แกะรอยอดีตพนง. ภาพชัดชิงเงินธกส.


เพิ่มเพื่อน    


    ตร.แกะรอยโจรฉายเดี่ยวควงปืนชิงเงิน ธ.ก.ส.ย่านประเวศ เริ่มได้เค้าแล้ว จ่อขอหมายจับตามภาพกล้องวงจรปิด พบเส้นทางคนร้ายขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีมุ่งหน้ากิ่งแก้ว
    เมื่อวันที่ 14 เมษายน มีความคืบหน้ากรณีคนร้ายเป็นชายใช้ปืนก่อเหตุชิงทรัพย์ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) สาขาย่อยเฉลิมพระเกียรติ ร.9 เลขที่ 83 ถนนเฉลิมพระเกียรติ ร.9 แขวงและเขตประเวศ กทม. ได้เงินสดไป 106,000 บาท ก่อนขี่รถจักรยานยนต์ฮอนด้าคลิก สีดำ ทะเบียน วทล 683 กรุงเทพมหานคร หลบหนีไป
    พ.ต.อ.สมโภช สุวรรณจรัส ผกก.สน.ประเวศ เปิดเผยว่า เบื้องต้นได้สั่งชุดสืบสวนทำการแกะรอยเส้นทางหลบหนีของคนร้าย โดยตรวจสอบกล้องวงจรปิดตั้งแต่จุดเกิดเหตุไปยังปลายทางที่คาดว่าคนร้ายจะหลบหนี แต่ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้เพราะเป็นข้อมูลเชิงสืบสวนที่อยู่ระหว่างพิสูจน์ทราบตัวบุคคล แต่จากการตรวจสอบทะเบียนรถจักรยานยนต์ที่คนร้ายก่อเหตุพบว่าเป็นทะเบียนจริง และต้องทำการตรวจสอบเพิ่มเติมว่าทะเบียนดังกล่าวเป็นของใคร ยังเชื่อว่าได้ก่อเหตุเพียงคนเดียว ยังไม่ยืนยันว่ามีการมาดูลาดเลาก่อนหรือไม่ เพราะวันที่ 13 เม.ย.เป็นวันแรกที่ธนาคารปิดเวลาบ่าย 3 โมง ส่วนคนร้ายที่ก่อเหตุจะเป็นโจรมืออาชีพ หรือโจรฉวยโอกาสช่วงโควิด-19 หรือไม่นั้น ก็ยังไม่ยืนยัน
    พ.ต.อ.สมโภชกล่าวอีกว่า เบื้องต้นได้มีการสอบปากคำพยานแวดล้อมทั้งหมด 5 ปาก เป็นเจ้าหน้าที่ธนาคาร พนักงานรักษาความปลอดภัย คาดว่าวันนี้จะเตรียมขอศาลออกหมายจับผู้ก่อเหตุตามภาพในกล้องวงจรปิด ในข้อหาชิงทรัพย์โดยใช้อาวุธปืน และพกพาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านสาธารณะ
    ด้านนายชลาธิป วงศ์จำปา พนักงานรักษาความปลอดภัยของธนาคาร เชื่อว่าคนร้ายน่าจะมาดูลาดเลาก่อนเพราะรู้ความเคลื่อนไหวและเวลาปิด-เปิดของธนาคารเป็นอย่างดี ถ้าหากมาในช่วงธนาคารเปิดทำการก็จะเจอจุดคัดกรองโควิด-19 จะถูกตรวจวัดอุณหภูมิ ตรวจอาวุธ ไม่สามารถเข้าไปภายในธนาคารได้ง่ายๆ คนร้ายจึงเลือกลงมือในช่วงที่ธนาคารใกล้ปิด ก็คือเวลาประมาณบ่าย 3 โมง ซึ่งกล้องวงจรปิดสามารถบันทึกภาพของคนร้ายได้อย่างชัดเจน ซึ่งมีทั้งหมด 8 ตัว อยู่บริเวณด้านหน้าธนาคาร 2 ตัว ด้านหลังธนาคาร 1 ตัวและภายในธนาคารอีก 5 ตัว
    คนร้ายใช้เวลาก่อเหตุไม่ถึง 5 นาที ก่อนจะขับรถจักรยานยนต์ที่จอดไว้หน้าธนาคาร หลบหนีไปตามถนนเฉลิมพระเกียรติซอย 9 มุ่งหน้าลาดกระบัง ซึ่งจะมีเส้นทางแยกย่อยที่สามารถออกไปได้หลายเส้นทางทั้งบางนา ราม 2 กิ่งแก้ว พัฒนาการ ศรีนครินทร์ ประเวศ โดยยอมรับว่าตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะตัวเองอยู่ในเหตุการณ์และได้เผชิญหน้ากับคนร้าย เพราะช่วงเวลานั้นคนร้ายใช้อาวุธปืนข่มขู่ ปืนขึ้นลำกล้องยืนห่างกันไม่ถึง 2 เมตร
    มีรายงานข่าวแจ้งว่า พล.ต.ต.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ รอง ผบช.น. ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบก.สส.บช.น. ระดมกำลังตำรวจ กก.สส.1 บก.สส.บช.น. ตำรวจ กก.สส.บก.น.4 และตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.ประเวศ ลงพื้นที่ตรวจสอบเส้นทางการหลบหนีของคนร้าย รวมไปถึงภาพจากกล้องวงจรปิดทั้งก่อเกิดเหตุ และหลังก่อเหตุ ซึ่งพบว่าหลังจากคนร้ายก่อเหตุแล้วนั้น พบว่ามีกล้องวงจรปิดบริเวณซอยกาญจนาภิเษก 39 แขวงดอกไม้ เขตประเวศ กรุงเทพฯ ระบุเวลา 15.00 น. วันที่ 13 เม.ย. สามารถจับภาพขณะคนร้ายขี่รถจักรยานยนต์คันดังกล่าวหลบหนีมาจากคู่ขนานมอเตอร์เวย์ ฝั่งเขตประเวศ ลอดใต้มอเตอร์เวย์เลี้ยวซ้ายคู่ขนานมอเตอร์เวย์ฝั่งกิ่งแก้ว แล้วเลี้ยวขวาเข้าซอยกาญจนาภิเษก 39 มุ่งหน้าถนนกิ่งแก้ว
    มีรายงานอีกว่า รถจักรยานยนต์ที่คนร้ายใช้ก่อเหตุถูกขโมยมาก่อนนำมาใช้ก่อเหตุ อย่างไรก็ตาม ตำรวจอยู่ระหว่างเร่งติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
    ที่ สน.ประเวศ พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร. ให้สัมภาษณ์ภายหลังประชุมติดตามความคืบหน้าคดีคนร้ายใช้อาวุธปืนก่อเหตุชิงเงิน ธ.ก.ส.ว่า ขณะนี้ทราบเพียงตำหนิรูปพรรณของคนร้าย เดินทางมาจากไหน ใช้ยานพาหนะอะไร และได้ทรัพย์สินอะไรไปบ้าง อยู่ระหว่างพิสูจน์ทราบว่าเป็นใคร และหาจุดสุดท้ายของเส้นทางหลบหนี เนื่องจากคนร้ายใช้เส้นทางที่ค่อนข้างไกลจากจุดเกิดเหตุ พร้อมสั่งตรวจกล้องวงจรปิดในสถานที่เกิดเหตุที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ย้อนหลังไป 7 วัน
    ทั้งนี้ จากการตรวจสอบทะเบียนรถจักรยานยนต์ที่คนร้ายก่อเหตุพบว่าเป็นทะเบียนจริง ทราบตัวเจ้าของเเล้ว แต่พบว่าป้ายดังกล่าวถูกขโมยจากเจ้าของตัวจริงไปตั้งแต่เมื่อ 2-3 วันก่อน และเพิ่งมีการแจ้งความไปหลังเกิดเหตุแล้ว ยังไม่ได้ตัดประเด็นว่าเจ้าของทะเบียนเกี่ยวข้องกับเหตุดังกล่าวหรือไม่ แต่ตำรวจมีกล้องวงจรปิดจับภาพผู้ต้องสงสัยขณะถอดป้ายทะเบียนรถจักรยานยนต์แล้ว เช่นเดียวกับลายนิ้วมือแฝงในที่เกิดเหตุ อยู่ระหว่างเทียบเคียงหาตัวบุคคล
    ขณะเดียวกันได้สั่งการให้ตรวจสอบข้อมูลผู้ที่เคยก่อเหตุในลักษณะเดียวกันและเพิ่งพ้นโทษออกมา เพื่อเทียบเคียงข้อมูลด้วย อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าคนร้ายไม่เชี่ยวชาญการใช้อาวุธปืน และยังไม่สามารถออกหมายจับได้
    พร้อมทั้งได้เรียกพนักงาน ธ.ก.ส.มาสอบปากคำเพิ่ม โดยเฉพาะประเด็นบุคคลที่เคยทำงานในธนาคารหรือบุคคลที่อยู่ละแวกใกล้เคียงที่รู้ความเคลื่อนไหวธนาคาร และสั่งการให้ตรวจสอบประวัติพนักงานที่เคยทำงาน ธ.ก.ส.ย้อนหลัง อีกทั้งยอมรับว่าอาจจะเป็นไปได้ว่าคนร้ายจะเป็นบุคคลกลุ่มนี้ รวมทั้งมีการนำการเเต่งกายของคนร้ายที่ใส่ในวันก่อเหตุไปจำลองเพื่อหาแหล่งที่มา โดยอิงจากเหตุการณ์ชิงทอง จ.ลพบุรี แต่ยืนยันว่าการชิงทรัพย์ครั้งนี้ไม่เหมือนกับเหตุที่ จ.ลพบุรี.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"