ขาประจำยกทัพ 150 นักวิชาการ เอ็นจีโอ ชู 'ปราศจากเสรีภาพย่อมปราศจากสุขภาพที่ดี' โต้นายกฯยึดหลัก 'สุขภาพนำเสรีภาพ'


เพิ่มเพื่อน    

10 เม.ย. 63 - เครือข่ายนักวิชาการภาคประชาชนและภาคประชาสังคมได้ออกแถลงการณ์เรื่อง"ปราศจากเสรีภาพย่อมปราศจากสุขภาพที่ดี" หลังพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา  นายกรัฐมนตรี ประกาศยึดหลัก 'สุขภาพนำเสรีภาพ' เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด-19

โดยแถลงการณ์ดังกล่าวมีเนื้อหาดังนี้ จากการอ้างถึง“สุขภาพนำเสรีภาพ” ในการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินและการประกาศเคอร์ฟิว(การห้ามออกจากเคหะสถานในยามค่ำคืนตั้งแต่เวลา22.00-04.00 น.) ของพลเอกประยุทธ์จันทร์โอชานายกรัฐมนตรีเครือข่ายนักวิชาการภาคประชาชนและภาคประชาสังคมมีความกังวลว่าความหมายและท่าทีของนโยบาย“สุขภาพนำเสรีภาพ” กำลังก่อให้เกิดความสับสนและสร้างปัญหาทับซ้อนในการรับมือกับการแพร่ระบาดครั้งใหญ่(pandemic) ของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในประเทศไทยเนื่องจากหลักการ“เสรีภาพ” เชื่อมโยงโดยตรงถึงสิทธิมนุษยชนในหลายมิติเช่นสิทธิพลเมืองสิทธิชุมชนสิทธิในชีวิตและทรัพย์สินสิทธิในการเข้าถึงบริการด้านสุขภาพและบริการจากรัฐสิทธิในการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารรวมถึงสิทธิในการรับรู้ข่าวสารฯลฯภายใต้แนวทางการจัดการสุขภาพที่ขาดมิติเสรีภาพและไม่เคารพหลักการสิทธิมนุษยชนย่อมจะนำไปสู่ปัญหาเชิงสุขภาพและสังคมที่หนักหน่วงยิ่งขึ้น

ดังกรณีที่สื่อปาตานีโนตส์(Patani NOTES) ได้นำเสนอข่าวในหน้าเฟซบุ๊ค(Facebook page) Patani NOTES ภายใต้หัวข้อ“กักตัวทั้งครอบครัวมีลูกสาวคนเดียวส่งข้าวส่งน้ำ” ในวันที่1 เมษายน2563 ซึ่งเป็นการรายงานเรื่องราวร้องทุกข์ของครอบครัวหนึ่งในตำบลยะรังอำเภอยะรังจังหวัดปัตตานีที่ได้รับคำสั่งให้กักตัวภายในบ้านเป็นเวลา14 วันโดยที่ณเวลานั้นยังไม่เข้าใจถึงรายละเอียดของการกักตัวหรือมาตรการในการช่วยเหลือที่ชัดเจนจนทำให้เกิดความกังวลถึงชีวิตความเป็นอยู่และปากท้องในช่วงเวลาดังกล่าว

การนำเสนอข่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นช่องทางการสื่อสารให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้อันจะนำไปสู่การแก้ไขปัญหาและการปกป้องคุ้มครองสิทธิเสรีภาพและสุขภาพของประชาชนหากในเวลาต่อมาปาตานีโนตส์กลับถูกคุกคามและกดดันอย่างหนักจากกลุ่มบุคคลที่อ้างว่าการนำเสนอข่าวเช่นนี้เป็นอุปสรรคต่อการให้บริการด้านสุขภาพของภาครัฐจนทำให้ต้องถอดข่าวนี้ออกจากพื้นที่สื่อไปในช่วงค่ำของวันที่3 เมษายน2563  

กรณีปาตานีโนตส์สะท้อนว่าแนวคิด“สุขภาพนำเสรีภาพ” นั้นได้นำไปสู่การใช้อำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาดที่ลิดรอนสิทธิของสื่อมวลชนในการนำเสนอข้อมูลข่าวสารประชาชนสูญเสียพื้นที่ในการร้องทุกข์ซึ่งซ้ำเติมประชากรกลุ่มเปราะบางที่มีฐานทรัพยากรน้อยคนเหล่านี้เป็นผู้ที่ไร้สิทธิไร้เสียง(voiceless) ในสังคมการเบี่ยงประเด็นให้ปัญหาสุขภาพเป็นเพียงการควบคุมผู้คนไร้สิทธิไร้เสียงยิ่งทำให้พวกเขาไม่อาจส่งเสียงความทุกข์ร้อนและปัญหาของตนเองเนื่องจาก“เสียง” ที่ถูกส่งออกมาจะกลายเป็นสิ่งที่ขัดกับนโยบายรัฐและจะกลายเป็นการรุกรานละเมิดความปลอดภัยและสุขภาพของส่วนรวมไปในทันทีคำประกาศของนายกรัฐมนตรีดังกล่าวจึงส่งผลกระทบต่อประชาชนโดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มเปราะบางทำให้พวกเขาไม่มีทั้งเสรีภาพสิทธิมนุษยชนและไม่มีสุขภาพ(ที่ดี) ไปในเวลาเดียวกัน

ทั้งนี้ช่องว่างในการปฏิบัติงานหรือข้อผิดพลาดในการสื่อสารระหว่างเจ้าหน้าที่และประชาชนเป็นปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้ทั่วไปในสภาวะวิกฤติความเข้าใจต่อมาตรการต่างๆที่มีการเปลี่ยนแปลงและมีรายละเอียดเชิงเทคนิคไม่ใช่เรื่องง่ายๆที่จะทำความเข้าใจในหมู่ประชาชนอีกทั้งข้อเท็จจริงในการนำเสนอข่าวควรเป็นเป็นเรื่องที่สังคมวงกว้างได้มีส่วนร่วมในการพิจารณาทั้งยังเป็นโอกาสให้เจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติการได้รับทราบเสียงสะท้อนของประชาชนเพื่อเป็นข้อมูลในการแก้ไขปัญหาและพัฒนาการทำงานให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นต่อไป

สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่าคือการรักษาพื้นที่ส่งเสียง(voice) ความเดือดร้อนของประชาชนเนื่องจากหากมีเสรีภาพในการนำเสนอข่าวสารก็จะมีโอกาส"กระจายความเป็นธรรม” (distributive justice) สู่ประชาชนกลุ่มเสี่ยงและกลุ่มเปราะบางมากขึ้นซึ่งเป็นการส่งเสริมโอกาสในการเข้าถึงความช่วยเหลือหรือบริการจากภาครัฐที่มีความจำเป็นอย่างยิ่งในช่วงเวลาวิกฤติเครือข่ายนักวิชาการภาคประชาชนและภาคประชาสังคมทั้งในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้และในที่อื่นทั่วประเทศตามรายชื่อแนบท้ายจำนวน116 คนและ12 เครือข่าย/องค์กรจึงขอเรียกร้องไปยังรัฐบาลองค์กรสิทธิมนุษยชนองค์กรสื่อและสังคมไทยดังนี้

ข้อที่1 ขอเรียกร้องให้ทุกภาคส่วนโดยเฉพาะอย่างยิ่งภาครัฐเร่งทบทวนแนวนโยบาย“สุขภาพนำเสรีภาพ” โดยปกป้องคุ้มครองสิทธิเสรีภาพในการนำเสนอข้อมูลข่าวสารและรักษาพื้นที่ของการนำเสนอทุกข์ร้อนของประชาชนซึ่งสามารถนำไปเป็นข้อมูลในการปรับปรุงแก้ไขการปฏิบัติงานให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นโดยไม่ควรมองว่าเสียงเหล่านั้นเป็นคู่ขัดแย้งหรืออุปสรรคของการทำงานจัดการวิกฤติด้านสุขภาพของภาครัฐซึ่งต้องการความจริงใจในการแก้ปัญหา

ข้อที่2 ขอเรียกร้องให้องค์กรสิทธิมนุษยชนและองค์กรสื่อในระดับท้องถิ่นจนถึงระดับประเทศได้จับตาและเฝ้าติดตามอย่างใกล้ชิดถึงผลพวงที่เกิดขึ้นจากคำประกาศ“สุขภาพนำเสรีภาพ” อันอาจจะเป็นการละเมิดสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชนโดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้เป็นข้ออ้างในเชิงการเมืองและให้ใช้กลไกสิทธิมนุษยชนทุกระดับเพื่อปกป้องคุ้มครองเสรีภาพของสื่อในการนำเสนอข้อมูลข่าวสารโดยมีการตอบสนองอย่างทันท่วงทีเมื่อเกิดเหตุการณ์คุกคามสื่อ

ข้อที่3 ขอเรียกร้องให้ประชาชนเชื่อมั่นในสิทธิสวัสดิภาพในชีวิตความเป็นอยู่และเสียงของประชาชนซึ่งภาครัฐมีหน้าที่ปกป้องคุ้มครองและส่งเสริมไปพร้อมกับได้รับการดูแลด้านสุขภาพซึ่งเป็นความมั่นคงในชีวิตอย่างไม่แยกส่วนกันกล่าวคือ“สุขภาพต้องการเสรีภาพ” โดยไม่อาจขาดสิ่งใดสิ่งหนึ่งได้ทั้งนี้ประชาชนพึงตระหนักถึงหน้าที่และความรับผิดชอบที่มีต่อสังคมโดยรวมโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาวิกฤติเช่นนี้ด้วย

ด้วยความศรัทธาเชื่อมั่นว่า“สุขภาพต้องการเสรีภาพ”

เครือข่ายนักวิชาการภาคประชาชนและภาคประชาสังคม

รายชื่อแนบท้าย

ลงชื่อในนามบุคคล:

 

 

1. Hara Shintaro (นักวิชาการอิสระ)

2. กนกวรรณมะโนรมย์(มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี)

3. กรกนกคำตา(การเมืองหลังบ้าน)

4. กรพนัชตั้งเขื่อนขันธ์

5. กฤดิกรวงศ์สว่างพานิช

6. กฤษณ์พชรโสมณวัตร(คณะนิติศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่)

7. กฤษณะโชติสุทธิ์

8. กิตติวิสารกาญจน(มหาวิทยาลัยศิลปากร)

9. กุสุมากูใหญ่(มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์วิทยาเขตปัตตานี)

10. กุสุมาจันทร์มูล(การเมืองหลังบ้าน)

11. เกษมเพ็ญภินันท์

12. เกษียรเตชะพีระ

13. คมลักษณ์ไชยยะ(มหาวิทยาลัยราชัฎพระนครศรีอยุธยา)

14. คอรีเยาะมานุแช(ทนายความ)

15. คารินาโชติรวี

16. เคทครั้งพิบูลย์(มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์)

17. งามศุกร์รัตนเสถียร(สถาบันสิทธิมนุษยชนและสันติศึกษามหาวิทยาลัยมหิดล)

18. จารียาอรรถอนุชิต(คณะวิทยาการสื่อสารมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์วิทยาเขตปัตตานี

19. จุฑามาสศรีหัตถผดุงกิจ(นักกิจกรรม)

20. ชญานิษฐ์พูลยรัตน์

21. ชลัทศานติวรางคณา

22. ชลิตาบัณฑุวงศ์(ภาควิชาสังคมวิทยาและมานุษยวิทยามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์)

23. ชวินโรจน์ธีรพัชรพร

24. ชัชวาลปุญปัน(ข้าราชการบำนาญคณะวิทยาศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่)

25. ชัยพงษ์สำเนียง(มหาวิทยาลัยเชียงใหม่)

26. ชัยพรสิงห์ดี

27. ชาญคณิตอาวรณ์(มหาวิทยาลัยพะเยา)

28. ชาญณรงค์บุญหนุน (ภาควิชาปรัชญามหาวิทยาลัยศิลปากร)

29. ชาญวิทย์เกษตรศิริ

30. ชิงชัยเมธพัฒน์(นักวิชาการอิสระด้านมานุษยวิทยาการแพทย์)

31. เชาวฤทธิ์เชาว์แสงรัตน์

32. ไชยันต์รัชชกูล(คณะรัฐศาสตร์และสังคมศาสตร์มหาวิทยาลัยพะเยา)

33. ซัมซู สาอุ(มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์วิทยาเขตปัตตานี)

34. ณภัคเสรีรักษ์

35. ณรงค์ฤทธิ์สุมาลี(มหาวิทยาลัยนครพนม)

36. ณรรธราวุธเมืองสุข(สื่อมวลชนอิสระ)

37. ณัชปกรนามเมือง(iLaw)

38. ณัฐดนัยนาจันทร์

39. ณัฐดนัยนาจันทร์

40. ดรุณีไพศาลพาณิชย์กุล(คณะนิติศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่)

41. เดชรัตสุขกำเนิด(นักวิชาการเศรษฐศาสตร์)

42. ตะวันวรรณรัตน์(มหาวิทยาลัยศิลปากร)

43. ถนอมชาภักดี

44. ทวีศักดิ์ปิ(โครงการจัดตั้งสมาคมเพื่อการศึกษาและการพัฒนา)

45. ทัศนัยเศรษฐเสรี(มหาวิทยาลัยเชียงใหม่)

46. ธนภาษเดชพาวุฒิกุล(สำนักวิชาศิลปศาสตร์มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์)

47. ธนรัตน์มังคุด(สำนักวิชารัฐศาสตร์และนิติศาสตร์มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์)

48. ธนศักดิ์สายจำปา(สาขาวิชารัฐศาสตร์มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช)

49. ธวัชมณีผ่อง(มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี)

50. ธีรวัฒน์ขวัญใจ(คณะนิติศาสตร์มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์)

51. ธีระพลอันมัย(คณะศิลปศาสตร์มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี)

52. นราสิทธิ์วงษ์ประเสริฐ(มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี)

53. นัทมนคงเจริญ(คณะนิติศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่)

54. นาตยาอยู่คง(มหาวิทยาลัยศิลปากร)

55. นิติรัตน์ทรัพย์สมบูรณ์

56. นิมิตร์เทียนอุดม

57. บัณฑิตจันทร์โรจนกิจ

58. บารมีชัยรัตน์(สมัชชาคนจน)

59. บุญเลิศวิเศษปรีชา(มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์)

60. บุศรินทร์เลิศชวลิตสกุล

61. เบญจรัตน์แซ่ฉั่ว(มหาวิทยาลัยมหิดล)

62. ประภัสสร์ชูวิเชียรมหาวิทยาลัยศิลปากร

63. ปรัชญเกียรติว่าโร๊ะ

64. ปรัชญาโต๊ะอิแต

65. ปราโมทย์ระวิน

66. ปวินท์ระมิงค์วงศ์(มหาวิทยาลัยพะเยา)

67. ปิ่นแก้วเหลืองอร่ามศรี(คณะสังคมศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่)

68. พงษ์ศักดิ์รัตนวงศ์(มหาวิทยาลัยเชียงใหม่)

69. พรเพ็ญคงขจรเกียรติ(นักกิจกรรมอิสระ)

70. พรรณรายโอสถาภิรัตน์(คณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์)

71. พัทธ์ธีรานาคอุไรรัตน์

72. พันธุ์พิพิธพิพิธพันธุ์ คณะรัฐศาสตร์(มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์วิทยาเขตปัตตานี)

73. พิชญ์พงษ์สวัสดิ์

74. พิภพ อุดมอิทธิพงศ์

75. พิสิษฏ์นาสี(คณะศึกษาศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่)

76. แพรจิตติพลังศรี

77. ภัควดีวีระภาสพงษ์

78. ภาสกรอินทุมาร(มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์)

79. มนตราพงษ์นิล(คณะรัฐศาสตร์และสังคมศาสตร์มหาวิทยาลัยพะเยา)

80. มัจฉาพรอินทร์(สร้างสรรค์อนาคตเยาวชน)

81. มัทนาเชตมี(การเมืองหลังบ้าน)

82. มาหามะสาบรีเจ๊ะเลาะ

83. มูฮัมหมัดอิลยาสหญ้าปรัง(มหาวิทยาลัยรามคำแหง)

84. ยศสันตสมบัติ

85. ยุกติมุกดาวิจิตร(คณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์)

86. เยาวนิจกิตติธรกุล(มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์)

87. เยาวลักษ์อนุพันธุ์

88. รชฎสาตราวุธ(มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์วิทยาเขตปัตตานี)

89. รัตนาโตสกุลข้าราชการบำนาญคณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

90. รามิลกาญจันดา

91. รุ่งทิพย์จันทร์ธนะกุล(มหาวิทยาลัยศิลปากร)

92. รุสนันท์เจ๊ะโซ๊ะ(มหาวิทยาลัยมลายา)

93. ลม้ายมานะการ

94. วลักษณ์กมลจ่างกมล(คณะวิทยาการสื่อสารมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์วิทยาเขตปัตตานี)

95. วันพิชิตศรีสุข(มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์วิทยาเขตปัตตานี)

96. วาสนาละอองปลิว

97. วิจิตราเตรตระกูล

98. วินัยผลเจริญวินัยผลเจริญ(วิทยาลัยการเมืองการปกครองมหาวิทยาลัยมหาสารคาม)

99. วิภาดาวาสินธุ์(เครือข่ายคนใจอาสาจังหวัดสุราษฎร์ธานี)

100. วิริยะสว่างโชติ

101. วีรบูรณ์วิสารทสกุล(มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์)

102. วีระวัฒน์ภัทรศักดิ์กำจร(มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์)

103. เวียง-วชิระบัวสนธ์(บรรณาธิการสำนักพิมพ์สามัญชน)

104. ศยามลเจริญรัตน์(หน่วยปฏิบัติการวิจัยความมั่นคงของมนุษย์และความเท่าเทียม. สถาบันวิจัยสังคมจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย)

105. ศรยุทธเอี่ยมเอื้อยุทธ(มหาวิทยาลัยเชียงใหม่)

106. ศรายุทธ ตั้งประเสริฐ

107. ศศิประภาไร่สงวน(ทนายความ)

108. ศิริพรฉายเพ็ชร

109. ษมาพรแสงสุระธรรม(มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์)

110. ษัษฐรัมย์ธรรมบุษดี(มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์)

111. สงกรานต์ป้องบุญจันทร์(คณะนิติศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่)

112. สมใจสังข์แสตมป์

113. สมชายปรีชาศิลปกุล(คณะนิติศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่)

114. สมฤทธิ์ลือชัย(นักวิชาการอิสระ)

115. สมัชชานิลปัทม์(คณะวิทยาการสื่อสารมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์วิทยาเขตปัตตานี)

116. สมิทธิรักษ์จันทรักษ์(นักวิชาการอิสระ)

117. สร้อยมาศรุ่งมณี

118. สัณห์ธวัชธัญวงษ์(คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์วิทยาเขตปัตตานี)

119. สามชายศรีสันต์(มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์)

120. สายฝน สิทธิมงคล(มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์วิทยาเขตปัตตานี)

121. สิบปีย์ชยานุสาสนีจันทร์ดอน(ปรัชญาสังคมและวัฒนธรรมมหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม)

122. สุทธิชัยงามชื่นสุวรรณ(คณะนิติศาสตร์มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์)

123. สุภาภรณ์มาลัยลอย(มูลนิธินิติธรรมสิ่งแวดล้อม)

124. สุรพศทวีศักดิ์

125. สุรัชคมพจน์หลักสูตรรัฐศาสตร์(สำนักวิชารัฐศาสตร์และนิติศาสตร์มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์)

126. สุรินทร์อ้นพรม

127. สุไรนี  สายนุ้ย(มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์วิทยาเขตปัตตานี)

128. สุไลพรชลวิไล(นักกิจกรรมอิสระ)

129. สุฮัยดากูทา(ห้องเรียนเพศวิถีและสิทธิมนุษยชน- BUKU)

130. เสาวณิตจุลวงศ์(มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์)

131. เสาวณิตจุลวงศ์(มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์)

132. เสาวนีย์อเลกซานเดอร์

133. อนุสรณ์อุณโณ(คณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์)

134. อรชารักดี(มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์วิทยาเขตปัตตานี)

135. อรรถจักรสัตยานุรักษ์ภาควิชาประวัติศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

136. อรอนงค์ชนะสิทธิ์(ห้องเรียนเพศวิถีและสิทธิมนุษยชน- BUKU)

137. อรอนงค์ทิพย์พิมล(มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์)

138. อรุณีสัณฐิติวณิชย์

139. อลิสาบินดุส๊ะ

140. อสมามังกรชัย

141. อังคณานีละไพจิตร

142. อัญชนาสุวรรณานนท์ (เจ้าหน้าที่โครงการองค์กรอเมริกันจูวิชเวิร์ดเซอร์วิส)

143. อัญชนาหีมมิหน๊ะ(กลุ่มด้วยใจ)

144. อันธิฌาแสงชัยมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์วิทยาเขตปัตตานี

145. อาจิณโจนาธานอาจิณกิจ

146. อาจินต์ทองอยู่คง(มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์)

147. อิมรอนซาเหาะ

148. อิลหามมะนะแล(สื่อมวลชน)

149. อุเชนทร์เชียงเสน(สำนักวิชารัฐศาสตร์และนิติศาสตร์มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์)

150. เอกสิทธิ์หนุนภักดี(คณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์)

ลงชื่อในนามองค์กร:

1. กลุ่มทำทาง

2. กลุ่มนิเวศวัฒนธรรมศึกษา

3. การเมืองหลังบ้าน

4. คณะทำงานวาระผู้หญิงชายแดนใต้(PAOW)

5. เครือข่ายนักวิชาการเพื่อสิทธิพลเมือง(คนส.)

6. เครือข่ายประชาชนผู้เป็นเจ้าของแร่

7. โครงการขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะด้านทรัพยากรแร่

8. มลายูรีวิว

9. มูลนิธินิติธรรมสิ่งแวดล้อม

10. มูลนิธิผสานวัฒนธรรม(ลงชื่อในนามองค์กร)

11. มูลนิธิเพื่อสิทธิมนุษยชนและการพัฒนา(มสพ.)

12. ศูนย์กฎหมายสิทธิมนุษยชน

13. ศูนย์พิทักษ์และฟื้นฟูสิทธิชุมชนท้องถิ่น(ศพช.)

14. สร้างสรรค์อนาคตเยาวชน

15. ห้องเรียนเพศวิถีและสิทธิมนุษยชน(BUKU)

16. ศูนย์พิทักษ์และฟื้นฟูสิทธิชุมชนท้องถิ่น(ศพช.)

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"