ยังสาดน้ำลายกันไม่เลิก รัฐบาลสหรัฐโจมตีดับเบิลยูเอชโอเลือกการเมืองก่อนสุขภาพของประชาชน เมินคำเตือนจากไต้หวันเพราะเกรงใจจีน หลังจากรัฐบาลไต้หวันยัวะจัดโดน ผอ.ดับเบิลยูเอชโอกล่าวหาเป็นต้นตอใส่ร้าย ด้านจีนโดดร่วมวงด้วย ตอกไต้หวันชักใยการเมืองหวังผลแยกเอกราช
ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่ดับเบิลยูเอชโอ แถลงข่าวที่นครเจนีวาเมื่อวันที่ 6 เมษายน 2563
คำแถลงของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 9 เมษายน ตอกย้ำท่าทีของรัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ในช่วงหลายวันที่ผ่านมาที่โจมตีองค์การอนามัยโลก (ดับเบิลยูเอชโอ) อย่างเผ็ดร้อน และทรัมป์ยังขู่จะระงับเงินช่วยเหลือองค์กรซึ่งเป็นด่านหน้าในการต่อสู้กับโรคระบาดที่แพร่เชื้อสู่ชาวโลกแล้วมากกว่า 1.6 ล้านราย นับแต่พบเชื้อไวรัสนี้ปรากฏที่เมืองอู่ฮั่นของจีนครั้งแรกเมื่อปลายปีที่แล้ว
เอเอฟพีกล่าวว่า นักวิจารณ์หลายคนมองว่าการที่จู่ๆ ทรัมป์หันมาเล่นงานดับเบิลยูเอชโอเป็นอุบายการเมืองเพื่อหาแพะรับบาปจากต่างประเทศ เนื่องจากตัวเขากำลังโดนตำหนิอย่างหนักว่าไม่เตรียมพร้อมอย่างเพียงพอและไม่สามารถควบคุมการระบาดของโควิด-19
ทรัมป์เคยกล่าวเมื่อเดือนมกราคมว่า สหรัฐควบคุมไวรัสโคโรนาไว้ได้อย่างสิ้นเชิงแล้ว และทำนายว่าโรคนี้จะหมดไปภายในเดือนเมษายนเมื่ออากาศร้อนขึ้น แต่ถึงวันศุกร์ที่ 10 เมษายน ไวรัสโคโรนานี้คร่าชีวิตคนในสหรัฐแล้วมากกว่า 16,000 ศพ จากผู้ติดเชื้อมากกว่า 468,000 ราย
โฆษกของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐแถลงที่กรุงวอชิงตันโจมตีดับเบิลยูเอชโอว่า ส่งสัญญาณเตือนเรื่องโควิด-19 ช้าเกินไป และเกรงใจจีนเกินเหตุ พร้อมตั้งคำถามว่าเหตุใดองค์กรซึ่งมีที่ตั้งที่นครเจนีวาแห่งนี้ จึงไม่เชื่อเบาะแสจากไต้หวันที่เตือนเรื่องการแพร่เชื้อจากคนสู่คน ซึ่งคำแถลงของดับเบิลยูเอชโอเมื่อวันที่ 14 มกราคม ไม่ได้กล่าวถึงเลย
"เป็นอีกครั้งที่ดับเบิลยูเอชโอเลือกการเมืองอยู่เหนือสุขภาพของประชาชน" โฆษกหญิงกล่าว พร้อมกับวิจารณ์ที่ดับเบิลยูเอชโอไม่ยอมให้ไต้หวันได้สถานะผู้สังเกตการณ์มาตั้งแต่ปี 2559 โดยระบุด้วยว่า พฤติกรรมของดับเบิลยูเอชโอทำให้ทั้งเสียเวลาและชีวิตคน
รองประธานาธิบดีเฉิน เฉียนเจิน ของไต้หวัน กล่าวว่า ไต้หวันเคยเตือนดับเบิลยูเอชโอเมื่อวันที่ 31 ธันวาคม เรื่องการแพร่เชื้อจากคนสู่คน หลังจากแพทย์ไต้หวันได้ข้อมูลว่าแพทย์ในอู่ฮั่นล้มป่วย แต่ดับเบิลยูเอชโอกลับไม่ตรวจพิสูจน์ยืนยันเรื่องนี้
เมื่อวันพุธ ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่ดับเบิลยูเอชโอ แถลงข่าวที่เจนีวาตอบโต้คำวิจารณ์ของทรัมป์ที่ระบุว่า องค์กรของเขายกจีนเป็นศูนย์กลางทั้งที่สหรัฐบริจาคเงินให้มากที่สุด ในคำแถลงเขาเผยว่า ตนเองตกเป็นเป้าหมายการใส่ร้ายป้ายสีเหยียดสีผิวนับแต่เริ่มวิกฤติโควิด-19 "สามเดือนที่แล้ว การโจมตีออกมาจากไต้หวัน" ทีโดรสกล่าวชัด อย่างไรก็ดีในคำแถลงเขาติติงเรื่องการทำให้วิกฤตินี้เป็นเรื่องการเมือง แต่ไม่ได้พาดพิงสหรัฐ ซึ่งบริจาคเงินให้องค์กรเขาปีละมากกว่า 400 ล้านดอลลาร์
รัฐบาลไต้หวันโกรธแค้นคำกล่าวของผู้อำนวยการดับเบิลยูเอชโอชาวเอธิโอเปียรายนี้ โดยย้อนว่าคำกล่าวของทีโดรส "ไม่มีมูลความจริง" และเรียกร้องให้เขาขอโทษที่ "ใส่ความ" ไต้หวัน
ไช่ อิงเหวิน ประธานาธิบดีหญิงของไต้หวันยังเชิญให้ทีโดรสมาเยือนไต้หวัน และเรียนรู้วิธีที่ไต้หวันจัดการกับโรคระบาดนี้ และท้าทายให้เขา "ขัดขืนแรงกดดันจากจีน"
ไต้หวันมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพียง 382 ราย น้อยกว่าประเทศเพื่อนบ้านร่วมภูมิภาคหลายชาติมาก โดยเป็นผลจากการป้องกันอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ไต้หวันเพิ่งมีผู้เสียชีวิตรายที่ 6 เมื่อวันศุกร์ เป็นคนชราที่มีปัญหาสุขภาพเรื้อรัง
ด้านกระทรวงการต่างประเทศของจีนแถลงเมื่อคืนวันพฤหัสบดี โจมตีพรรครัฐบาลของไช่ว่า "ชักใยทางการเมือง" เรื่องนี้ วัตถุประสงค์ที่แท้จริงของไต้หวันคือการใช้โรคระบาดเป็นหนทางแสวงหาเอกราช ด้วยการโจมตีดับเบิลยูเอชโออย่างชั่วร้าย.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |