เพื่อนบ้านของไทยยังน่าห่วง อินโดนีเซียตายเพิ่มรายวันสูงสุด 60 ศพ ยอดรวม 459 ศพ ฟิลิปปินส์ติดโควิด-19 เกิน 5,200 คนแล้ว สิงคโปร์ติดเชื้อเพิ่มพรวดพราดวันเดียวกว่า 330 ราย รัฐบาลกลับลำบังคับประชาชนสวมหน้ากากอนามัย ฝ่าฝืนเจอปรับเกือบ 7,000 บาท

ตำรวจอินโดนีเซียแจกจ่ายหน้ากากอนามัยให้คนขับรถจักรยานยนต์ในเมืองโลคซูมาวี เมื่อวันจันทร์

    ข่าวรอยเตอร์อ้างคำแถลงของกระทรวงสาธารณสุขอินโดนีเซียเมื่อวันอังคารที่ 14 เมษายนว่า อินโดนีเซียมีผู้ป่วยโควิด-19 เสียชีวิตเพิ่มรายวันเป็นสถิติใหม่ถึง 60 ราย ทำให้ยอดตายรวมเป็น 459 ศพแล้ว มากที่สุดในภูมิภาคนี้ ส่วนผู้ติดเชื้อรายใหม่มีอีก 282 ราย ยอดผู้ติดเชื้อสะสม 4,869 ราย แต่อินโดนีเซียเพิ่งตรวจเชื้อไปแค่ราว 33,600 รายเท่านั้น

    ฟิลิปปินส์มีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 20 คนเมื่อวันอังคาร ยอดตายรวมเป็น 335 ศพ ผู้ติดเชื้อรายใหม่ 291 คน มากกว่าจำนวนของวันจันทร์ที่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 284 ราย โดยยอดสะสมในฟิลิปปินส์เพิ่มเป็น 5,223 คนมากที่สุดในอาเซียน โดยยอดผู้ติดเชื้อสะสมของฟิลิปปินส์แซงหน้ามาเลเซียตั้งแต่วันจันทร์

    ส่วนมาเลเซียมีคนเสียชีวิตเพิ่มอีก 5 ราย ยอดรวมเป็น 82 ศพ และผู้ติดเชื้อรายใหม่ 170 ราย ยอดรวมเป็น 4,987 ราย ยอดติดเชื้อรายใหม่ของมาเลเซียเพิ่มขึ้นจากวันก่อนหน้านี้ที่พบเพิ่มเพียง 134 ราย

    สิงคโปร์ เพื่อนบ้านของมาเลเซีย รายงานว่ามีผู้ติดเชื้อรายใหม่อีก 334 คนเมื่อวันอังคาร ส่วนใหญ่เชื่อมโยงกับหอพักแรงงานต่างด้าวที่เป็นแหล่งแพร่เชื้อ ยอดติดเชื้อรวมในสิงคโปร์เพิ่มเป็น 3,252 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย รวมเป็น 10 ราย

    รัฐบาลสิงคโปร์ออกคำแนะนำใหม่ด้วยเมื่อวันอังคาร โดยบังคับให้ประชาชนต้องสวมหน้ากากอนามัยในที่สาธารณะและเมื่อใช้ระบบขนส่งมวลชน พร้อมกำหนดบทลงโทษปรับ 300 ดอลลาร์สิงคโปร์ หรือราว 6,924 บาท สำหรับผู้ที่ทำผิดครั้งแรก โดยยกเว้นให้เด็กที่อายุต่ำกว่า 2 ปีหรือเด็กที่ต้องการการดูแลเป็นพิเศษ และผู้ที่ออกกำลังกายหนักนอกบ้าน

    ก่อนหน้านี้ เมื่อเริ่มพบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาในสิงคโปร์เกือบ 3 เดือนก่อน รัฐบาลสิงคโปร์แนะนำประชาชนว่าควรสวมหน้ากากอนามัยเมื่อยามป่วยเท่านั้นเพื่อหลีกเลี่ยงการแพร่เชื้อ แต่ช่วงหลายวันนี้มานี้เจ้าหน้าที่เริ่มเปลี่ยนแนวทางมาสนับสนุนให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัย หลังจากมีความวิตกเรื่องการแพร่เชื้อจากผู้ติดเชื้อที่ไม่แสดงอาการ โดยรัฐบาลได้แจกจ่ายหน้ากากอนามัยชนิดนำกลับมาใช้ใหม่ได้แก่ครัวเรือนต่างๆ และสงวนหน้ากากทางการแพทย์ไว้สำหรับบุคลากรด้านสาธารณสุข

    สิงคโปร์เริ่มใช้มาตรการล็อกดาวน์บางส่วนนาน 1 เดือนมาตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว โดยสั่งให้ปิดโรงเรียนและสถานที่ทำงานเกือบทั้งหมด แต่อนุญาตให้ธุรกิจและบริการที่จำเป็นดำเนินการต่อไป.