โป๊ปปลุกโลกร่วมใจสู้ภัยโควิด19


เพิ่มเพื่อน    


    วิกฤติสุดในโลก สหรัฐสังเวยโควิด-19 มากกว่า 20,000 ศพ แซงหน้าอิตาลีแล้ว ติดเชื้อทะลุ 530,000 ราย ขณะผู้ติดเชื้อทั้งโลกจ่อ 1.8 ล้านคน โป๊ปฟรานซิสทรงอวยพรวันอีสเตอร์ผ่านไลฟ์สตรีม
    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันอาทิตย์ที่ 12 เมษายน 2563 ว่าสหรัฐอเมริกากลายเป็นประเทศที่มีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 มากที่สุดในโลกเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา หลังจากจำนวนผู้เสียชีวิตรายวันเพิ่มขึ้นระดับเฉียด 2,000 ศพติดต่อกัน 4 วัน โดยยอดล่าสุดจากการรวบรวมของมหาวิทยาลัยจอห์นฮอปกินส์ สหรัฐมีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 20,600 ราย จากผู้ติดเชื้อสะสมมากกว่า 530,000 ราย หรือเกือบ 1 ใน 3 ของโลก และทำให้สหรัฐเป็นประเทศที่มีผู้เสียชีวิตและติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (SARS-CoV-2) มากที่สุดในโลกอย่างเป็นทางการ 
    สถิติที่ไม่น่าพิสมัยนี้ถูกบันทึกไว้ภายในไม่กี่วันหลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กำลังพิจารณาจะยกเลิกมาตรการล็อกดาวน์บางส่วน เพื่อให้เศรษฐกิจของสหรัฐกลับมาขับเคลื่อนได้ตามปรกติ หลังจากตัวเลขคนว่างงานช่วง 3 สัปดาห์ที่ผ่านมาสูงเกิน 16 ล้านคน โดยสัปดาห์ที่แล้วมีคนขอรับประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงานอีก 6 ล้านคนเป็นสัปดาห์ที่ 2 ติดต่อกัน
    ผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขหลายคนเตือนว่า จำนวนผู้เสียชีวิตในสหรัฐอาจแตะ 200,000 รายภายในช่วงฤดูร้อน ถ้าหากมาตรการล็อกดาวน์ขอให้ประชาชนอยู่บ้านและขอให้ธุรกิจที่ไม่จำเป็นหยุดกิจการ ถูกยกเลิกหลังครบ 30 วัน
    ขณะเดียวกัน จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทั่วโลกถึงช่วงค่ำวันอาทิตย์เพิ่มเป็นมากกว่า 1,787,000 รายแล้ว ในจำนวนนี้เสียชีวิตมากกว่า 109,600 ราย อิตาลีมีผู้เสียชีวิตมากเป็นอันดับสองที่ 19,468 ราย จากผู้ติดเชื้อ 152,271 ราย แม้จำนวนผู้เสียชีวิตรายวันเริ่มคงที่ แต่รัฐบาลอิตาลียังต้านทานแรงกดดันให้ผ่อนคลายการล็อกดาวน์ ทั้งยังสั่งขยายมาตรการต่อไปถึงวันที่ 3 พฤษภาคม ส่วนสเปนเสียชีวิต 16,972 ราย เพิ่มขึ้น 619 รายจากวันเสาร์เป็นอัตราเพิ่มครั้งแรกในรอบ 3 วัน และมีผู้ติดเชื้อ 166,019 ราย และฝรั่งเศสเสียชีวิต 13,832 ราย จากผู้ติดเชื้อ 130,730 ราย 
    อังกฤษเป็นประเทศล่าสุดที่จำนวนผู้เสียชีวิตใกล้แตะหลักหมื่น โดยยอดเสียชีวิตเมื่อวันเสาร์อยู่ที่  9,875 ศพแล้ว จากผู้ติดเชื้อ 79,885 ราย นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ซึ่งติดโรคโควิด-19 ต้องนอนห้องไอซียูนาน 3 คืน ออกมาอยู่ห้องผู้ป่วยธรรมดาแล้ว โดยโฆษกรัฐบาลกล่าวว่าเขาอาการดีขึ้นมาก ผู้นำอังกฤษวัย 55 ปีกล่าวเมื่อวันอาทิตย์ว่า เขาติดหนี้ชีวิตทีมแพทย์ของโรงพยาบาลเซนต์โธมัสแห่งนี้ 
    จีนแผ่นดินใหญ่ ซึ่งพบการแพร่เชื้อไวรัสโคโรนาที่ก่อโรคปอดอักเสบเป็นแห่งแรกในโลกที่เมืองอู่ฮั่นเมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว มีรายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่ 99 คนเมื่อวันเสาร์ สูงที่สุดในรอบ 1 เดือน และมากกว่าตัวเลขวันก่อนเท่าตัว ผู้ติดเชื้อรายใหม่เกือบทั้งหมดยกเว้น 2 คน ได้รับเชื้อมาจากต่างประเทศ ถึงวันอาทิตย์จีนมีผู้ติดเชื้อสะสม 82,052 ราย เสียชีวิต 3,339 ราย
    วันอาทิตย์ที่ผ่านมาเป็นวันอีสเตอร์ของคริสต์ศาสนิกชนทั่วโลกมากกว่า 2,000 ล้านคน โดยปีนี้เป็นครั้งแรกที่สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส องค์ประมุขแห่งคริสตจักรโรมันคาทอลิกที่มีผู้นับถือราว 1,300 ล้านคนทั่วโลก ต้องทรงอวยพรวันอีสเตอร์จากมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ที่ว่างเปล่า และใช้วิธีถ่ายทอดสดพิธีผ่านทางออนไลน์แทน
    โป๊ปทรงส่งสารผ่านระบบไลฟ์สตรีมว่า วันนี้พระองค์ระลึกถึงผู้คนจำนวนมากที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากไวรัสโคโรนา ผู้ที่เจ็บป่วย ผู้ที่เสียชีวิต และสมาชิกในครอบครัวที่โศกเศร้ากับการสูญเสียผู้เป็นที่รัก ซึ่งในบางกรณี พวกเขาไม่สามารถแม้แต่จะกล่าวคำร่ำลาครั้งสุดท้าย
    "สำหรับผู้คนจำนวนมาก วันอีสเตอร์ครั้งนี้เป็นอีสเตอร์แห่งความสันโดษท่ามกลางความเศร้าโศกและความยากเข็ญที่เกิดจากโรคระบาดใหญ่ ตั้งแต่ความทุกข์ทรมานทางร่างกายและความยากลำบากทางเศรษฐกิจ" โป๊ปฟรานซิสตรัส
    พระองค์ยังทรงเรียกร้องให้บรรดาผู้นำประเทศทั่วโลก ละเว้นการต่อสู้ชิงชัยกันทางการเมือง และขอให้ถอนกำลังทหารกลับจากพื้นที่สู้รบมาร่วมกันต่อสู้กับภัยฉุกเฉินด้านสาธารณสุขครั้งรุนแรงที่สุดที่โลกเผชิญมาในรอบ 100 ปี "นี่ไม่ใช่เวลาสำหรับความแตกแยก" โป๊ปตรัสพร้อมกับทรงเรียกร้องให้หยุดยิงในพื้นที่ขัดแย้งทั่วทุกมุมโลก ทรงขอให้ผ่อนคลายมาตรการคว่ำบาตรระหว่างประเทศที่สร้างความยากลำบากแก่หลายประเทศที่ไม่สามารถช่วยเหลือพลเมืองได้เพียงพอ และทรงขอให้ลดภาระหนี้สินแก่ประเทศยากจน สำหรับประเทศยุโรปที่เผชิญโรคระบาดรุนแรง พระองค์ทรงขอให้ทุกประเทศสมัครสมานกันเหมือนช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 แล้วยุโรปจะลุกขึ้นได้อีกครั้ง.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"