15 เม.ย.2563 - ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ ทำเนียบรัฐบาล ทีมโฆษกพรรคก้าวไกล นำโดย นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร โฆษกพรรค พร้อมคณะเข้ายื่นหนังสือถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ผ่านนายสุพร อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นตัวแทนรับเรื่อง
นายวิโรจน์กล่าวว่า การเปิดให้ประชาชน ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ลงทะเบียนรับเงินเยียวยา 5,000บาท เป็นเวลา 3 เดือน ให้ประชาชน8 ล้านคนผ่านเว็บไซต์เราไม่ทิ้งกัน.com ของกระทรวงการคลัง และใช้ระบบ AIตรวจคัดกรองผู้มีคุณสมบัตินั้น พรรคก้าวไกลได้ท้วงติงและมีข้อเสนอรัฐบาลตั้งแต่ต้นว่าควรช่วยเหลือเยียวยาแรงงานนอกระบบทั้งหมดแบบถ้วนหน้า ทั้งที่อยู่ในระบบประกันตนมาตรา 39 มาตรา 40 ซึ่งว่างงานอยู่ประมาณ 14.5 ล้านคน โดยเทียบเคียงกับกรณีที่การท่าอากาศยานไทย มีมติช่วยเหลือเยียวยาผู้ประกอบการในการท่าอากาศยานถึงปี 2565 ทำให้กลุ่มทุนขนาดใหญ่ได้รับประโยชน์ ขณะที่การท่าอาจสูญเสียกำไรถึง 22,536 ล้านบาท ทั้งที่ขณะนั้นสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ยังไม่รุนแรงเท่ากับปัจจุบัน แต่ไม่ได้รับการตอบรับ
นายวิโรจน์กล่าวต่อว่า เมื่อเปิดลงทะเบียนพบว่าการตรวจคัดกรองความเดือดร้อนของประชาชนโดยใช้ระบบที่มีความซับซ้อน ซึ่งประชาชนบางส่วนอาจไม่คุ้นกับเทคโนโลยีและเข้าไม่ถึงการลงทะเบียนของรัฐจนเสียสิทธิ์ไป ที่สำคัญได้กำหนดหลักเกณฑ์การคัดกรองโดยตัดบางอาชีพที่ได้รับผลกระทบจริงออกไปจำกัดวงให้เหลือเพียง 8 ล้านคน ทำให้แรงงานนอกระบบอีก 6.5 ล้านคนถูกทอดทิ้ง และล่าสุดมีผู้ลงทะเบียน 27 ล้านคน คัดกรองไปได้ 7.99 ล้านคน มีคนที่ผ่านเกณฑ์เพียง 1.68 ล้านคน และยังต้องกรอกข้อมูลเพิ่มเติมอีก 1.53 ล้านคน และประชาชนที่ไม่ผ่านถึง 4.78 คน ทั้งที่กรอกข้อมูลตามความเป็นจริง แต่ถูกระบุว่าไม่เข้าเกณฑ์ซึ่งทั้งหมดพิสูจน์ให้เห็นว่ากระบวนการประสบความล้มเหลวทางที่ประชาชนต้องการความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน ดังนั้นหากรัฐบาลยังยืนยันที่จะดำเนินมาตรการดังกล่าวจะเป็นการซ้ำเติมประชาชนในช่วงเวลาที่ต้องการความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน
นายวิโรจน์ กล่าวว่า พรรคก้าวไกลขอเรียกร้องให้รัฐบาลเปลี่ยนแนวทางดำเนินมาตรการช่วยเหลือประชาชนในกลุ่มอื่นๆ ให้ครอบคลุม ดังนี้ 1.ให้รัฐบาลเปลี่ยนความคิดว่าเป็นเจ้าของเงินที่ต้องนำมาบริจาคให้กับประชาชนเป็นรัฐบาลคือผู้ที่ได้รับมอบหมายจากประชาชนให้จัดสรรงบประมาณมาช่วยเหลือเยียวยาให้เกิดประโยชน์กับประชาชน 2.ให้รัฐบาลยกเลิกกระบวนการพิสูจน์ความทุกข์ของประชาชน ยกเลิกเกณฑ์อาชีพเดิมที่ปฏิเสธช่วยเหลือ เพื่อให้แรงงานนอกระบบได้รับเงินโดยเร็ว เพราะหากเยียวยารายละ 5,000บาทให้กับแรงงาน 14.5 ล้านคนเป็นเวลา 3 เดือนจะใช้งบประมาณ 217,500 ล้านบาท ซึ่งอยู่ในวิสัยที่รัฐบาลสามารถจัดสรรได้ 3.ให้รัฐบาลเยียวยาแรงงานในระบบประกันสังคมที่มีอยู่ประมาณ 12 ล้านคน ที่ประสบปัญหารายได้ เนื่องจากถูกลดเงินเดือน ถูกสั่งให้หยุดงานในบางวันจ่ายค่าแรงบางส่วน หรือลดชั่วโมงทำงานล่วงเวลา รวมทั้งเยียวยาแรงงานนอกระบบภาคเกษตรที่มีประมาณ 11.5 ล้านคนด้วย และ 4.ขอให้รัฐบาลเตรียมมาตรการช่วยเหลือเยียวยาเก็บตกสำหรับกลุ่มประชาชนที่เข้าไม่ถึงระบบการลงทะเบียนออนไลน์ให้สามารถลงทะเบียนกับเจ้าหน้าที่ได้พร้อมจัดหาสิ่งจำเป็นในการดำรงชีวิตเช่นศูนย์พักพิงศูนย์กักกันโรคสิ่งของบริโภคและสิ่งของจำเป็นตามที่รัฐบาลบอกไว้ว่าจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง
“สมาชิกพรรคก้าวก่ายจะลงพื้นที่เก็บข้อมูลความเดือดร้อนของประชาชนและในส่วนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการเยียวยาโดยได้เปิดเว็บไซต์ www.ทำไมไม่ได้ 5พัน.com เพื่อรับเรื่องร้องเรียนและนำเข้าสู่กระบวนการกลไกของสภาผู้แทนราษฎรเพื่อเป็นปากเสียงให้กับประชาชนได้รับสิทธิ์อันชอบธรรม”
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |