สัปดาห์หน้า'ศบค.'จ่อคลายล็อกบางอาชีพ! ร้านตัดผม-ห้างมีลุ้น


เพิ่มเพื่อน    

17 เม.ย. 63 - ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงว่า ที่มีคำถามว่าเมื่อตัวเลขของไทยดีขึ้นต่อเนื่องจะผ่อนคลายได้บ้างหรือไม่ เพราะมีการพูดว่าไม่กลัวติดเชื้อ แต่กลัวอดตายมากกว่านั้น องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ออกมาระบุว่าถ้าจะยกเลิกการล็อกดาวน์ต้องมีมาตรการ 6 ข้อ คือ 1.สามารถควบคุมการแพร่ระบาดของโรคภายในประเทศได้แล้ว ซึ่งไทยสามารถทำได้แล้วระดับหนึ่ง เพราะผู้ป่วยรายใหม่มี 28 คน แต่คำว่าควบคุมโรคได้ต้องเป็นศูนย์ หรือยืนระยะตัวเลขผู้ติดเชื้อที่จำนวนน้อยได้หรือไม่ นักวิชาการต้องคุยกัน 

2.ระบบสุขภาพต้องสามารถตรวจหาผู้มีอาการของโรค ตรวจหาเชื้อ แยกตัวและทำการรักษา พร้อมทั้งทำการสอบสวนโรค ซึ่งขณะนี้น้ำยาในการตรวจหาโรคมีเพียงพอ ทางสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) รับผิดชอบทุกค่าใช้จ่ายในการตรวจสารคัดหลั่งในโพรงจมูก บุคลากรทางการแพทย์สามารถเข้าไปขอโค๊ดได้ 3.มีความเสี่ยงน้อยที่สุดในสถานที่เสี่ยงภัยมากที่สุด เช่น บ้านพักคนชรา ซึ่งที่ผ่านมาบ้านพักชราในประเทศไทยไม่ค่อยมีรายงานผู้ติดเชื้อ 4.โรงเรียน สำนักงาน และสถานที่สาธารณะต่างๆ ต้องมีมาตรการป้องกันโรคที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งตรงนี้เราต้องดูกันอย่างละเอียด 

5.สามารถจัดการความเสี่ยงของโรคจากผู้ที่เดินทางเข้าประเทศได้ ซึ่งเราจำกัดจำนวนผู้เดินทางเข้าประเทศ ให้คนเข้า-ออกเฉพาะเท่าที่จำเป็นและตามที่อนุญาตไว้ และ6.คนในชุมนุมต้องมีความรู้ มีส่วนร่วม และได้รับการสนับสนุนให้มีชีวิตอยู่ภายใต้สังคมที่เปลี่ยนแปลงหลังจากเกิดโรค ซึ่งข้อนี้เป็นข้อที่ยากที่สุด เพราะที่ผ่านมายังมีการตั้งวงสังสรรค์ ถ้าจะปลดล็อกได้ต้องขอความร่วมมือจากประชาชนด้วย ขณะนี้มีการประชุมของนักวิชาการ เอกชน และภาคสังคมอยู่ เพื่อเตรียมเสนอ ผอ.ศบค.

สำหรับกรณีเรียกร้องให้เปิดร้านตัดผมและผ่อนคลายบางมาตรการนั้น วันนี้ที่ประชุม ศบค.วงเล็กมีการหารือกัน หลายจังหวัดไม่ได้มีการปิดร้านตัดผม มีบางจังหวัดที่ปิด เช่น กทม.เนื่องจากเป็นกิจกรรมที่ลักษณะใกล้ชิดและเสี่ยงติดเชื้อ ซึ่งมีมาตรการตัวอย่างการผ่อนคลาย หรือมาตรการกึ่งล็อคดาวน์ โดยยังเป็นข้อเสนอและยังไม่ได้รับรอง โดยเป็นข้อปฏิบัติของผู้ให้บริการและผู้รับการบริการ อาทิ จัดที่นั่งให้เหมาะสมห่างกัน 1 เมตร ให้บริการที่ใช้เวลาไม่เกิน 2 ชั่วโมง งดเว้นบริการที่ต้องใช้อุปกรณ์ร่วมกันที่ไม่สามารถทำความสะอาดได้ ไม่ว่าจะเป็นการแต่งหน้า ตัดเล็บ ผู้ให้บริการและผู้รับการบริการต้องใส่หน้ากากตลอดเวลา ล้างมือทุกครั้งที่ให้บริการ 

ส่วนที่เรียกร้องให้เปิดห้างสรรพสินค้านั้น ผู้ให้บริการจะต้องมีมาตรการอย่างเคร่งครัด มีการคัดกรองบุคคล ตรวจอุณหภูมิ จัดคิวในการเข้าพื้นที่ จำกัดคนในการเข้าพื้นที่ อย่างพื้นที่พันตารางเมตรให้เข้าได้แค่พันคน เมื่อคนออกไปแล้วถึงจะเติมคนเข้ามาใหม่ได้ ต้องไม่มีการจัดโปรโมชั่นที่เสี่ยงที่จะทำให้คนมารวมตัวกัน สำหรับร้านค้าสำคัญๆ ภายในห้างจะทยอยเปิด แต่ไม่ทั้งหมด เช่น ร้านให้บริการโทรศัพท์มือถือ เครื่องใช้ไฟฟ้า ร้านอาหารจะต้องมีการเว้นระยะห่างอย่างน้อย 1 เมตร

“เหล่านี้จะเป็นเรื่องที่ทางทีมนักวิชาการกำลังพิจารณา และภายในสัปดาห์หน้าจะตัดสินเรื่องนี้เพื่อผ่อนคลายบางอย่าง เราจะค่อยๆ ผ่อนคลาย แต่ชุดพฤติกรรมของประชาชนคือ ต้องให้ความร่วมมือเหมือนเดิม จนเป็นพฤติกรรมแบบใหม่ที่เป็นปกติ คือ ใส่หน้ากากอนามัยและล้างมือตลอด เว้นระยะห่างทางสังคม ต่อคิวอะไรก็ตามต้องเว้นระยะห่าง 2 เมตร ถ้าทำได้จะผ่อนคลาย ถ้าฝ่ายปกครองและ ผอ.ศบค.เห็นภาพนี้ทุกๆ ที่คนให้ความร่วมมือกันมาก ก็ไม่ต้องมีกฎมากมาย” นพ.ทวีศิลป์ ระบุ.

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"