14 เม.ย.63- นายวัฒนา เมืองสุข แกนนำพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า เสียดายความคิดริเริ่มของผู้ว่านนทบุรี ที่จะผ่อนคลายมาตรการให้ผู้ประกอบการบางประเภทได้กลับไปทำมาหากินตั้งแต่วันที่ 15 เมษายน แต่สุดท้ายทนระบบรัฐราชการไม่ไหวต้องยกเลิกคำสั่งตัวเองและห้ามประชาชนทำมาหากินต่อไปจนถึงวันที่ 30 เมษายน โดยไม่สนใจว่าประชาชนจะอยู่อย่างไรจะมีกินหรือไม่
ผมยอมรับว่าการหยุดยั้งการแพร่ระบาดของโควิด-19 เป็นเรื่องสำคัญ การใช้ยาแรงด้วยการล็อกดาวน์ประเทศอาจจะหยุดการแพร่ระบาดอย่างได้ผลแต่สิ่งที่จะตามมาคือเศรษฐกิจที่จะพังพินาศตามไปด้วย รัฐบาลจึงต้องพิจารณาให้เกิดความสมดุลระหว่างด้านการสาธารณสุขและด้านเศรษฐกิจ
เมื่อตัวเลขผู้ติดเชื้อลดลงและจำนวนเตียงมีเพียงพอที่จะรองรับผู้ป่วย รัฐก็ควรผ่อนคลายมาตรการให้ผู้ประกอบการบางประเภทได้กลับไปทำงานบนมาตรฐานการสาธารณสุขที่เหมาะสม โดยเฉพาะเมื่อรัฐไม่มีปัญญาจะเยียวยาประชาชนได้อย่างทั่วถึงก็ควรรีบผ่อนคลายมาตรการเพื่อให้ประชาชนได้กลับไปทำมาหากินช่วยตัวเอง
ขณะที่คนไทยเข้าไม่ถึงการตรวจเพราะชุดตรวจไม่พอ ขณะที่คนไทยที่เดือดร้อนต้องไปคุกเข่าเรียกร้องเงินเยียวยารายละ 5,000 บาท ที่มาจากภาษีของพวกเค้าแต่ถูกกระทรวงการคลังปฏิเสธพร้อมล็อกประตูใส่หน้า แต่พลเอกประยุทธ์กลับบริจาคชุดตรวจโควิด-19 แบบ RT-PCR ที่ซื้อจากเงินของคนไทยให้อาเซียนชาติละ 10,000 ชุด คงบอกถึงความแตกต่างของรัฐบาลที่มาจากประชาชนกับรัฐบาลเฮงซวยที่ไม่เคยเห็นหัวประชาชน
ข่าวร้ายคือถ้าไม่อดตายไปเสียก่อน คนไทยยังจะต้องทนอยู่กับรัฐบาลเฮงซวยไปอีกหลายปีตราบเท่าที่รัฐธรรมนูญที่เผด็จการเขียนขึ้นยังไม่ถูกแก้ไข.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |