พท.หนุนมาร์คสกัดประยุทธ์


เพิ่มเพื่อน    

   “พรเพชร” ลงนามส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความกฎหมายลูก ส.ส.แล้ว พร้อมอ้อนให้เร่งพิจารณา “ประยุทธ์” แนะหากอยากเดินหน้าตามโรดแมปเลิกพูดจาปั่นกระแส วิษณุยันเตรียมพร้อมแก้คำสั่ง คสช.53/2560 แล้ว รอมติที่ประชุม คสช. แนะนักการเมืองเตรียมแต่งตัวหาเสียง ไม่ต้องตื่นตูม  ลั่นเลื่อนหย่อนบัตรเมื่อไหร่บอกแน่ “เพื่อไทย” คึกคักเช็กชื่อสมาชิกก่อนท่องบทขอปลดล็อก วัฒนาเผยกลัวถูกยุบพรรคห้าม “ทักษิณ” สไกป์สงกรานต์
เมื่อวันจันทร์ นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ให้สัมภาษณ์ว่าได้ลงนามหนังสือส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญตามที่สมาชิก สนช. 27 รายเข้าชื่อ เพื่อให้ยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร  (ส.ส.) ใน 2 ประเด็นแล้ว โดยรองานด้านธุรการซึ่งจะส่งภายในเวลา 16.30 น.ของวันที่ 2 เม.ย.นี้ หรือหากไม่ทันก็ส่งในวันที่ 3 เม.ย. และได้เขียนหนังสือแนบท้ายขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาโดยเร็ว
    นายพรเพชรยังระบุว่าได้รับหนังสือจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่แจ้งว่านายกฯ และคณะรัฐมนตรี (ครม.) จะไม่ยื่นให้ศาลตีความเองแล้ว แม้ยังไม่ได้เห็นเนื้อหาในหนังสือ ซึ่งการยื่นตีความครั้งนี้ไม่น่าทำให้ไทม์ไลน์การเลือกตั้งต้องยืดออกไป เพราะการคำนวณเวลาที่เกี่ยวข้องเป็นการคำนวณบนตัวเลขสูงสุด ซึ่งแต่ละฝ่ายที่เกี่ยวข้องสามารถทำให้ได้เสร็จก่อนเวลาที่กำหนด เช่น สนช.พิจารณาการสรรหาคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ชุดใหม่ที่กำหนดไว้ 90 วัน หรือ กกต.กำหนดวันเลือกตั้งภายใน 150 วัน ก็อาจไม่จำเป็นต้องทำจนเต็มเวลา
     ด้าน พล.อ.ประยุทธ์ให้สัมภาษณ์หลังเป็นประธานมอบเกียรติบัตรและเข็มเชิดชูเกียรติแก่ข้าราชการพลเรือนดีเด่น เนื่องในวันข้าราชการพลเรือน ประจำปี พ.ศ.2561 ว่าอยากพูดถึงการเมืองนิดหนึ่ง ไม่ได้ไปตำหนิใคร แต่ก็เห็นว่ามีคนออกมาพูดจาต่างๆ ด้วยความหวังดีบ้าง ไม่หวังดีบ้าง ก็ขอร้องว่าในเมื่อทุกคนอยากเลือกตั้ง อยากเดินหน้าไปตามขั้นตอนโรดแมปที่กำหนดไว้ ก็อย่าพูดจาให้เสียหาย สร้างความวุ่นวายให้มากนัก เพราะท้ายที่สุดความรับผิดชอบก็ตกอยู่ที่รัฐบาลอยู่ดี 
“รัฐบาลไม่ได้มีหน้าที่เรื่องการเลือกตั้งอย่างเดียว ยังมีหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อย ไม่ทำให้เกิดผลกระทบต่อคนอื่นเขาด้วย ซึ่งรัฐบาลมีเจตนารมณ์มุ่งมั่นเดินหน้าไปสู่การเป็นประชาธิปไตยโดยสมบูรณ์ แต่ต้องไปคิดกันต่อว่าหลังเลือกตั้งไปแล้วประเทศไทยจะเป็นอย่างไร ผมฝากคำถามนี้ไปแล้วกัน ก็หวังว่าจะดีขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ในเวลานี้" พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
      นายกฯ ย้ำอีกว่าปัญหาอะไรต่างๆ ก็ตามที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วต้องได้รับการแก้ไข ถ้าบอกว่าตนเองทำไม่ดี ท่านต้องทำให้ดีกว่านี้ ไม่ใช่ไม่ทำอะไรเลย กลับไปสู่เดิมๆ ประชาชนก็เข้าใจแบบเดิมๆ มันไม่ได้ เราต้องสร้างความเข้าใจกับประชาชนให้มากยิ่งขึ้นว่า เราควรแก้ปัญหาของประเทศเราอย่างไร ถ้าเราโจมตีกันไปมาก็ไม่เกิดประโยชน์อะไรทั้งสิ้น ตนเองไม่ใช่ศัตรูของท่าน เป็นคนไทย ท่านก็เป็นคนไทย เพราะฉะนั้นการเป็นคนไทยก็ต้องทำให้ประเทศไทยมั่นคง มีเสถียรภาพ ถึงจะนำไปสู่การพัฒนาด้านเศรษฐกิจและสังคม
เมื่อถามถึงความชัดเจนในการยื่นตีความ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. นายกฯ ตอบว่าเดี๋ยวส่งให้ สนช.ยื่น ส่วนที่พรรคการเมืองเรียกร้องให้แก้ไขคำสั่ง คสช.ที่ 53/2560 นั้นยังพิจารณาอยู่
แนะนักการเมืองเตรียมตัว
    ขณะที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ กล่าวถึงกรณีผู้ตรวจการแผ่นดินส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 53/2560 ขัดรัฐธรรมนูญ ว่าผู้ตรวจฯ มีอำนาจยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ คำวินิจฉัยออกมาอย่างไรจะผูกมัดผู้เกี่ยวข้องต้องปฏิบัติตาม แต่เวลานี้ศาลยังไม่มีคำวินิจฉัยจึงไม่มีอะไรที่ต้องทำ ส่วนข้อขัดข้องที่บางฝ่ายยกขึ้นมาจากคำสั่งดังกล่าวพอจะทราบกันอยู่ มีการหารือเป็นระยะ และก่อนที่ กกต.จะเรียกพรรคการเมืองมาชี้แจงข้อซักถาม เมื่อวันที่ 28 มี.ค.ได้มีการประชุมร่วมกันระหว่าง กกต., รัฐบาล และ คสช. และทราบว่าข้อสงสัยเหล่านี้ซึ่งพบส่วนที่น่าจะเป็นปัญหาอยู่จริงในการปฏิบัติตามคำสั่งหัวหน้า คสช. โดยได้คิดกันไว้ว่าเมื่อถึงจุดหนึ่งที่รวบรวมข้อสงสัยได้ชัดเจนอาจต้องแก้ไข โดยคณะกรรมการกฤษฎีกาได้ยกร่างเตรียมไว้ก่อนแล้ว แต่ไม่รู้ว่าจะปรับแก้เมื่อใด ถ้ามีต้องผ่านความเห็นชอบจากที่ประชุม คสช.ก่อน
     “เอาเป็นว่าใครเตรียมลงสมัครรับเลือกตั้ง ท่านก็ไปเตรียมหาเสียงให้ทันการเลือกตั้งในเดือน  ก.พ.62 แล้วกัน อย่างอื่นคนอื่นช่วยจัดการให้ ท่านไม่ต้องจัดการอะไร ถ้ามัวแต่นั่งกังวลสงสัยว่าจะเลื่อนเลือกตั้งหรือเปล่าเลยยังไม่หาเสียง หรือยังไม่ได้ตัดสินใจลาออกจากราชการ เดี๋ยวจะไม่ทัน รัฐบาลจะพูดเรื่องโรดแมปต่อเมื่อ เฮ้ย! ต้องเลื่อนแล้วโว้ย ถ้ายังไม่เลื่อนก็ยังเป็นไปตามโรดแมป” นายวิษณุกล่าว
ส่วน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ  หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ออกมาระบุพรรคไม่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ว่า เป็นเรื่องของเขา เขาพูดอย่างไรก็ว่าไปตามนั้น ส่วนความเคลื่อนไหวของพรรคการเมืองหลังเปิดให้ยืนยันการเป็นสมาชิกพรรคนั้นก็ดูแล้ว ไม่มีอะไร ก็ว่าไปในการแจ้งลงบัญชีพรรคการเมือง ส่วนที่เรียกร้องให้ปลดล็อกนั้นพูดหลายครั้งแล้ว
เมื่อถามถึงกรณีนายเสนาะ เทียนทอง ประธานที่ปรึกษาพรรคเพื่อไทย (พท.) เตือน พล.อ.ประยุทธ์  หากเป็นนายกฯ สมัยหน้าให้ระวังการอภิปรายในรัฐสภานั้น พล.อ.ประวิตรกล่าวว่านายกฯ ทำดีทุกอย่างแล้วจะไปอภิปรายอะไรท่าน ซึ่งอนาคตยังไม่เกิดก็อย่าไปพูด ท่านทำงานเหนื่อยยาก ไม่เห็นมองความดีของท่านบ้าง อยากให้ถามเรื่องดีๆ บ้าง
      นายภูมิธรรม เวชชยชัย รักษาการเลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณีนายอภิสิทธิ์ว่า ถือเป็นเรื่องน่ายินดีเพราะได้ยินเสียงชัดเจนจากหัวหน้า ปชป. ซึ่งในฐานะนักการเมืองในระบอบประชาธิปไตยเราก็สนับสนุนจุดยืนเรื่องนี้ คงเป็นเรื่องที่พรรคการเมืองต้องร่วมกัน ถ้าอยากเห็นประเทศมีทางออกก็ต้องให้แนวทางประชาธิปไตยมาเป็นแนวทางที่ประสบความสำเร็จ
ปัดทิ้งข้อเสนอป๋าเหนาะ
นายนิกร จำนง ผู้อำนวยการพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) กล่าวถึงข้อเสนอนายเสนาะที่ให้มีรัฐบาลปรองดองแห่งชาติว่า "คงเกิดเช่นนั้นขึ้นไม่ได้ การเมืองขณะนี้รอเพียงกฎหมาย 2 ฉบับเท่านั้น  และเชื่อว่าการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นไม่เกิน ก.พ.62 การขยับออกไป 2-3 เดือนก็ไม่รู้สึกว่าไกลเท่าใดนัก" 
นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้า ปชป.กล่าวเช่นกันว่า ข้อเสนอรัฐบาลแห่งชาติมีหลายฝ่ายนำเสนอก่อนหน้านี้แล้ว ซึ่งเป็นสิทธิของแต่ละคนที่เสนอได้ แต่ทางออกที่ดีที่สุดคือ การเดินหน้าต่อตามโรดแมปที่ พล.อ.ประยุทธ์ได้ประกาศไว้ต่อสังคมว่าจะมีภายในเดือน ก.พ.62 จะเกิดประโยชน์ต่อบ้านเมืองมากกว่า แต่เพราะหากยอมรับข้อเสนอจัดตั้งรัฐบาลแห่งชาติเท่ากับว่ายอมรับว่าจะไม่มีการเลือกตั้งตามโรดแมป ซึ่งจะก่อให้เกิดความไม่แน่นอนทางการเมืองตามมา และส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่ถึงความเชื่อมั่นของประชาชน
สำหรับความเคลื่อนไหวในการให้สมาชิกพรรคการเมืองเก่ามายืนยันความเป็นสมาชิกในวันที่สองนั้น นายองอาจที่ดูแล กทม.กล่าวว่ายังไม่มีอดีต ส.ส.กทม.คนใดแสดงเจตนาจะไม่มายืนยันสมาชิกพรรค  ส่วนกรณีนายชื่นชอบ คงอุดม อดีต ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งจัดตั้งพรรคพลังท้องถิ่นไทว่าจะยังอยู่กับพรรคหรือไม่นั้น ยังไม่แน่ใจ แต่ขณะนี้ต้องถือว่าอยู่กับพรรค โดยต้องรอสรุปผลหลังวันที่ 30 เม.ย.นี้ถึงจะทราบใครอยู่ใครไป
ส่วนที่พรรคชาติไทยพัฒนา นายนิกรได้เดินทางมายืนยันความเป็นสมาชิกพรรคเป็นคนแรกต่อนายพิสิษฐ์ พิทยฐากุลเจริญ นายทะเบียนสมาชิกพรรค โดยระบุว่าเดิมพรรคชาติไทยก่อนถูกยุบเคยมีสมาชิกถึง 2.5 ล้านคน พอมาเป็น ชทพ.ก็ทำสมาชิกใหม่ได้ประมาณกว่า 20,000 คน ส่วนใหญ่อยู่ในเขตจังหวัดโดยเฉพาะในภาคกลาง ซึ่งไม่น่ามีปัญหาเพราะทุกคนรู้อยู่แล้วว่าพรรคอยู่ที่ไหน คาดว่าในวันที่ 4 เม.ย.นี้จะทยอยมายืนยันกัน ส่วนกระแสข่าวนายศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์ ลูกชาย พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ อดีตแกนนำพรรค ชทพ.ย้ายไปอยู่พรรคภูมิใจไทยนั้น ยังไม่ได้ยินจากปากนายศิริวัฒน์แต่อย่างใด ได้ยินแต่ข่าว คงต้องรอดูภายในวันที่ 30 เม.ย.นี้ ซึ่งพรรคไม่เคยเร่งรัด เพราะแนวทางที่นายบรรหารวางไว้คือจะไม่ขยายพรรคด้วยความไม่สมัครใจอีกแล้ว จึงไม่มีการบังคับ ใครพร้อมมาอยู่ก็อยู่  แต่หากจะออกไม่มีปัญหา เพราะเราไม่ได้ไปแข่งขันวิ่งไล่แย่งนายกฯ กับใคร พรรคขนาดกลางแบบนี้ดีอยู่แล้วเป็นการเมืองที่เพียงพอ
“ชทพ.ยืนยันได้ว่าเราไม่ทะเลาะกับใครแน่ เป็นพรรคการเมืองที่เย็นพอควร ใครรบกันจนพอแล้วก็มาอยู่ในดินแดนที่เป็นกลางได้” นายนิกรตอกย้ำ
    ขณะที่พรรคเพื่อไทย ซึ่งเปิดให้สมาชิกมายืนยันตัวตนวันแรกบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก มีสมาชิกเดินทางมายืนยันความเป็นสมาชิกจำนวนมาก โดยเฉพาะแกนนำพรรค ซึ่งพรรคยังได้เปิดไลน์ @pheuthaiparty เพื่อให้สมาชิกได้รับรู้ข้อมูลและติดต่อสื่อสารระหว่างพรรคกับประชาชนด้วย 
      ทั้งนี้ในวันแรกมีเพียงนายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล อดีต รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเท่านั้นที่ยื่นเอกสารยืนยันความเป็นสมาชิก ส่วนแกนนำคนอื่นๆ ระบุจะยืนยันความเป็นสมาชิกในวันที่ 4 เม.ย. เพราะพรรคจะเปิดให้สมาชิกเข้ารดน้ำดำหัวขอพรผู้ใหญ่และแกนนำพรรคในคราวเดียวกัน
     นายภูมิธรรมกล่าวต้อนรับสมาชิกพรรคตอนหนึ่งว่า แม้วันนี้ที่ผู้นำของเราหลายท่านต้องระเหเร่ร่อนไป หรือไม่มีโอกาสได้อยู่ทำหน้าที่อย่างต่อเนื่อง พวกเราที่ยังอยู่ก็ยังยึดมั่นและจะทำให้อุดมการณ์ความฝันของประชาชน และอุดมการณ์ที่เราเคยยึดมั่นให้ปรากฏเป็นจริงให้ได้ ประชาธิปไตยต้องเกิดขึ้นในสังคมไทย ระบบประชาธิปไตยที่ดึงการมีส่วนร่วมของประชาชนทุกคนเท่านั้นถึงเป็นต้นทุนสำคัญที่จะผลักดันและแก้ปัญหาเศรษฐกิจของประเทศได้
ท่องคาถาปลดล็อก
     “ถ้าวันนี้เขารีบคืนอำนาจให้ระบบประชาธิปไตยและให้การเลือกตั้งเกิดขึ้น หนทางที่จะทำให้ประเทศคลี่คลายรวมถึงการแก้ปัญหาเศรษฐกิจก็จะเกิดขึ้น วันนี้เราไม่ต้องการอะไร แต่เรื่องเดียวที่สำคัญที่สุดคือ ควรปลดล็อกพรรคการเมืองให้ทำหน้าที่ประสานกับประชาชน ให้ประชาชนได้แสดงบทบาทว่ามีปัญหา มีความต้องการอะไร ประเทศก็จะเดินหน้าต่อไปได้” นายภูมิธรรมกล่าว
นายภูมิธรรมกล่าวต่อว่า ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปเราจะเปิดรับดำเนินการยืนยันสมาชิก ใครที่มีโอกาสได้เข้ากรุงเทพฯ ก็สามารถมาเข้ายืนยันได้ ส่วนผู้อยู่ต่างจังหวัดสามารถยืนยันความเป็นสมาชิกพรรคได้ผ่านตัวแทนของพรรคซึ่งมีอยู่ 350 เขตเลือกตั้ง และในวันที่ 4 เม.ย. ตั้งแต่เวลา 09.00 น.เป็นต้นไป เราจะเชิญนักการเมืองของพรรคทั้งระบบบัญชีรายชื่อ ระบบพื้นที่ รวมถึงอดีตรัฐมนตรีของพรรคที่ตัดสินใจยังยืนอยู่กับพรรคเพื่อไทยชัดเจนก็จะแสดงตนในวันนั้น และจะจัดงานรดน้ำดำหัวขอพรผู้ใหญ่ด้วย
      “สื่ออาจสงสัยว่าวันที่ 4 เม.ย.ทำกิจกรรมการเมืองได้หรือไม่ ต้องขออนุญาต คสช.หรือไม่ ขอบอกว่าไม่ได้ขออนุญาต เพราะเชื่อว่าในสังคมไทยการดำเนินกิจกรรมทางประเพณีทั้งหมดดำเนินการได้โดยไม่ต้องขออนุญาต คสช. เพราะถ้าต้องขออนุญาต คสช. ทั้งอณูของชีวิต ทุกเรื่องของชีวิตต้องไปขออนุญาต คสช.หมด คิดว่า คสช.ไม่รู้จักชีวิตของคนทั้ง 60-70 ล้านคน” นายภูมิธรรมกล่าว
      นายภูมิธรรมยังยอมรับว่าเป็นเรื่องยากที่จะรวบรวมสมาชิกเดิมทั้ง 130,000 คน ซึ่งทุกพรรคคงเห็นตรงกันว่าสมาชิกพรรคลดลงแน่นอน ซึ่งการเมืองที่ดีที่ให้ประชาชนมีส่วนร่วมกับประชาธิปไตย ต้องอำนวยความสะดวกให้ประชาชนเข้าถึงได้ง่าย แต่ทุกวันนี้มีกฎกติกาที่ทำให้ประชาชนเข้าถึงได้ยาก หรือเพราะมีเจตนาอื่นแอบแฝง โดยวันนี้หากคิดถึงประเทศชาติเป็นหลัก คสช.ต้องถอยออกจากอำนาจ  ทหารต้องกลับกรมกอง ต้องทำหน้าที่ของตน ปล่อยให้พรรคการเมืองให้ประชาชนเดินหน้าสู่ประชาธิปไตย ความจำเป็นของ คสช.จะหมดไป โดยพรรคคงไม่ขออนุญาตจัดประชุมพรรคกับ คสช.เพราะไม่จำเป็นต้องขอทีละเรื่อง วันนี้ คสช.ไม่จำเป็นใดๆ ที่จะยืนคำสั่งเดิมๆ อีก ควรยกเลิกให้หมด  และพรรคเพื่อไทยจะไม่เลือก พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯ คนนอกแน่นอน ส่วนจะจับมือกับพรรคประชาธิปัตย์หรือไม่นั้นยังเร็วเกินไปที่จะพูดเรื่องนี้
“อยากเห็นพรรคการเมืองเดินไปข้างหน้า อยากเห็นระบอบประชาธิปไตยมีความเข้มแข็ง ขอให้ยกเลิกประกาศคำสั่งที่ 53/2560 การยิ่งยื้อทำให้เข้าใจเป็นอย่างอื่นไม่ได้ว่าท่านกำลังขอซื้อเวลา เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับสิ่งที่ท่านกำลังคิด วันนี้ไม่ใช่แบบ 4 ปีที่แล้ว ตอนนี้เข้าสู่สถานการณ์ปกติที่ทุกคนอยากเห็นกระบวนการเลือกตั้งอยู่แล้ว” นายภูมิธรรมระบุ
       นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รักษาการรองโฆษก พท.กล่าวว่า คสช.ต้องกล้าจะแสดงความกล้าหาญในการแก้ไขข้อบกพร่องจากคำสั่ง คสช.ที่ 53/2560 ที่ท่านเป็นผู้สร้างขึ้นมาเอง โดยควรยกเลิกการยืนยันสมาชิกพรรค ยกเลิกการยุบสาขาพรรค และปลดล็อกการเมืองทันที
ผวายุบ! ห้ามแม้วร่วมรดน้ำ
นายวัฒนา เมืองสุข อดีต รมว.พาณิชย์ กล่าวว่าในวันที่ 4 เม.ย. โดยปกติแต่ละครั้งกิจกรรมรดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ในพรรค นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ จะสไกป์เข้ามาพูดคุยและให้สมาชิกได้รดน้ำ แต่ในปีนี้จะไม่มีแน่นอน เพราะกิจกรรมนี้เป็นเรื่องของพรรค เราจัดการกันเอง ท่านไม่ได้เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย แม้ว่าสมาชิกพรรคอยากรดน้ำท่าน แต่สภาพปัจจุบันมันสุ่มเสี่ยงที่คนอาจร้องว่ามีการมายุ่งเกี่ยวกับพรรค แล้วร้องให้ยุบพรรคได้ ดังนั้นครั้งนี้เราจึงไม่ได้เชิญท่านมาร่วมด้วย
วันเดียวกัน นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรคอนาคตใหม่ได้เปิดเว็บไซต์ของพรรคอย่างเป็นทางการ ภายใต้ชื่อ https://thefuturewewant.today/ โดยภายในเว็บไซต์ได้เปิดรับสมัครสมาชิกของเว็บ สำหรับการติดตามข่าวสารของพรรคตามแคมเปญ The Future We Want และยังระบุอีกว่า ในส่วนของการรับสมัครสมาชิกพรรค รวมทั้งการเผยแพร่นโยบายต่างๆ จะปรากฏเมื่อพรรคได้รับการอนุมัติในการจดตั้งพรรคการเมืองใหม่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เช่นเดียวกับความเคลื่อนไหวในเฟซบุ๊กที่ได้มีการตั้งเพจ https://web.facebook.com/TheFutureWeWantPage/ เพื่อเป็นศูนย์กลางการติดต่อ รับรู้ข้อมูลข่าวสาร และระดมความคิดเห็น สำหรับผู้สนใจเป็นแนวร่วมการสร้างอนาคตใหม่กับทางพรรค
ขณะที่เฟซบุ๊กของนายธนาธรได้โพสต์ข้อความระบุว่า "The Future We want; อนาคตเรากำหนดเอง รณรงค์เพื่อกำหนดอนาคตที่สดใสด้วยมือของเราเองเริ่มแล้วที่นี่ เชื่อ-ยึดมั่น-เชิดชู ศักยภาพในการสร้างสรรค์ของเราที่จะสร้างสังคมที่ดีกว่าเดิม เริ่มสร้างมันด้วยกัน วางอิฐทีละก้อนเพื่อสร้างบ้านอันยิ่งใหญ่และอบอุ่นด้วยมือของคุณ".


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"