'หมอเหรียญทอง'ขอผู้ค้าขายใกล้รพ.มงกุฎวัฒนะอย่ารังเกียจบุคลากรโรงพยาบาล


เพิ่มเพื่อน    

12 เม.ย.63-พล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว เรื่อง 
ขอความกรุณาผู้ประกอบการค้าขายในย่านใกล้ รพ.มงกุฎวัฒนะ ได้โปรดอย่ารังเกียจบุคลากร รพ.มงกุฎวัฒนะว่าเป็นบุคคลอันตรายต่อการติดเชื้อโควิด-19 กันเลยนะครับ 

พล.ต.นพ.เหรียญทอง ระบุว่า สืบเนื่องจากการที่ผมเปิดเผยข้อมูลต่อสาธารณะว่ามีบุคลากรในสังกัด รพ.มงกุฎวัฒนะติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 8 ราย และมีบุคลากรที่ใกล้ชิดต้องถูกกักกันอีก 61 ราย นั้น...ก็เพราะสังคมออนไลน์นั้นจะทำให้ข้อมูลถูกเผยแพร่ต่อสาธารณะกันได้โดยง่าย หากผมไม่เปิดเผยข้อมูลในฐานะผู้นำที่รับผิดชอบด้วยตนเองแล้วปกปิดข้อมูล สาธารณชนจะได้รับข้อมูลจากสารพัดแหล่งจนทำให้เกิดความสับสนตื่นตระหนก เกิดผลเสียต่อสังคมโดยรวม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์การระบาดที่จะต้องมีเอกภาพในการบริหารจัดการ 

"อีกทั้งการให้ข้อมูลของผมนั้น หากได้อ่านกันให้ครบถ้วนกระบวนความจนเข้าใจแล้วจะทราบว่า ปัญหาบุคลากรในสังกัดที่ติดเชื้อ 8 รายอยู่ในวิสัยการควบคุมจัดการของ รพ.มงกุฎวัฒนะที่มีผมเป็นผู้รับผิดชอบ
ผมเป็นคนจริงใจ เปิดเผย ตรงไปตรงมา ไม่นิยมการปกปิดข้อมูล หากผมต้องการปกปิดข้อมูลแล้วมันไม่ใช่เรื่องยากสำหรับผู้บริหารที่มีลักษณะผู้นำที่เป็นเผด็จการอย่างผม (ท่านทั้งหลายทบทวนพฤติกรรมในอดีตของผมดูก็ได้...ไม่ว่าจะกรณีผู้ต้องหาเสียชีวิตถูกรัดคอและตับแตกในระหว่างการควบคุม ผมก็เปิดเผยอย่างตรงไปตรงมา...กรณีสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติออกกฎ รพ.ตติยภูมิที่สามารถผ่าตัดหัวใจผู้ป่วยบัตรทองโดยไม่สมเหตุผล ผมก็เปิดเผยอย่างตรงไปตรงมา...กรณี รพ.มงกุฎวัฒนะถูกกล่าวหาต่างๆนานา ฯลฯ ผมก็เปิดเผยอย่างตรงไปตรงมา)...ดังนั้นการที่ผมเปิดเผยข้อมูลว่ามีบุคลากรในสังกัดติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 8 ราย และมีการกักกันบุคลากรที่ใกล้ชิดอีก 61 ราย ก็เพื่อให้สาธารณชนทราบข้อมูลจากผมซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบโดยตรงเพื่อไม่ให้สังคมโดยรวมเกิดความสับสนตื่นตระหนก"

ผอ.โรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ ระบุว่า ในทำนองเดียวกันผู้ป่วยโควิด-19 ที่ได้รับการรักษาจนหายดีและสามารถกลับคืนสู่ครอบครัวและคืนสู่สังคมได้แล้ว ผมก็ขอความกรุณาท่านทั้งหลายจงอย่ารังเกียจ เพราะโควิด-19 รักษาได้ ไม่ใช่โรคของคนเลว คนชั่วช้าสามานย์แต่อย่างไร หากสังคมไทยมีความคิดรังเกียจผู้ป่วยโควิด-19 รังเกียจบุคลากรที่ทำงานเสี่ยงต่อการติดเชื้อ จนไม่เป็นอันคบค้ากันแล้ว...แล้วจะมีใครเล่าครับที่จะมาทำหน้าที่นี้ ...หากวันหนึ่งท่านหรือคนที่ท่านรักติดเชื้อโควิด-19 แล้ว ถึงวันนั้นท่านจะตัดสินกันอย่างไร

"ผมทราบดีนะครับว่าการที่ผมตัดสินใจให้ รพ.มงกุฎวัฒนะ เป็นศูนย์สำรองเตียงผู้ป่วยโควิด-19 มันส่งผลกระทบต่อธุรกิจ รพ.มงกุฎวัฒนะ ทำให้ผู้ใช้บริการประจำส่วนหนึ่งไม่กล้ามา รพ.มงกุฎวัฒนะ เกิดการสูญเสียรายได้ไปเป็นจำนวนมาก...หากผมแคร์ความรู้สึกนี้แล้ว สถานการณ์ระบาดโควิด-19 เกิดร้ายแรง รุนแรงแล้ว สังคมจะอยู่รอดกันได้อย่างไร...โควิด-19 เกิดขึ้นได้กับทุกๆคน อาจจะเกิดกับพ่อแม่พี่น้อง ครอบครัวของผม ตัวผมเอง...หรือแม้แต่ตัวท่านและคนที่ท่านรัก...หากท่านยังคิดกันอย่างนี้ ถึงเวลานั้นท่านจะรู้สึก"


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"