นายกฯ เผย 'ในหลวง' ทรงส่งกำลังใจทุกฝ่าย-ชื่นชมการทำงานก้าวหน้าในทางที่ดีขึ้น


เพิ่มเพื่อน    

16 เม.ย.63 - พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือศบค. พร้อมด้วย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานของคณะแพทย์และบุคลากรในการดูแล รักษา และป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด -19 ที่โรงพยาบาลศิริราช

พร้อมตรวจดูการใช้งาน เครื่องมือ AI ( Artificial Intelligence) หรือปัญญาประดิษฐ์ เพื่อวิเคราะห์โรคเชื้อโควิด-19 ซึ่งกระทรวงดิจิทัลฯ และบริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยีประเทศไทย (จำกัด) ได้มอบให้กับโรงพยาบาลศิริราช เพื่อใช้ประโยชน์ในการวิเคราะห์การติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เบื้องต้น ซึ่งระบบนี้ถูกนำไปใช้จริงแล้วในประเทศจีนในเมืองอู่ฮั่นและอีกหลายๆเมือง ส่วนในประเทศไทยมีการติดตั้งแล้วที่โรงพยาบาลรามาธิบดี และโรงพยาบาลศิริราช ทั้งนี้มี รศ.นพ.วิศิษฎ์ วานวาณิชย์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศิริราช และ ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มาให้การต้อนรับนายกฯและคณะ

นายกฯยังได้พูดคุยกับบุคลากรทางการแพทย์ เพื่อสอบถามการปฏิบัติงานและให้กำลังใจ โดยกล่าวว่า ตนชื่นชมหมอทุกคน ซึ่งคุณพ่อของตนก็มารักษาที่นี่ ทั้งคุณพ่อคุณแม่เคยมาที่นี่ และคุ้นเคยกันในการที่ตนเคยมาถวายงานอารักขาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9  ซึ่งเคยมาประทับที่นี่ ตนก็มานอนมากินอยู่ที่นี่ด้วยในหลายๆโอกาส ก็ชื่นชมมาโดยตลอด และเป็นที่เชื่อมั่นศรัทธาของประชาชนโดยทั่วไปด้วย และสิ่งที่เราทำวันนี้ถือว่าทำถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 10 ซึ่งรัชกาลที่10 พระองค์ท่านทรงฝากกำลังใจมาถึงพวกเราทุกคน ชื่นชมในการทำงานที่มีความก้าวหน้าในทางที่ดีขึ้น ตนถวายรายงานพระองค์ท่านทุกวัน โดยส่งข้อสรุปทั้งจากกระทรวงสาธารณสุข จากการแถลงศูนย์โควิด-19 ขึ้นไปทุกวัน พระองค์ท่านรับสั่งว่าหากมีสิ่งหนึ่งสิ่งใดที่พระองค์ทรงช่วยได้ขอให้บอกมา

นายกฯ กล่าวว่า อยากจะฝากไว้ว่าความดีที่ท่านทำในวันนี้ไม่มีสูญหายไปไหน มันจะสนองตอบกลับพวกเรา อาจจะไม่ได้เป็นอย่างอื่น อาจจะได้เพียงแค่ความสุขใจ เพียงความภาคภูมิใจของตนเองและครอบครัว เหมือนกับการทำงาน เปรียบเหรียญมีสองด้าน เราอาจจะอยู่หน้าบ้างหลังบ้างของเหรียญๆหนึ่งก็ไม่เห็นเป็นอะไร แต่ทุกคนรู้แน่แก่ใจว่าตัวเองทำอะไร เพราะฉะนั้นเราต้องพัฒนาตัวเองไปเรื่อยๆ เมื่อวันที่ 15 เม.ย.ตนก็ได้บอกในที่ประชุมครม.ว่า ปีที่ผ่านมาเราทำอะไรผิด เราทำอะไรไม่ดีบ้าง ก็ต้องกลับมาทบทวน และกลับมาแก้ไขใหม่ในปีต่อๆไป ทุกอย่างก็จะดีขึ้น ไม่ต้องบอกใคร ทุกคนรู้ตัวของเรา

"ต้องขอโทษด้วยถ้ามีอะไรที่ทำให้พวกเราไม่สบายใจ ผมอาจจะติดนิสัยแบบนี้ แบบของผม คือเป็นทหารบ้างอะไรบ้าง บางทีพูดจาไม่ค่อยเข้าหูคนบ้างอะไรบ้าง แต่ผมเข้ารายละเอียดมากเกินไป ซึ่งมันไม่เหมาะสมกับการที่จะมาพูด เป็นนักการเมืองยังไม่ค่อยได้ใช่ไหม คือผมอยากให้คนเข้าใจ แต่ก็กลายเป็นถูกบิดเบือนเลยไม่พูดดีกว่า พูดทีไรก็มีปัญหาทุกที เพราะว่าเขาต้องการจะสร้างประเด็นต่อๆไปเรื่อยๆ ซึ่งบางทีมันมีผลเสีย หลายอย่างมันเกิดขึ้นได้อย่างไรในประเทศไทย สิ่งที่มันไม่น่าจะเกิดมันก็เกิด ถ้าดูข่าวพาดหัวหนังสือพิมพ์แต่ละวันไม่น่าเกิดขึ้นในประเทศไทย บอก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ละเมิดอะไรต่างๆ  ขโมย โกง ปลอม มันเกิดขึ้นได้อย่างไรในประเทศไทย ผมว่าสังคมมันเปลี่ยนไปเยอะ" นายกฯกล่าว

นายกฯ กล่าวอีกว่า เราก็ห่วงลูกหลานเรา ถ้าเหมือนในสมัยเรา พวกเราเข้มแข็งด้วยตัวของเราเอง เพราะสภาพแวดล้อมไม่ได้เป็นแบบนี้ เราก็เลยเข้มแข็งเพียงพอที่จะต่อสู้ แต่วันนี้สังคมกลายเป็นว่าทุกคนเป็นห่วงลูก ลูกเลยถูกปกป้องไว้อย่างนี้ การที่จะต่อสู้เลยไม่มี ทำให้เขาพร้อมที่จะถูกไปโน่นไปนี่ได้ตลอด เราทุกคนอยากให้ลูกมีความสุข สมัยเราลำบากเราก็ไม่อยากให้ลูกลำบากแบบเรา ก็ดูแลทุกอย่างจนกระทั่งไม่เข้มแข็ง นั่นคือสิ่งที่อันตรายในวันหน้า

นายกฯ กล่าวว่า อีกเรื่องคือเงินบริจาคที่ได้รับมา ตนจะพิจารณาว่าเงินเหล่านี้จะมอบให้กรณีที่มีการสญเสียของบุคลากรทางการแพทย์ เป็นการมอบให้พิเศษเพิ่มเติมจากงบของราชการปกติ

ทั้งนี้ในช่วงท้ายนายกฯ ยังได้พูดหยอกล้อกับบุคลากรทางการแพทย์ว่า "เราสามารถคุยกันได้ในฐานะที่อยู่ในระดับบริหารด้วยกัน ซึ่งผมมองแบบนั้น และวันหน้าก็ฝากไว้ด้วย เผื่อคุณหมอคนไหนที่จะมาเป็นนายกฯ ซึ่งหมอหนูก็มีสิทธิ์ โอเคนะ อย่าพูดกันไปกันมา เพราะประเทศไทยพร้อมหาจำเลย"


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"