13 เม.ย. 63 -  เมื่อเวลา 06.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริเวณริมแม่น้ำโขง ถนนสุนทรวิจิตร เขตเทศบาลเมืองนครพนม ซึ่งมีวัดตั้งเรียงรายอยู่จำนวน 4 แห่ง คือวัดพระอินทร์แปลง วัดมหาธาตุ วัดกลาง และวัดโพธิ์ศรี โดยปกติในเทศกาลมหามงคล เช่น วันปีใหม่ วันสงกรานต์ วันเข้าพรรษา หรือ วันออกพรรษา ฯลฯ ริมฝั่งแม่น้ำโขงจะเนืองแน่นด้วยสาธุชนพุทธบริษัท ยืนตักบาตรพระสงฆ์จำนวนมาก สำหรับวันสงกรานต์หรือวันขึ้นปีใหม่ไทยปีนี้บรรยากาศเป็นไปอย่างเงียบเหงา เนื่องจากงดการทำบุญตักบาตร เพราะเกรงว่าการมารวมตัวของคนหมู่มาก อาจจะมีบางคนที่ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 นำเชื้อมาแพร่ระบาดได้

บางวัดถึงขั้นประกาศงดออกบิณฑบาต เพราะเกรงจะติดเชื้อโควิด ประกอบกับญาติโยมส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ มีความเสี่ยงในการติดเชื้อไวรัส และยังมีแนวโน้มการติดเชื้อของบุคคลในครอบครัวเพิ่มมากขึ้น ทางวัดฯเห็นสุขภาพของญาติโยมเป็นปัจจัยสำคัญ จึงงดการออกบิณฑบาตดังกล่าว แต่ก็มีญาติโยมละแวกใกล้เคียงมาทำกับข้าวถวายพระคุณเจ้าแทน แต่ก็ยังมีบางวัดคงยึดหลักเป็นกิจวัตรที่พระพุทธเจ้าทรงกำหนดไว้ให้การออกบิณฑบาตเป็นหน้าที่ของพระภิกษุสามเณรมาตั้งแต่สมัยพุทธกาล

เช่น วัดกลาง เจ้าอาวาสยังคงให้พระสงฆ์ สามเณร ออกบิณฑบาตทุกวัน แต่หลังจากโปรดสัตว์แล้ว ทุกรูปจะต้องผ่านการตรวจวัดอุณหภูมิ เพื่อเป็นการคัดกรองเบื้องต้น และกำหนดการเข้าออกวัดอย่างเข้มงวด

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า บริเวณริมถนนชุมชนหนองแสงท่า เขตเทศบาลเมืองนครพนม พบหญิงเร่ร่อนคนหนึ่งนอนซมอยู่ข้างถนนใกล้กับโรงเรียนเทศบาล 1 หลังสุสานวัดนักบุญอันนา เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ สภ.เมืองนครพนม ได้ตรวจวัดไข้พบว่าสูงกว่า 37 องศาเซลเซียล เกรงจะเป็นผู้ป่วยเสี่ยงสัมผัสสูง เพราะหยิงเร่ร่อนไม่ได้สวมใส่หน้ากากอนามัย จึงแจ้งไปยังศูนย์วิทยุรับแจ้งเหตุและสั่งการ 1669 รพ.นครพนม มารับตัวไปตรวจอาการอย่างละเอียดอีกครั้ง โดยระหว่างที่รอรถฉุกเฉินไม่มีใครกล้าเข้าใกล้หญิงคนดังกล่าว โดยเฉพาะในช่วงมีการแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19.