สารพัดคณะกรรมการลดกระแส กองทัพปล่อยเรื่องเงียบไร้ผลสรุป


เพิ่มเพื่อน    

     

      เป็นปีที่กองทัพงานเข้าอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่เหตุกราดยิงที่โคราช ซึ่งมีกำลังพลของกองทัพบกเป็นต้นทางของโศกนาฏกรรมกลางห้าง ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตหลายคน หลังจากนั้นกระแสสังคมต่างเรียกร้องให้หาสาเหตุของปัญหาที่แท้จริง ทำให้ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ได้สั่งการไปยังแม่ทัพภาคที่ 2 ให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างตรงไปตรงมา

      นอกจากนี้ยังได้แต่งตั้งคณะทำงานขึ้นมา 2 ชุด โดยชุดแรกจะให้เจ้ากรมสวัสดิการทหารบกเข้าไปตรวจสอบเกี่ยวกับสวัสดิการของกำลังพล ร้านค้าสวัสดิการ รวมถึงธุรกิจในค่ายทหารทั้งหมด ชุดที่สองให้เจ้ากรมกำลังพลทหารบกตรวจสอบกำลังพลที่เข้าไปเกี่ยวข้อง หรือมีส่วนได้ส่วนเสียกับธุรกิจในค่ายทหาร พล.อ.อภิรัชต์ยังเปิดแถลงข่าวแสดงความเสียใจและขอโทษต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมประกาศให้สังคมรับทราบถึงเจตนารมณ์ในการปฏิรูปกองทัพ ยกเครื่องธุรกิจค่ายทหาร เปลี่ยนมือเจ้าของ “หม้อข้าว” ที่ไม่ได้อุดมสมบูรณ์เหมือนเมื่อก่อนไปให้กระทรวงการคลังรับไปดำเนินการ เป้าหมายให้ทุกอย่างเข้าสู่ระบบ งบประมาณสามารถตรวจสอบได้ รวมถึงเปิดศูนย์คอลเซ็นเตอร์รับเรื่องร้องเรียนที่กำลังพลได้รับผลกระทบด้วย

      แต่ผลสอบของคณะกรรมการฯ ทั้งสองชุดไม่ได้รับการเปิดเผยแต่อย่างใด ส่วนความคืบหน้าในการสังคายนา “ธุรกิจในค่ายทหาร” ก็เงียบหายไปเมื่อมีข่าวเรื่องอื่นมากลบ

      จากนั้นไม่นาน กองทัพก็ต้องเจอศึกหนักในสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จากปมเหตุของตัวเลขผู้ติดเชื้อที่ขยับสูงขึ้น นับแต่มีดาราซึ่งทำหน้าที่พิธีกรประกาศตัวเองว่าป่วยจากการติดเชื้อโควิดที่สนามมวยลุมพินี พื้นที่รับผิดชอบของกองทัพบก ซึ่งเป็นสถานที่หนึ่งที่อยู่ในบัญชีจะถูกแปลงสภาพไปสู่ “ธุรกิจนอกค่ายทหาร” ในอนาคต

      แต่ที่เคราะห์ซ้ำกรรมซัดไปกว่านั้น หลังจาก พล.อ.ณฐพนธ์ ศรีสวัสดิ์ ที่ปรึกษาพิเศษกองทัพบก ผู้แทนผู้บัญชาการทหารบก แถลงยืนยันว่า พล.ต.ราชิต อรุณวงษ์ เจ้ากรมสวัสดิการทหารบก และนายสนามมวยเวทีลุมพินี ติดเชื้อโควิด-19 และมีผู้ที่เกี่ยวข้องต้องเข้าสู่กระบวนการสอบสวนโรค และถูกกักตัว 14 วัน ณ วันที่แถลงข่าวนั้น ก็พบว่ามีนายทหาร 36 นายที่ใกล้ชิดมีความเสี่ยงสูง ได้ให้กักตัวอยู่ที่บ้านแล้ว และมี 60 คนอยู่ในเกณฑ์เฝ้าระวังและกักตัวอยู่ที่บ้านแล้ว

      ปรากฏว่าการแถลงข่าวของศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโคโรนา 2019 (ศบค. โควิด-19) ในช่วงต้นพบตัวเลขพุ่งสูงจาก “สนามมวยลุมพินี” จากผู้คนจำนวนมากที่เดินทางเข้าไปชมมวยการแข่งขันชกมวยรายการใหญ่ “ลุมพินีแชมเปี้ยนเกียรติเพชร”

      นำไปสู่กระแสเรียกร้องให้กองทัพบกออกมารับผิดชอบที่ปล่อยให้มีการจัดมวยนัดดังกล่าว จนกลายเป็น “ซูเปอร์สเปรดเดอร์” ที่ขยายวงการติดเชื้อออกไป ทั้งที่มีหนังสือจากหน่วยงานขอความร่วมมือให้งดการจัดกิจกรรม อ้างตามมติคณะรัฐมนตรีในการเฝ้าระวังพื้นที่ที่มีคนไปชุมนุมหรือจัดกิจกรรมจำนวนมาก ขณะที่ นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตสมาชิกวุฒิสภา ทำหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เพื่อให้ตรวจสอบว่าการจัดชกมวยที่สนามมวยเวทีลุมพินีเมื่อวันที่ 6 มี.ค. จนเป็นเหตุทำให้โรคติดเชื้อโควิด-19 แพร่ระบาดหนัก และจงใจฝ่าฝืนข้อสั่งการนายกฯ

      พล.อ.อภิรัชต์ได้สั่งการให้ พล.อ.อยุทธ์ ศรีวิเศษ เจ้ากรมกำลังพลทหารบก ตั้งคณะกรรมการสอบสวนขึ้นมา โดยมีรายงานว่า ผบ.ทบ.ไม่ได้นิ่งใจต่อเรื่องที่มีการร้องเรียนมาทางกองทัพบก เพราะถือเป็นเรื่องทางวินัยทหาร

      แต่ ณ วันนี้ ตัวเลขของผู้ติดเชื้อจากสนามมวยในวงแรกกลายเป็นศูนย์ เหลือเพียงผู้สัมผัสกับผู้ที่ติดเชื้อในวงที่สองและสาม ยังอยู่ระหว่างการรักษาอาการ แต่ก็ยังไม่มีผลการสอบสวนในเรื่องดังกล่าวออกมาอย่างเป็นทางการ

      ไม่ใช่แค่ “กองทัพบก” ที่เจองานเข้าในช่วงเหตุวิกฤติโควิด-19  แต่ในส่วนของสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม มีกำลังพลปรากฏภาพในคลิปภายในสนามบินสุวรรณภูมิ ที่ยอมปล่อยให้ประชาชนที่เดินทางกลับจากต่างประเทศไม่ต้องกักตัว จนตกเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ของสังคมจากการตัดสินใจที่สุ่มเสี่ยงให้เกิด “ซูเปอร์สเปรดเดอร์” สนามบินขึ้นมาอีก

      พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยหลังจากนั้นว่า สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหมได้เรียกตัว พล.ต.โกศล ชูใจ ผู้ทรงคุณวุฒิสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม และกำลังพลที่เกี่ยวข้องซึ่งอยู่ในคลิปสนามบินกลับจากการปฏิบัติหน้าที่ทันที และสั่งตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเป็นการเร่งด่วน โดยเฉพาะหากมีการใช้อำนาจเกินหน้าที่จะดำเนินการลงโทษตามความผิดที่เกี่ยวข้องต่อไป โดยทราบในขั้นต้นว่า พล.ต.โกศลได้รับการร้องขอให้เข้าไปทำความเข้าใจกับผู้โดยสารกลุ่มดังกล่าว อย่างไรก็ตาม กระทรวงกลาโหมจะเร่งดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง

      แต่กระนั้น ก็ยังคำถามคาใจและข้อสงสัยในบทบาทของทหารที่อยู่ในคลิปดังกล่าวว่า การเข้าไปประสานงานที่อ้างคำว่า “นาย” นั้นคือใคร 

      นับจากเหตุการณ์ตั้งแต่ต้นปี “กองทัพ” ตกเป็น "จำเลย” ของสังคมหลายกรณี โดยการตั้งคณะกรรมการสอบฯ ทุกเรื่อง ปรากฏว่ายังไม่มีข้อสรุปที่แน่ชัด และพร้อมปล่อยให้เวลาผ่านไป-กลบข่าวร้อนที่กดดันกองทัพให้ค่อยจางหายไป.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"