จอดป้ายดับสนิท จัดซื้อแท็บเล็ต 'ศธ.'


เพิ่มเพื่อน    

        หลังมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในทางคัดค้าน-ไม่เห็นด้วยกับแนวทางของกระทรวงศึกษาธิการ โดยการนำของ ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ ที่จะให้ ก.ศึกษาธิการมีการจัดซื้อแท็บเล็ตเพื่อนำมาสนับสนุนการเรียนการสอนระบบออนไลน์ให้กับนักเรียนทั่วประเทศ ซึ่งเสียงคัดค้านดังกล่าวต่างสนับสนุนการใช้เทคโนโลยีเข้ามาสนับสนุนการเรียนการสอนของโรงเรียน-ครู-นักเรียน-นักศึกษา แต่เห็นว่าการจัดซื้อแท็บเล็ตที่ต้องใช้งบประมาณจำนวนมาก มีช่องโหว่มากมายในการทำโครงการ อีกทั้งเทคโนโลยีมีการเปลี่ยนแปลงรวดเร็วและเกิดขึ้นตลอดเวลา จึงไม่น่าจะเป็นแนวทางที่ถูกต้อง เพราะประเทศไทยเคยมีประสบการณ์นโยบายดังกล่าวมาแล้วในยุครัฐบาลเพื่อไทย-ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่พบว่ามีปัญหามากมาย จึงมีเสียงทักท้วงให้ใช้วิธีการอื่นน่าจะเหมาะสมกว่า

        ล่าสุด เสมาฯ 1-ณัฏฐพล สุดท้ายยอมถอยฉาก โยนผ้าขาว ล้มเลิกแนวคิดดังกล่าวแล้ว หลังคงประเมินแล้วว่า หากฝืนเดินหน้าต่อไปแรงต้านคงมากขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งหากไม่สามารถหาเหตุผลที่ดีกว่ามาหักล้างได้ นอกจากไม่เสมอตัวแล้ว จะยิ่งติดลบ เลยต้องถอยฉากโดยเร็วในเวลาไม่ถึง 1 สัปดาห์ หลังจากออกมาเปิดเผยแนวคิดดังกล่าว

        การถอยฉากดังกล่าวเกิดขึ้นตั้งแต่วันเสาร์ที่ 11 เม.ย. ที่ รมว.ศึกษาธิการให้สัมภาษณ์สื่อไว้ว่า ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 โรงเรียนอาจหยุดเรียนได้ แต่เด็กหยุดเรียนรู้ไม่ได้ ทาง ก.ศึกษาธิการได้เก็บรวบรวมข้อมูลเพื่อประเมินความพร้อมและความต้องการของโรงเรียน เช่น รูปแบบการเรียนการสอน, สื่อการเรียนการสอน ทาง ก.ศึกษาธิการยืนยันเดินหน้าจัดการศึกษาในรูปแบบออนไลน์

        รมว.ศึกษาธิการ ย้ำไว้ว่า ต้องบริการให้นักเรียนทุกคนสามารถเข้าถึงการเรียนการสอนได้ แม้ไม่สามารถไปโรงเรียนได้ แต่จะใช้สิ่งที่มีอยู่แล้วให้เกิดประโยชน์สูงสุด เช่น การเสนอขอช่องทีวีดิจิทัลจาก กสทช.ทั้งหมด 13 ช่อง เพื่อให้นักเรียนทุกระดับชั้นสามารถเรียนผ่าน DLTV ได้ ซึ่งประเด็นสำคัญจะยังไม่มีการลงทุนเพื่อจัดซื้ออุปกรณ์ใดๆ เพิ่มเติมโดยไม่จำเป็น จากนั้นวันรุ่งขึ้น 12 เม.ย. "ณัฏฐพล-รมว.ศึกษาธิการ" ที่ว่ากันว่าเป็นหนึ่งในรัฐมนตรี-แกนนำพรรคพลังประชารัฐ ที่ใกล้ชิดคุ้นเคยกับพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีอย่างมาก ก็เข้าพบพลเอกประยุทธ์ที่ทำเนียบรัฐบาล

        ณัฏฐพล-เสมาฯ 1 ให้ข้อมูลยอมรับว่า ไปรายงานเกี่ยวกับการดำเนินการในส่วนของกระทรวงศึกษาธิการและแนวทางการดำเนินการเกี่ยวกับการเรียนการสอนว่าขั้นตอนจะเป็นอย่างไร เพราะ พล.อ.ประยุทธ์เป็นห่วงในเรื่องการศึกษาอย่างมาก

       "นายกรัฐมนตรีได้สอบถามถึงเรื่องการจัดซื้อแท็บเล็ต โดยรายงานไปว่า ศธ.ไม่ได้จัดซื้อแท็บเล็ตดังกล่าวแล้ว เพราะมีทางอื่นที่ดำเนินการได้จำนวนมาก โดยไม่จำเป็นต้องสูญเสียงบประมาณ อีกทั้งขบวนการจัดซื้อจัดจ้างในเรื่องดังกล่าวมีช่องโหว่มาก ดูแล้วไม่เหมาะสมในตอนนี้ ทั้งนี้ นายกฯ เน้นย้ำเรื่องงบประมาณว่าการใช้จ่ายต้องเหมาะสมมีประสิทธิภาพ"

        อนึ่ง แนวคิดการจัดซื้อแท็บเล็ตดังกล่าวถูกเปิดเผยจากตัวณัฏฐพล เมื่อวันที่ 7 เม.ย. หลังการประชุม ครม.วันดังกล่าวที่บอกว่า การเรียนการสอนออนไลน์ ทั้งครูและนักเรียน จะแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ ระดับประถมศึกษา และมัธยมศึกษา รวมถึงเตรียมความพร้อมด้านอุปกรณ์การเรียการสอนที่จะใช้รองรับการเรียนการสอนผ่านระบบดังกล่าว ดังนั้นการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว ทำให้ ศธ.เตรียมดำเนินการที่จะจัดซื้อแท็บเล็ตแจกนักเรียน ซึ่งการแจกแท็บเล็ต โดยจะทำให้คุ้มค่าไม่ให้เกิดปัญหาเหมือนที่ผ่านมา และได้รายงานเรื่องนี้ให้นายกรัฐมนตรีรับทราบแล้ว โดยนายกฯ ได้กำชับให้เตรียมความพร้อมเรื่องการจัดการศึกษาออนไลน์ให้มีประสิทธิภาพ

        เท่ากับแค่ 6 วันเท่านั้น แนวคิดการตั้งงบเพื่อทำโครงการจัดซื้อแท็บเล็ตของกระทรวงศึกษาฯ นอกจากติดไฟแดง โดนคัดค้านแล้ว ยังจอดป้ายดับสนิท ไม่ทันที่รถขนแท็บเล็ตจะได้แวะเข้ากระทรวงศึกษาธิการเสียด้วยซ้ำ.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"