงเวลา 20.30 น.ตามเวลาท้องถิ่น (07.30 น. วันศุกร์ของไทย) มากกว่าสถิติเดิมของวันพุธ ซึ่งอยู่ที่ 2,569 ศพ
ผลกระทบของโรคระบาดนี้ต่อเศรษฐกิจของชาติมหาอำนาจทั้งสหรัฐและจีนเด่นชัดขึ้น เมื่อจีนรายงานว่าตัวเลขจีดีพีไตรมาสแรกของปีนี้ หดตัวลง 6.8% เป็นภาวะเศรษฐกิจหดตัวครั้งแรกของจีนนับตั้งแต่เริ่มมีการบันทึกข้อมูลเมื่อต้นยุค 1990 ส่วนสหรัฐก็รายงานว่ามีคนตกงานเพิ่มอีก 5.2 ล้านคนในสัปดาห์ที่ผ่านมา และยอดคนว่างงานในสหรัฐนับแต่กลางเดือนมีนาคมเพิ่มเป็น 22 ล้านคนแล้ว
ด้านสถานการณ์ของประเทศในภูมิภาคอาเซียนที่ยังมีการติดเชื้อเพิ่มต่อเนื่อง เมื่อวันศุกร์อินโดนีเซียรายงานว่า มีผู้ติดเชื้อรายใหม่อีก 407 คน ยอดติดเชื้อสะสมเพิ่มเป็น 5,923 คน แซงหน้าฟิลิปปินส์เป็นยอดติดเชื้อมากที่สุดในอาเซียน แต่อินโดนีเซียเพิ่งตรวจหาเชื้อแค่ 42,000 ราย และมีคนเสียชีวิตเพิ่มอีก 24 ราย รวมเป็น 420 ราย
มาเลเซียมีผู้ติดเชื้อรายใหม่อีก 69 คน ยอดสะสมเพิ่มเป็น 5,251 คน เสียชีวิตเพิ่มอีก 2 คน ยอดตายรวมเป็น 86 ศพ, ฟิลิปปินส์มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 218 ราย ติดเชื้อสะสมรวมเป็น 5,878 ราย และมีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 25 ราย รวมเป็น 387 ราย ส่วนสิงคโปร์พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ถึง 623 คน ซึ่งยังน้อยกว่าสถิติสูงสุด 728 คนเมื่อวันพฤหัสบดี ยอดติดเชื้อรวมเป็น 5,050 คน เสียชีวิต 10 คนเท่าเดิม.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |