นักฟุตบอลชุดใหญ่ของสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ ได้เน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นของพวกเขาที่มีต่อสโมสร ในอนาคตซึ่งขณะนี้อยู่ในช่วงเริ่มต้นของปรึกษาหารืออย่างเปิดเผย ระหว่างกลุ่มนักเตะและผู้บริหารระดับสูง

        การหารือในครั้งนี้นำโดย คุณซูซาน วีแลน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ ซิตี้ ร่วมกับ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ผู้จัดการทีม และ จอน รัดกิ้น ผู้อำนวยการฟุตบอล ร่วมกับ หัวหน้าทีมนักฟุตบอล  โดยเป็นการหารือถึงผลกระทบจากการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า  ซึ่งมีผลต่อวิสัยทัศน์ของสโมสรในระยะยาว และบทบาทของบุคลากรระดับสูงของสโมสร การเจรจายังคงดำเนินต่อไป ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นการสนทนาแบบเปิดเผย ที่จะช่วยกำหนดรูปแบบการปรับตัวของสโมสรต่อสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง

        ผลที่ได้ประการแรกคือความมุ่งมั่นที่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันจากทุกฝ่าย ในมาตรการที่ครอบคลุมทั้งระยะสั้นและระยะยาวที่จะมอบความปลอดภัยให้กับเจ้าหน้าที่ของเราในระหว่างการรับมือกับการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า ได้อย่างทันท่วงที พร้อมรับมือกับปัญหาได้อย่างถูกต้อง และแข็งแกร่งกว่าเดิม

        การให้ความสำคัญต่อชุมชนคือวิสัยทัศน์หลักของสโมสร เพื่อสนับสนุนและช่วยเหลือผู้ที่เป็นส่วนสำคัญของการรับมือวิกฤตครั้งนี้ สโมสรมีการวางแผนงานด้านการกุศล โดยได้รับความร่วมมือจากนักฟุตบอล คณะผู้บริหารและพนักงานจากทั้งสนามคิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม และ สนามฝึกซ้อม พร้อมด้วยความมุ่งมั่นจากนักฟุตบอลในทุกระดับ

        หนึ่งในวัตถุประสงค์หลัก คือการเริ่มต้นการให้ความช่วยเหลือในทันที กับโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยของเลสเตอร์ NHS Trust และ Leicestershire Partnership NHS Trust โดยพวกเขามีผลงานที่โดดเด่น ในการรับมือกับการระบาดใหญ่ สโมสรยังได้ติดต่อกับ องค์กร Age UK ในเขตเลสเตอร์เชียร และ รัทแลนด์ ในการเป็นพันธมิตรด้านการกุศลเพื่อให้การสนับสนุนความเป็นอยู่ที่ดีของผู้สูงอายุในชุมชนของเรา

        สารจากคุณอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานสโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ ซิตี้ กล่าวถึง โครงการอธิษฐานเพื่อของขวัญประจำปี 2020 ภายใต้มูลนิธิวิชัย ศรีวัฒนประภา โดยการมอบเงินบริจาคให้กับองค์กรการกุศลซึ่งจะมีคุณค่าอย่างยิ่งต่อชุมชน 

        สโมสรตั้งใจที่จะรักษาตำแหน่งงานของพนักงานประจำโดยไม่ต้องขอความช่วยเหลือจากรัฐบาล สำหรับพนักงานชั่วคราวจะได้รับค่าจ้างจนถึงสิ้นสุดฤดูกาล 2019/20 ตามกำหนดการแข่งขันเดิม

        คุณซูซาน วีแลน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสโมสร กล่าวว่า “สโมสรของเราให้ความสำคัญต่อการเจรจาแบบเปิดเผยที่สอดคล้องกับนักฟุตบอลและพนักงานของพวกเรา ดิฉันเชื่อว่าเราได้สร้างความสัมพันธ์อันแนบแน่น ที่อยู่บนพื้นฐานของความไว้วางใจซี่งเป็นรากฐานที่สำคัญของสโมสร”

        “ปัญหาในปัจจุบันไม่ได้มุ่งเน้นไปที่เรื่องเงิน แต่คือวิธีที่เราจะก้าวไปข้างหน้าในช่วงวิกฤตนี้ เป็นผู้นำให้กับชุมชน และให้ความช่วยเหลือชุมชน ซึ่งจะเป็นช่วงเวลาที่จารึกในประวัติศาสตร์ของเลสเตอร์ ซิตี้ และความรับผิดชอบนี้จะไม่สูญหายไป สิ่งที่เราได้ทำร่วมกันวันนี้จะตกทอดสู่ชุมชนโดยการเตรียมความพร้อมของสโมสรเพื่อเป็นผู้นำชุมชนในสถานการณ์เช่นนี้ เราจะนำชุมชนของเราไปสู่อนาคตที่สดใสด้วยกัน”

        เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ผู้จัดการทีมเลสเตอร์ ซิตี้ กล่าวว่า “นี่เป็นวัฒนธรรมที่มีมาก่อนที่ผมจะมาอยู่ที่นี่ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ผมตัดสินใจรับงานนี้ และมันก็เป็นสิทธิพิเศษอย่างยิ่ง นั่นหมายความว่าบทบาทของผมในการพูดคุยในสถานการณ์ปัจจุบันทำได้อย่างตรงไปตรงมา เพราะนักฟุตบอลและสโมสรชัดเจนเกี่ยวกับความรับผิดชอบของพวกเขา พวกเขารู้ทันทีว่าจะต้องทำอะไรให้กับสโมสร ให้กับเมืองและให้กับแฟนบอล”

        “นี่คือสโมสรที่มีค่านิยมที่แข็งแกร่งซึ่งเปรียบเสมือนครอบครัว ในยามวิกฤตสัญชาตญาณแรกของคุณคือการปกป้องครอบครัว และนั่นคือการร่วมมือที่ผมได้เห็น และภูมิใจที่ได้เป็นผู้นำของนักฟุตบอล ซึ่งเราเป็นผู้กำหนดและได้ปฏิบัติตามบทบาทของเราในอนาคต”

        เวส มอร์แกน กัปตันทีมเลสเตอร์ ซิตี้ กล่าวว่า “จิตวิญญาณและความรู้สึก ทำให้สโมสรแห่งนี้แตกต่างจากสโมสรอื่น  ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาพวกเราทุกคนมาจากต่างสถานที่ ต่างภูมิหลังแต่เราทุกคนร่วมแบ่งปันประสบการณ์เหล่านี้ที่ได้นำเรามาพบกันที่สโมสรแห่งนี้ ในเมืองนี้ แม้แต่คนที่ยังใหม่กับสถานที่แห่งนี้ก็สามารถสัมผัสได้เพราะมันคือวัฒนธรรมของเรา”

        “ในฐานะนักฟุตบอล เรารู้สึกดีที่ได้ทำงานร่วมกับสโมสรของเรา เพราะเราได้สร้างวัฒนธรรมนี้ขึ้นร่วมกับพนักงานทุกคน ทันทีที่การสนทนาเริ่มขึ้น มันก็ชัดเจนว่าเราทุกคนต้องการสิ่งเดียวกัน เพื่อให้แน่ใจว่าพนักงานทุกคนของสโมสรได้รับการดูแล และเพื่อทำให้ผู้คนในเมืองของเรา สโมสรของเราอยู่ในตำแหน่งที่ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เมื่อฟุตบอลพร้อมที่จะกลับมาแข่งขันอีกครั้ง”

        แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล รองกัปตันทีมเลสเตอร์ ซิตี้ กล่าวว่า “จากประสบการณ์ที่เป็นส่วนหนึ่งของสโมสร ที่ได้มอบสิ่งที่ดีให้กับพวกเราทุกคน ทั้งนักเตะและพนักงาน และนี่คือโอกาสของเราที่จะได้ตอบแทน”

        “พวกเราผ่านอะไรมาด้วยกันหลายอย่าง เราผ่านทุกความท้าทายที่ทำให้เราเป็นทีมที่แข็งแกร่งขึ้น และครั้งนี้ก็จะไม่แตกต่าง เรามาที่นี่เพื่อช่วยเหลือซึ่งกันและกันเพื่อให้ผ่านเหตุการณ์นี้ และเมื่อทุกอย่างหยุดนิ่งลง เมื่อโลกพร้อมที่จะให้ฟุตบอลกลับมาอีกครั้ง เราจะอยู่ที่นั่นเพื่อร่วมผลักดันสโมสรไปข้างหน้า