นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานเปิด จุดจ่ายน้ำบาดาล ให้บริการน้ำดื่มน้ำใช้ฟรีแก่ประชาชนที่สัญจรไปมาบนถนนสายหลัก 2 เส้นทางในจังหวัดสุพรรณบุรี ณ บริเวณหน้าโรงเรียนศรีประจันต์ เมธีประมุข ถนนสุพรรณบุรี-ชัยนาท และหมวดทางหลวงดอนเจดีย์ ถนนอู่ยา-ดอนเจดีย์ คาดว่าอีก 22 แห่ง ที่กระจายตามถนนสายหลักทั่วประเทศจะแล้วเสร็จ และทยอยเปิดให้บริการจนครบ 24 แห่ง ภายในเดือนพฤษภาคม 2563 นี้
นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า ปัจจุบันประเทศไทยกำลังประสบกับปัญหาต่างๆ ที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 ควบคู่กับปัญหาไฟป่าและหมอกควัน แต่ปัญหาภัยแล้งก็ยังเป็นอีกหนึ่งปัญหา ที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้ความสำคัญและเร่งดำเนินการแก้ไข โดยเฉพาะกรมทรัพยากรน้ำบาดาลที่มีเจ้าหน้าที่อีกหลายชีวิตยังต้องปฏิบัติหน้าที่ตามที่ได้รับมอบหมาย และจะต้องเร่งเจาะบ่อน้ำบาดาลเพื่อแก้ไขปัญหา ภัยแล้งให้แก่ประชาชนในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ รวมทั้งสิ้น 2,029 แห่ง หรือ 2,228 บ่อ ขณะนี้ดำเนินการเจาะเสร็จสิ้นไปแล้วกว่า 1,190 บ่อ คิดเป็นร้อยละ 52 คงเหลืออีกประมาณ 1,038 บ่อ คิดเป็นร้อยละ 48 ทั้งนี้ หากดำเนินการ แล้วเสร็จทุกโครงการจะมีประชาชนได้รับประโยชน์ 298,872 ครัวเรือน พื้นที่ได้รับประโยชน์ 63,200 ไร่ และมีปริมาณน้ำรวม 206.54 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี
นอกจากนี้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้มอบหมายให้กรมทรัพยากรน้ำบาดาลจัดทำโครงการศึกษาสำรวจจุดจ่ายน้ำบาดาลเพื่อประชาชนตามถนนสายหลักทั่วประเทศ จำนวน 24 แห่ง เพื่อแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค และเพิ่มประสิทธิภาพการเข้าถึงแหล่งน้ำของประชาชน โดยก่อสร้างเป็นจุดจ่ายน้ำบาดาลบริการน้ำดื่มน้ำใช้ฟรีแก่ประชาชน รวมถึงจัดทำเป็นจุดประชาสัมพันธ์ให้ความรู้เกี่ยวกับความเป็นมาของแหล่งน้ำบาดาลในพื้นที่ นำเสนอคุณค่าและความสำคัญของทรัพยากรน้ำบาดาลในภาพรวมที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน โดยวันนี้ได้เปิด จุดจ่ายน้ำบาดาลที่จังหวัดสุพรรณบุรี 2 แห่งแรก คือ บริเวณหน้าโรงเรียนศรีประจันต์ เมธีประมุข ถนนสุพรรณบุรี-ชัยนาท และหมวดทางหลวงดอนเจดีย์ ถนนอู่ยา-ดอนเจดีย์ ก็รู้สึกดีใจแทนประชาชนในพื้นที่ รวมถึงประชาชนที่สัญจรไปมาบนถนนสายหลัก 2 เส้นทางนี้ จะมีน้ำอุปโภคบริโภคใช้อย่างเพียงพอและไม่ขาดแคลนอีกต่อไป ส่วนจุดจ่ายน้ำอีก 22 แห่ง ที่กระจายตามถนนสายหลักทั่วประเทศจะแล้วเสร็จ และทยอยเปิดให้บริการจนครบ 24 แห่ง ภายในเดือนพฤษภาคม 2563 นี้
นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล เปิดเผยว่า โครงการศึกษาสำรวจจุดจ่ายน้ำบาดาลเพื่อประชาชนตามถนนสายหลักทั่วประเทศ ได้รับงบประมาณสนับสนุนจากกองทุนพัฒนาน้ำบาดาล และอยู่ในความรับผิดชอบของสำนักทรัพยากรน้ำบาดาลเขต 1-12 ได้แก่ ลำปางและอุบลราชธานี เขตละ 1 แห่ง สระบุรี ขอนแก่น นครราชสีมา ตรัง กำแพงเพชร ราชบุรี ระยอง อุดรธานี และสงขลา เขตละ 2 แห่ง และเขตสุพรรณบุรี จำนวน 4 แห่ง โดยรูปแบบของโครงการฯ ประกอบด้วย บ่อน้ำบาดาล จำนวน 2 บ่อ แบ่งเป็นบ่อผลิต พร้อมติดตั้งเครื่องสูบน้ำไฟฟ้า จำนวน 1 บ่อ และมีบ่อสังเกตการณ์อีก 1 บ่อ บ่อผลิตจะสูบน้ำด้วยระบบพลังงานแสงอาทิตย์ มีหอถังเก็บน้ำความสูง 12 เมตร ความจุ 65 ลูกบาศก์เมตร พร้อมระบบปรับปรุงคุณภาพน้ำบาดาลด้วยวิธี Reverse Osmosis - RO หรือ Water Softener และมีจุดจ่ายน้ำบาดาลให้บริการฟรี โดยประชาชนสามารถ นำภาชนะมารับน้ำบาดาลเพื่อนำกลับไปอุปโภคบริโภคได้ ซึ่งจะเป็นการช่วยเหลือประชาชน แบ่งเบาค่าใช้จ่ายได้อีกทางหนึ่ง
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |