ขอนแก่นขอล็อกดาวน์30หมู่บ้าน


เพิ่มเพื่อน    

    ภูเก็ตเริ่มดีขึ้น พบผู้ติดเชื้อใหม่แค่ 2 ราย แต่ปัตตานียังวางใจไม่ได้ ติดโควิดอีก 7 คน ผู้ว่าฯ สั่งล็อกดาวน์ 3 ตำบลในพื้นที่ อ.ทุ่งยางแดง ส่วนกลุ่มผู้นำศาสนาทั้ง 7 รายที่ยะลาครบกำหนดกักตัวกลับบ้านได้แล้ว ที่ขอนแก่นชุมชนเข้มแข็ง ชาวบ้าน 30 หมู่บ้านขอซีลตัวเอง อนุมัติไปแล้ว 1 เป็นต้นแบบ
    เมื่อวันที่ 11 เมษายน คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดภูเก็ต แจ้งสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) จังหวัดภูเก็ต ประจำวันที่ 11 เมษายน 2563 ข้อมูลตั้งแต่วันที่ 5 มกราคม-10 เมษายน 2563 จังหวัดภูเก็ตมีผู้ป่วยยืนยันโรคโควิด-19 แล้วจำนวน 172 ราย (ตรวจคัดกรองเชิงรุก 2 ราย) โดยผู้ป่วยรักษาหายกลับบ้าน 56 ราย จำหน่าย 1 ราย (จำหน่ายเนื่องด้วยเสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์) กำลังรักษาพยาบาลอยู่ 115 ราย ในจำนวนนี้อาการรุนแรง 3 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิต ที่เหลืออาการอยู่ในเกณฑ์ที่ดี ทั้งนี้ ผู้ป่วยทั้ง 172 รายนี้รวมอยู่ในรายงานผู้ป่วยติดเชื้อยืนยันที่กระทรวงสาธารณสุขได้แถลงไปก่อนหน้านี้แล้ว
    ผู้มีอาการเข้าเกณฑ์เฝ้าระวังสะสมทั้งหมด 2,167 ราย (รายใหม่ 108 ราย) โดยยังคงรักษาพยาบาล 184 ราย ในจำนวนนี้อยู่ระหว่างรอผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ 69 ราย กลับบ้านแล้ว  1,983 ราย มีผู้ติดเชื้อยืนยันโรคโควิด-19 รายใหม่ทั้ง 2 ราย 
    ที่ศูนย์พัฒนาการสาธารณสุขมูลฐานชายแดนภาคใต้ จ.ยะลา นายวรเชษฐ พรมโอภาษ รองผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา พร้อมด้วย นายแพทย์สงกรานต์ ไหมชุม นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดยะลา และฝ่ายปกครอง ได้ร่วมกันเข้าพบกลุ่มผู้นำศาสนา จำนวน 7 ราย ซึ่งได้เข้ารับการกักตัวเพื่อเฝ้าสังเกตอาการจนครบตามกำหนด 14 วัน ซึ่งหลังเฝ้าสังเกตอาการแล้ว ทั้ง 7 รายไม่พบอาการ และไม่พบเชื้อแต่อย่างใด
    นายวรเชษฐ พรมโอภาษ รองผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา กล่าวกับกลุ่มผู้นำศาสนาทั้ง 7 รายว่า ทางจังหวัดขอบคุณที่ให้ความร่วมมือในการเข้าสังเกตอาการตามมาตรการควบคุมโรค และขอให้ทุกท่านได้ร่วมกันปฏิบัติตนตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ หลังจากกลับไปแล้ว และช่วยบอกกล่าวบุคคลในครอบครัว หรือในชุมชนให้มีความเข้าใจที่ถูกต้องด้วยเช่นกัน
    นพ.สงกรานต์ ไหมชุม นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดยะลา กล่าวว่า ทั้งนี้ หลังจากท่านกลับไปสู่ครอบครัว สู่ชุมชนแล้ว ก็ขอให้ยังคงปฏิบัติตามคำแนะนำในการป้องกันโรค และยังคงต้องอยู่แต่ในบ้านพักอาศัยอีกสักระยะหนึ่งก่อน ลดละการเข้าชุมชน เพื่อเป็นการเฝ้าดูอาการในระยะยาว แม้ว่าในการกักตัวครั้งนี้ท่านจะไม่ติดเชื้อไวรัส หรืออาจจะตรวจไม่พบในตอนนี้ แต่เชื้อไวรัสนั้นสามารถติดกันได้ ซึ่งอาจจะไปติดเชื้อมาจากผู้อื่นอีกก็ได้ จึงขอให้ทุกท่านปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด
    ขณะที่ผู้นำศาสนารายหนึ่งที่ได้ผ่านการกักตัวสังเกตอาการครบ 14 วันแล้ว ได้เปิดเผยว่า ขอบคุณทางเจ้าหน้าที่ทุกท่าน ที่ได้ให้การดูแลและแนะนำ ทำความเข้าใจกับหลักการปฏิบัติในการป้องกันตนเองจากไวรัสโควิด-19 ซึ่งตนเองก็พร้อมและยืนยันที่จะปฏิบัติตาม อีกทั้งจะนำสิ่งที่ได้รับรู้ไปทำความเข้าใจกับผู้อื่นได้อีกต่อไป
    ทั้งนี้ ผู้นำศาสนาทั้ง 7 รายนี้ได้เดินทางกลับจากการทำกิจกรรมดาวะห์ที่ประเทศอินโดนีเซีย ในช่วงวันที่ 26 มีนาคม 2563 ที่ผ่านมา และได้รายงานตัวกับทางเจ้าหน้าที่เพื่อเข้ากักตัวสังเกตอาการจนครบเวลาตามกำหนด และได้อนุญาตให้กลับสู่ครอบครัวได้ในวันนี้ โดยเป็นราษฎรจากอำเภอกาบัง 4 ราย, อำเภอยะหา 2 ราย และอำเภอบันนังสตา 1 ราย
ปัตตานีติดเชื้อเพิ่ม 7 คน
    ขณะที่ศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ปัตตานี รายงานว่า พบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เพิ่มอีก 7 ราย จากเดิม 67 ราย ล่าสุดวันนี้มียอดสะสมผู้ติดเชื้อพุ่งขึ้นเป็น 74 ราย ทำให้ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานีสั่งปิด 3 ตำบลในพื้นที่ อ.ทุ่งยางแดงทันที เพื่อกักกันพื้นที่ห้ามไม่ให้บุคคลใดเข้าหรือออก ทั้งนี้ก็เพื่อให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการเอกซเรย์พื้นที่และบุคคลทั้ง 3 ตำบล ว่าใครสัมผัสหรือติดเชื้อหรือไม่
    ผวจ.ปัตตานีเปิดเผยว่า 7 รายใหม่ที่พบเชื้อนี้เป็นชาวบ้านในพื้นที่ อ.ทุ่งยางแดง และเป็นผู้ที่สัมผัสกับนายมามุและภรรยาที่ติดเชื้อมาจากไปร่วมกิจกรรมทางศาสนาที่ จ.ยะลา เมื่อวันที่ 22-24 มีนาคมที่ผ่านมา และเมื่อสัมผัสแล้วก็ได้ไปสัมผัสกับบุคคลอื่นต่อเนื่อง ซึ่งเป็นคนใน อ.ทุ่งยางแดง 6 คน และเป็นลูกชายนายมามุที่อยู่ อ.มายอ 1 คน ขณะนี้ตนได้สั่งการไปยังนายอำเภอทุ่งยางแดงให้ปิด 3 ตำบลของ อ.ทุ่งยางแดง คือ อ.ปากู, อ.พิเทน และ อ.น้ำดำ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการเอกซเรย์พื้นที่และบุคคลว่าใครเคยสัมผัสและใกล้ชิดนายมามุและบุคคลอีกทั้ง 7 คน 
    นายศิริพัฒ พัฒกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เปิดเผยผ่านรายการสร้างสรรค์เมืองนคร ทางวิทยุแห่งประเทศไทยจังหวัดนครศรีธรรมราช 93.5 MHz ถึงสถานการณ์การควบคุมป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ว่า ในขณะนี้พบผู้ป่วยติดเชื้อเพิ่มอีก 1 คน เป็นผู้สูงอายุ บ้านอยู่อำเภอหนึ่ง จากการสอบสวนพบว่ามีโรคประจำตัวเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจอยู่ก่อนแล้ว เข้ารับตอนนี้รักษาตัวใน รพ.ทุ่งสง และส่งต่อมายัง รพ.มหาราช ทำให้ยอดผู้ป่วยไวรัสวิดสะสมในจังหวัดนครศรีธรรมราช เพิ่มเป็น 7 คน ในจำนวนนี้รักษาหายกลับบ้านได้แล้ว 4 คน รอกลับบ้านอีก 2 คน 
    สำหรับการผ่อนปรนมาตรการให้ร้านตัดผม ร้านเสริมสวย กลับมาเปิดบริการได้ตั้งแต่วันที่ 16 เม.ย.2563 นั้น เพราะคำสั่งปิดร้านตัดผม ร้านเสริมสวยของจังหวัดนครศรีธรรมราชต่อเนื่องมาเกือบ 1 เดือน และจากการตรวจสอบพบว่าสถานประกอบการเหล่านี้ให้ความร่วมมือดีมาก จึงมีคำสั่งให้เปิดบริการได้ภายใต้เงื่อนไขและมาตรการที่กำหนด อาทิ การเว้นระยะห่างลูกค้าในร้าน การล้างมือ การทำความสะอาดเครื่องมือ การสวมหน้ากากอนามัย ทุกแห่งจะต้องปฏิบัติการอย่างเคร่งครัด หากพบว่าร้านไหนปล่อยปละละเลย ก็จะสั่งปิดและดำเนินคดีตามกฎหมายทันที 
พยาบาลชุมพรติดเชื้อ
    ที่ห้องประชุมสำนักงานสาธารณสุข จ.ชุมพร นายวิบูลย์ รัตนาภรณ์วงศ์ ผวจ.ชุมพร, นพ.จิรชาติ เรืองวัชรินท์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดชุมพร ร่วมกันแถลงข่าวกรณีพบผู้ป่วยโควิด-19 รายที่ 3 ของจังหวัดชุมพร เป็นบุคลากรทางการแพทย์ของโรงพยาบาลชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ เป็นพยาบาลหญิง อายุ 42 ปี โดยพยาบาลรายนี้ติดเชื้อโดยเป็นผู้สัมผัสกับผู้ป่วยรายที่ 2 ซึ่งเป็นผู้หญิงอายุ 65 ปี ที่ได้เข้ารับการรักษาอาการป่วยด้วยโรคประจำตัวและผลตรวจพบเชื้อมีเชื้อโควิด-19 เมื่อวันที่ 6 เม.ย.ที่ผ่านมา ทำให้พยาบาลรายดังกล่าวเริ่มกักตัวเมื่อวันที่ 7 เม.ย. และผลการตรวจพบเชื้อโควิด-19 เมื่อวันที่ 10 เม.ย. 
    ขณะนี้พยาบาลผู้ป่วยติดเชื้อโควิดรายที่ 3 เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ มีขวัญกำลังใจดีมาก ร้องขอโทรศัพท์ถึงครอบครัว และขอให้ตรวจสอบคนในครอบครัว 2 คน ให้ละเอียด ซึ่งทางสำนักงานสาธารณสุข จ.ชุมพร ได้เข้าไปดูแลอย่างดีที่สุด ส่วนโรงพยาบาลชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ยังเปิดบริการตามปกติ ยกเว้นคลินิกนอกเวลาปิดให้บริการ
     ด้วยสถานการณ์ที่จังหวัดบุรีรัมย์ ผู้ว่าราชการจังได้ออกคำสั่งเพิ่ม ดังนี้ 1.ให้ประชาชนในจังหวัดบุรีรัมย์ ใส่หน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยทุกคน 2.ประชาชนผู้มาติดต่อราชการต้องสวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยทุกครั้ง ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 11 เม.ย. เป็นต้นไป
      ที่ศาลากลาง จ.ขอนแก่น นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ.ขอนแก่น เปิดเผยว่า ขณะนี้มีหมู่บ้านที่เสนอตัวเพื่อขอทำการซีลหมู่บ้านทั้งหมด 30 หมู่บ้าน จากทั้ง 26 อำเภอของจังหวัด และขณะนี้จังหวัดได้อนุมัติให้ 1 หมู่บ้านนั้นได้ดำเนินการแล้ว คือที่ ม.6 ต.ศรีบุญเรือง อ.ชนบท
    นายสมศักดิ์กล่าวว่า มาตรการซีลหมู่บ้านนั้น ยอมรับว่าไม่สามารถทำได้ทุกหมู่บ้านในเขตจังหวัด เพราะบริบทของแต่ละหมู่บ้านนั้นแตกต่างกัน รวมทั้งพื้นที่ทางกายภาพในภาพรวม ดังนั้นเมื่อมีหมู่บ้านเสนอตัวในการที่จะซีลหมู่บ้านหรือปิดหมู่บ้าน ตามแนวทางที่จังหวัดกำหนดขึ้นมานั้น เมื่อผ่านประชาคมหมู่บ้านมาแล้ว และอำเภอเสนอเรื่องขึ้นมา คณะทำงานของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดจะลงพื้นที่ตรวจสอบและแนะนำข้อปฏิบัติเพื่อให้หมู่บ้านนั้นได้ดำเนินงานได้ทันที จากความร่วมมือของทุกภาคส่วน ซึ่งหมู่บ้านที่จะดำเนินการได้นั้น สำคัญที่สุดคือเป็นหมู่บ้านที่ไม่มีผู้ที่ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 และเป็นหมู่บ้านที่ไม่มีผู้ที่เดินทางกลับมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยง
หมู่บ้านต้นแบบปิดสู้โควิด
    ผวจ.ขอนแก่นกล่าวต่ออีกว่า หมู่บ้านต้นแบบที่ได้ดำเนินงานแล้วนั้น มีประชากรในหมู่บ้าน 25 หลังคาเรือน มีทางเข้าและออกหมู่บ้านเพียง 1 ช่องทาง ซึ่งผู้นำชุมชนได้มีการตั้งจุดตรวจคัดกรองบริเวณทางเข้าแห่งนี้อย่างเข้มงวดตลอดทั้ง 24 ชม. ทั้งยังคงมีการกำหนดระยะเวลาเข้าและออกหมู่บ้านได้เพียง 2 ช่วงเวลาคือ ช่วงเช้า 05.00-07.00 น. และช่วงเย็นคือเวลา 16.00-19.00 น. ซึ่งการผ่านด่านตรวจคัดกรองนั้นคุมเข้มตามมาตรการด้านสาธารณสุขอย่างเข้มงวด 
    อีกทั้งท้องถิ่นยังคงให้การสนับสนุนงบประมาณในการดำเนินงานของชุมชนแห่งนี้ ด้วยการสร้างห้องน้ำไว้ที่บริเวณทางเข้าเพื่อให้ประชาชนที่เดินทางเข้าหมู่บ้านนั้นได้ทำความสะอาดร่างกาย ขณะเดียวกันยังคงมีการปรับพื้นที่สำหรับการจัดทำตลาดชั่วคราวไว้ที่บริเวณหน้าหมู่บ้านเพื่อให้ประชาชนนั้นได้ออกมาเลือกซื้อสินค้าในช่วงเวลาที่กำหนด 
    ขณะที่บ้านทุกหลังคาเรือนก็มีการทำจุดล้างมือไว้ที่หน้าบ้านเพื่อให้ทุกคนนั้นรักษาความสะอาดตนเองอย่างบ่อยครั้ง อย่างไรก็ตาม ด้วยมาตรการซีลหมู่บ้านที่จัดทำขึ้น มั่นใจว่าจะเป็นการกำหนดพื้นที่สีขาว หรือหมู่บ้านสะอาดได้แบบขยายวงกว้างมากขึ้น ซึ่งก็แสดงให้เห็นถึงมาตรการป้องกันที่เราจะทยอยประกาศพื้นที่ปลอดภัยจากเชื้อไวรัสได้จากภายในสู่ภายนอก จนขยายครอบคลุมทั้งจังหวัดต่อไป
    ที่สถานีรถไฟชุมทางหาดใหญ่ในวันนี้ ขบวนรถไฟขนส่งสินค้าเส้นทางหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ เริ่มกลับมาเดินรถได้อีกครั้งเป็นวันแรก หลังจากที่ต้องหยุดยาวมาตั้งแต่วันที่ 18 มีนาคม หลังจากที่มาเลเซียประกาศปิดประเทศ และในวันนี้ทางประเทศมาเลเซียได้อนุญาตให้เปิดด่านปาดังเบซาร์ ชายแดนไทยมาเลเซีย อ.สะเดา จ.สงขลา เพื่อให้มีการขนส่งทางรถไฟได้อีกครั้ง
    ทำให้ตั้งแต่วันนี้การขนส่งสินค้าทางรถไฟระหว่างประเทศไทยกับมาเลเซียผ่านด่านปาดังเบซาร์สามารถกลับมาดำเนินการได้ แต่ก็ยังคงมีมาตรการคัดกรองเจ้าหน้าที่ประจำรถไฟของเจ้าหน้าที่ทั้งสองประเทศอย่างเข้มข้น
    สำหรับรถไฟขนส่งสินค้าขบวนแรกได้ออกจากสถานีรถไฟชุมทางหาดใหญ่เมื่อเวลา 07.30 น.วันนี้ แต่ยังเป็นรถเปล่าที่จะไปรับส่งสินค้าที่บริเวณด่านปาดังเบซาร์
    ส่วนบรรยากาศที่สถานีรถไฟชุมทางหาดใหญ่ขณะนี้ ยังคงหยุดให้บริการรถไฟทุกขบวนไม่มีกำหนดมาตั้งแต่วันที่ 6 เม.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งปรกติในช่วงนี้ซึ่งจะเข้าสู่เทศกาลสงกรานต์ สถานีรถไฟหาดใหญ่จะเต็มไปด้วยประชาชนที่เดินทางกลับบ้าน แต่ปีนี้เงียบสงบ ทั้งสถานีว่างเปล่าไร้ผู้คน ซึ่งเป็นครั้งแรกที่มีการหยุดเดินรถไฟสายใต้ทุกระบบทุกขบวน.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"