ว่าด้วยการควบคุม บังคับ


เพิ่มเพื่อน    

                                                        (1)

        สงกรานต์บ้านเราปีนี้...คงหนีไม่พ้นต้องหงอย ต้องเฉา ไปตามระเบียบ ซึ่งคงไม่ได้ต่างอะไรไปจากช่วงตรุษจีน ของชาวจีนแท้ๆ ตั้งแต่เมืองอู่ฮั่น ไปจนถึงกรุงปักกิ่ง ในประเทศจีนแผ่นดินใหญ่โน่นเลย เมื่อดันต้องโคจรมาเจอกับ พระนางโคราคะเทวี หรือ พระนางโควิดเทวี ก็แล้วแต่ ล้วนแล้วแต่ ไปไม่เป็น ไปด้วยกันทั้งสิ้น...

                                                       (2)

        คือไม่ว่าจะ ฉีด จะ สาด จะ รินรด ฯลฯ กันในลักษณะแบบไหนก็แล้วแต่ ย่อมต้องมีโอกาสแพร่กระจาย สารคัดหลั่ง จากบุคคลหนึ่ง ไปยังอีกบุคคลหนึ่ง ได้ด้วยกันทั้งนั้น ฟองละอองเรณูจากจมูก จากปาก ที่ฟุ้งกระจายแทรกอยู่ภายในขัน ภายในโอ่งในไห หรือภายในปืนฉีดน้ำ เมื่อพุ่งปรี๊ด หรือแผ่ซ่าน หรือรินไหล กันในแบบไหน อย่างไร ย่อมสามารถนำพาเอาตัวโคโรนาไวรัส Covid-19 โดดไปเกาะกินปอด กินตับ ของผู้ที่ร่วมสนุกสนาน และผู้ที่รักและห่วงใย จนความสุข ความปรารถนาดี อาจกลายเป็นความทุกข์ ความปรารถนาร้าย ได้เสมอๆ...

                                                     (3)

        ยิ่งเป็นประเภท ผู้สูงอายุ ยิ่งแล้วใหญ่...ถึงจะสวมหน้ากาก ปิดปาก ปิดจมูก ในระหว่างรดน้ำ แต่ถ้าหากในขัน ในน้ำ ที่หลั่งรดใส่มือ ใส่ไหล่ ดันมีฟองละอองเรณูของเชื้อไวรัส Covid-19 ติดขันไปด้วย จะต้องเอาเจล เอาแอลกอฮอลล์ มาเช็ด มาถู บรรดาผู้สูงอายุอีกซักกี่รอบต่อกี่รอบ ชนิดเนื้อหนังที่เหี่ยวๆ อยู่แล้ว อาจถลอกปอกเปิก หลุดออกมาเป็นชิ้นๆ เอาเลยก็ไม่แน่ ดังนั้น...ไม่ว่ารัก ไม่ว่าคิดถึง ไม่ว่ากตัญญู รู้คุณ กันเพียงใดก็เถอะ คงหนีไม่พ้นต้องปล่อยให้ท่านปอกกล้วยเปลี่ยวในบ้านร้างไปตามลำพัง ต้องโซเชียล ดิสแทนซิง ฟิซซิเคิล ดิสแทนซิง ส่งแค่ หัวใจ หรือ คำพูด ไปปลอบประโลมกันไปพลางๆ...

                                                      (4)

        ส่วนการ รินหนาปัญญาเกิด หรือการ เสพสุรา ทั้งหลาย...ก็คงต้องถือว่าชอบแล้ว สมควรแล้ว ที่ต้องหาทางเว้นๆ เอาไว้มั่ง เพราะเรื่องของเมระยะ มัชชะปมา ตามปกติและโดยทั่วไปนั้น มันคงต้องตั้งวง ล้อมวง รินไป-รินมา มันถึงจะเป็นอะไรที่เข้ากับบรรยากาศ ที่ต้องฟุ้ง ต้องกระจาย กันไปตามสภาพ น้อยราย...ที่สามารถนั่งริน นั่งทำมิดีมิร้ายช้างพัง ช้างพลาย อยู่เพียงลำพังตัวคนเดียว อย่างประเภท เสือเตี้ย-สนานจิตต์ เป็นต้น เพราะฉะนั้นการตั้งวง ล้อมวง นั่งกิน นั่งดื่ม และหนีไม่พ้นต้องฟุ้งกระจาย ต้องหลั่งสารคัดหลั่งออกมาเป็นสายๆ เลยคงต้องหาทางควบคุม บังคับ หรือไปจนกระทั่งห้ามขาย ซึ่งก็ต้องถือว่าชอบแล้ว สมควรแล้ว ด้วยประการฉะนี้...

                                                      (5)

        ด้วยเหตุนี้...สงกรานต์ปีนี้ ย่อมหนีไม่พ้นต้องหงอย ต้องเฉา กันไปตามระเบียบ แต่ภายใต้ความหงอยและความเฉานั้น อาจมีส่วนช่วยให้บรรดาผู้ที่คึกคัก กระเหี้ยนกระหือรือ อยากจะเด๊ดสะมอเร่ย์ อิน เดอะ เท่งทึง ซะเหลือเกิน หรือประเภทที่ชอบเซ่นสังเวยชีวิตตัวเองให้กับนางสงกรานต์ คราวละเป็นร้อยๆ แทบไม่มีสิทธิ์ลดจำนวน ปริมาณ ลงมาได้เลยในแต่ละปี น่าจะพอเพลาๆ ลงไปได้มั่ง จากที่เคยตายๆ กันในระดับ 500-700 หวิดๆ ขึ้นไปถึงหลักพัน มาปีนี้ ที่ทั้งห้ามดื่ม ห้ามกิน ห้ามสาด ห้ามฉีด แถมห้ามไปไหนต่อไหนอีกซะด้วย ต้องนั่งปอกกล้วยเปลี่ยวอยู่ในบ้านนั่นแหละดี โอกาสที่จะ ออกไปตาย มันจึงน่าจะพอลดน้อยถอยลงไปตามลำดับ...

                                                       (6)

        เมื่อมองในมุมนี้...การควบคุม บังคับ หรือการทำอะไรที่ออกไปทางคล้ายๆ เผด็จการ มันจึงอาจไม่ใช่สิ่งที่ชั่วร้าย เลวร้าย เสมอไป เพราะคงต้องขึ้นอยู่กับการใคร่ครวญ พิจารณา ไปถึง จุดมุ่งหมาย นั่นด้วยแหละว่า มันเป็นไปเพื่อใคร? หรือเพื่ออะไร? กันแน่!!! ถ้าเป็นการควบคุม บังคับ เพื่อต่ออำนาจ สืบทอดอำนาจ ให้ยืดยาวออกไป อันจะนำมาซึ่งผลประโยชน์ของ ตัวกู-ของกู อันนั้น...ก็ควรแล้วที่จะต้องรุมเหยียบ รุมกระทืบ ให้จมธรณีให้จงได้ แต่ถ้าหากมันเป็นไปเพื่อ ตัวมึง นั่นแหละ ไม่ใช่ตัวกูซะที่ไหน คือเพื่อไม่ให้ตัวมึงออกไปทำชั่ว หรือไปเด๊ดสะมอเร่ย์ อิน เดอะ เท่งทึง โดยใช่เหตุ เผด็จการที่ว่า...ก็คงต้องถือหรือต้องจัดอยู่ในประเภท เผด็จการโดยธรรม ดังที่อภิมหาพระ ท่าน พุทธทาสภิกขุ ท่านบอกว่า พอรับได้ อะไรประมาณนั้น...

                                                        (7)

        พูดง่ายๆ ว่า...ไม่ว่า เผด็จการ หรือ ประชาธิปไตย ก็แล้วแต่ เอาเข้าจริงๆ แล้ว...มันก็แค่ กรรมวิธี แค่ เซอเรโมนี ไม่ใช่ โปรเซส ซะที่ไหน มันจะเลว หรือดี เหมาะ-ไม่เหมาะ ควร-ไม่ควร มันจึงขึ้นอยู่กับ จุดมุ่งหมาย ของกรรมวิธี หรือพิธีกรรมนั้นๆ นั่นแหละเป็นหลัก เพราะ ประชาธิปไตย ประเภทที่เป็นไปเพื่อ ตัวกู-ของกู นั้น เอาไป-เอามา...อาจเลวร้ายซะยิ่งกว่า เผด็จการหน่อมแน้ม หรือ เผด็จการละมุนภัณฑ์ ไม่รู้กี่เท่าต่อกี่เท่า ยิ่งเมื่อเจอกับผู้ที่ไม่ได้สนใจในเรื่องเผด็จการ-ประชาธิปไตย ไม่สนใจใครรวย-ใครจน ไม่สนใจชาติไหน-ภาษาไหน อย่างผู้ที่ถูกเรียกขานกันในนาม Covid-19 ด้วยแล้ว มีแต่ต้องหันไปอาศัย เผด็จการ ล้วนๆ นั่นแหละ มันถึงพอช่วยให้ใครต่อใครมีโอกาสเป็นประชาธิปไตย มีโอกาสได้ใช้สิทธิมนุษยชน เพราะยังไม่ต้องเด๊ดสะมอเร่ย์ อิน เดอะ เท่งทึง ลงไปซะก่อนนั่นแล...

                               ------------------------------------------------------------


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"