'แก้วสรร' ปล่อยกระทู้ COVID 2 ไม่วางใจทฤษฎีไอจาม แนะใช้อำนาจรัฐบังคับใส่หน้ากากทุกคนทุกครั้งที่ออกจากบ้าน


เพิ่มเพื่อน    

11 เม.ย.63 - นายแก้วสรร อติโพธิ เผยแพร่บทความเรื่องกระทู้COVID (๒) โดยมีรายละเอียดดังนี้

"ส่วนข้อกังวลของประชาชนเกี่ยวกับตนเองจะติดเชื้อจากผู้ไม่แสดงอาการหรือไม่นั้น ขอชี้แจงว่าหากไม่มีไข้ไม่มีอาการใดๆโอกาสที่เชื้อโรคจะแพร่มาทางน้ำลายมีน้อย เพราะในประเทศไทยแทบทุกคนสวมหน้าอนามัยหรือหน้ากากผ้าแล้ว แต่หากเคยไปในที่แออัดหรือสัมผัสกับผู้ป่วยควรสังเกตอาการของตนเองในระยะเวลา14 วัน

นพ.ธนรักษ์ กล่าวว่าทั้งนี้ข้อมูลทางระบาดวิทยาในผู้ติดเชื้อ100 คนจะมี 30 คนที่ติดเชื้อแต่ไม่แสดงอาการอีก 50 คนจะมีอาการน้อยซึ่งทั้งหมด 80 คนที่ติดเชื้อนี้สามารถหายได้เองและโอกาสการแพร่เชื้อให้ผู้อื่นมีค่อนข้างน้อย นอกจากจะติดต่อกันในระยะใกล้ชิดเช่นการตะโกน พูดคุย ไอจาม จนทำให้เชื้อในน้ำลายกระเด็นใส่ผู้อื่น”

เส้นกราฟสู้ COVID

ถาม เขาว่ากราฟผู้ติดเชื้อจะพุ่งสูงชันขนาดไหนก็แล้วแต่ว่าเราจะทุ่มทุนสู้ขนาดไหน ของไทยเราหวังกันว่าจะได้อยู่ตรงกลางๆเป็นหลังเต่า เพราะยังเป็นพวก SOME ACTIONS คือไม่ทุ่มหนักถึงขนาดปิดเมืองเหมือนอู๋ฮั่น..ใช่ไหมครับ?

ตอบ เส้นกราฟของไทยที่รายงานกันอยู่ทุกวันนั้นเป็นยอด “ผู้ป่วย”เท่านั้นนะครับ ยังมีผู้ติดเชื้ออีก ๘๐% นับเป็นหมื่นคนเลยนะครับที่ยังเดินไปเดินมาอยู่นอกโรงพยาบาล เพราะ ๓๐% จะไม่มีอาการเลยอีก ๕๐% ก็มีอาการเล็กน้อยเท่านั้น

ถาม อ้าว...แล้วทำไมทางการเขาถึงสร้างเส้นกราฟที่ไม่มีความจริงครบถ้วน มาให้พวกเราลุ้นกันทุกวันอย่างนี้ล่ะครับ

ตอบ รองอธิบดีกรมควบคุมโรคติดต่อ ท่านพึ่งให้คำตอบมาครับว่าพวก ๘๐% นี้เราไม่ต้องไปกังวล เพราะพวกนี้ไม่มีไอมีจามจนเชื้อกระจาย ยิ่งถ้าเราใส่หน้ากากด้วยโอกาสติดเชื้อก็จะน้อยมาก นอกจากนั้นร่างกายของเขายังสามารถจะหายจนปลอดเชื้อได้เองอีกด้วย

ถาม ทฤษฎีไอจามนี่ยังเชื่อถือได้หรือครับ...มีรายงานทดลองจากอเมริกาว่าแค่หายใจออกมาเชื้อก็ฟุ้งได้แล้ว ทางเบลเยี่ยมถึงกับรายงานว่าถ้าวิ่งหรือถีบจักรยานออกกำลังด้วย จะกระจายได้ไกลเป็น ๑๐ เมตรเลยทีเดียว แล้วอย่างนี้ผู้ติดเชื้อที่ไม่มีอาการก็แพร่เชื้อได้อยู่ดีนี่ครับ

ตอบ ผมว่าทฤษฎีไอจามนี้ยังทำให้เราสบายใจไม่ได้เลย ทางที่ดีต้องบังคับด้วยอำนาจรัฐ แบบอู๋ฮั่นให้ใส่หน้ากากทุกคนทุกครั้งที่ออกจากบ้านเลยจะดีกว่า

ถาม ถ้ารอจนสิ้นเมษาเส้นกราฟ ไม่ตกลง เราคงต้องออกกฎหมายบังคับให้ใส่หน้ากากกันแล้ว

ตอบ ถ้าจำเป็นต้องบังคับก็ทำไปเลย ไม่ต้องรอดูกราฟเมื่อสิ้นเมษาหรอกครับ เราควรใช้กราฟนี้คอยดูแลเท่านั้น ว่าคนไข้จะเต็มโรงพยาบาลหรือไม่ก็พอแล้ว ไม่ควรนำมาใช้ทำนายการระบาดอีกต่อไป หันไปทุ่มเทสอบสวนโรคและติดตามตรวจกลุ่มเสี่ยงหาผู้ติดเชื้อทุกคนแบบที่ภูเก็ตเขาทำจะดีกว่า ยิ่งทั่วถึงคืบหน้าเท่าใดเราก็ยิ่งสบายใจได้เท่านั้น

ถาม ถ้าเพิ่มการตรวจอย่างนี้แล้วพวก ๘๐% ที่ไม่ออกอาการก็จะถูกเก็บเข้ามาในระบบด้วยถึงจุดนี้โรงพยาบาลจะไม่ล้นหรือครับ

ตอบ เห็นทางการริเริ่มใช้โรงแรมมาดูแลผู้ป่วยเล็กน้อย หรือผู้ที่ต้องกักกันตัวแล้วนะครับ เมื่อเดินมาถูกทางอย่างนี้ภาระที่ตกแก่โรงพยาบาลก็น่าจะเบาลงได้มาก

คำตอบเมื่อสิ้นเมษายน

ถาม สิ้นเมษาแล้วกราฟผู้ป่วยจะลงหรือไม่ลงครับ

ตอบ ถ้าวันนี้เริ่มทุ่มเทตรวจหาผู้ติดเชื้อกันจริงๆจนกราฟผู้ติดเชื้อพุ่งสูง แต่ขณะเดียวกันกลับปรากฏว่ายอดผู้ติดเชื้อหน้าใหม่ลดลงทุกวันอย่างนี้ก็แสดงว่าการสอบสวนโรคและติดตามผู้ติดเชื้อของเราได้ผล จนกวาดผู้ติดเชื้อหน้าเก่ามาได้มากขึ้นเรื่อยๆ ถ้าเป็นอย่างนี้จริง แม้ยอดผู้ป่วยในโรงพยาบาลจะดูสูงก็ไม่น่าตกใจ

ถาม มองอย่างนี้แล้วกราฟผู้ป่วยจะลงหรือขึ้นก็ไม่สำคัญเท่าใด

ตอบ สิ้นเมษาคือการประเมินว่าเราเอามันอยู่ไหม ถ้าผู้ติดเชื้อหน้าใหม่น้อยลงทุกวัน ก็แสดงว่าเราเดินมาถูกทางแล้ว

๒- ๓ เดือนหลังเมษานี้เมืองไทยจะออกแบบชีวิตเศรษฐกิจและการควบคุมโรคชุดใหม่กันอย่างไรไม่ให้เสียแรงเฉื่อยแห่งชัยชนะขณะเดียวกันก็ผ่อนคลายเปิดโอกาสการทำมาหากินได้ระดับหนึ่งก็เป็นเรื่องที่ผู้รับผิดชอบเขาจะนำเสนอพวกเราต่อไป

ถาม ถึงช่วงนั้นอาจมีบางคนบางครอบครัวเขาหมดแรงไปแล้วก็ได้นะครับ

ตอบ ตรงจุดนี้เป็นความช่วยเหลือที่ปฏิเสธไม่ได้เพราะเป็นความอับจนของคนเล็กๆที่เกิดขึ้นเพื่อความอยู่รอดของสังคมโดยรวมเราทุกคนจึงมีหน้าที่ต้องชำระหนี้ตอบแทนให้เขาเหล่านั้นอยู่ต่อไปได้ถ้าต้องตั้งโรงอาหารขึ้นตามวัดหรือโรงเรียนเลยก็ต้องทำครับประกาศเลยว่านี่ไม่ใช่โรงทานแต่เป็นการชำระหนี้ตอบแทนความเสียสละของทุกท่าน


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"