ตำรวจย้ำเตือนปีนี้ห้ามจัดงาน-เล่นสงกรานต์ทุกรูปแบบ แค่ตั้งถังน้ำหน้าบ้านเพื่อสาดน้ำก็ถือว่ามีความผิดฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฐานมั่วสุม สบส.สั่ง อสม.เร่งทำความเข้าใจประชาชนงดเดินทางไปเยี่ยมญาติในต่างจังหวัด
    เมื่อวันที่ 9 เมษายนนี้ ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.ปิยะ อุทาโย โฆษ ก.ตร. กล่าวถึงเทศกาลสงกรานปีนี้ว่า หมออยากให้ทุกคนอยู่บ้านเพื่อลดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งขณะนี้กระทรวงวัฒนธรรมได้ประกาศให้งดกิจกรรมหลายอย่าง เช่น การงดเดินทางกลับภูมิลำเนาไปอวยพรหาผู้หลักผู้ใหญ่ อย่าลืมว่าเราอาจจะเป็นคนที่นำเชื้อไปแพร่ ให้การงดกิจกรรมรดน้ำดำหัว งดจำหน่ายสุราที่ขณะนี้ประกาศแล้ว 20-30 จังหวัด เชื่อว่าหลายพื้นโดยเฉพาะถนนคนเดินต่างๆ จะไม่มีการจัดงานสงกรานต์แล้ว ในส่วนของรถสาธารณะก็ไม่มีให้บริการเช่นกัน ดังนั้นการเดินทางไม่ได้สะดวกอย่างที่คิด ตำรวจยังมีการตั้งด่านตามปกติ สิ่งที่ดีที่สุดคือการอยู่บ้าน และจะถือว่าเป็นการลดการเกิดอุบัติเหตุด้วย ซึ่งปัจจุบันเราสามารถทำบุญหรืออวยพรผ่านมือถือได้ 
    พล.ต.ท.ปิยะเปิดเผยด้วยว่า ที่บางคนอ้างว่าไม่ได้เดินทาง แต่พยายามหาทางเลี่ยงที่จะเล่นน้ำสงกรานต์ โดยการนำถังน้ำตั้งสาดน้ำบริเวณหน้าบ้านตัวเอง ตรงนี้ถือว่ามีความผิด เนื่องจากอยู่ในช่วงการประกาศใช้พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน มีข้อบังคับหรือข้อกำหนดหลายอย่าง หนึ่งในนั้นคือการไม่มั่วสุมในสถานที่ใดๆ ที่อาจจะแพร่เชื้อได้ การเล่นน้ำเช่นนี้อาจเป็นการแพร่เชื้อได้ แม้จะไม่ได้อยู่ในช่วงเวลาเคอร์ฟิวก็ตาม  
    ด้าน นพ.ภาณุมาศ ปานเกตุ รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กล่าวว่า เนื่องจากใกล้ช่วงเทศกาลสงกรานต์ ขอให้อาสาสมัครประจำหมู่บ้าน (อสม.) เร่งทำความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่ที่ตนเองรับผิดชอบว่า ขอให้งดการเดินทางไปเยี่ยมญาติตามต่างจังหวัด หรือข้ามตำบล อำเภอ ช่วงเทศกาลสงกรานต์ หากต้องการแสดงความเคารพผู้ใหญ่ ก็ขอให้เน้นการไหว้พระสรงน้ำพระที่ห้องพระ และอาจใช้ประเพณีการกราบไหว้แทนในการขอพรผู้ใหญ่ในครอบครัว เพื่อยังสืบสานวัฒนธรรมไทย แต่ยังคงต้องมีระยะห่างอย่างเหมาะสม 2 เมตร
    ขณะที่ นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เดินทางไปที่วัดโมลีโลกยาราม เพื่อนมัสการพระพุทธโมลีโลกนาถ สอบถามพระและเณรที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ซึ่งพระเทพปริยัติโมลี เจ้าอาวาส กล่าวว่า บางวันพระภิกษุสงฆ์และสามเณรไม่สามารถออกบิณฑบาตได้ ทางวัดจึงต้องจัดตั้งโรงครัวเพื่อประกอบอาหารในการฉันภัตตาหารแทน
    นายเทวัญกล่าวว่า จากการลงพื้นที่วัดต่างๆ เพื่อสอบถามและรับทราบปัญหาและผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 รัฐบาลและสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) จะร่วมกันช่วยเหลือวัดทั่วประเทศไทยด้านอุปกรณ์การป้องกันเชื้อโรค เช่น หน้ากากอนามัย เจลแอลกอฮอล์ล้างมือ โดยจะเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรีให้พิจารณาแนวทางการช่วยเหลือต่อไป
    “ประเทศไทยมีวัดเกือบ 40,000 วัด มีพระกว่า 260,000 รูป จึงได้รับความลำบากกันหมด เนื่องจากไม่มีปัจจัยสนับสนุน จากเดิมที่มีญาติโยมมาทำบุญ อย่างที่วัดโมลีโลกยารามมีพระและเณรกว่า 200 รูปออกบิณฑบาตรไม่ได้ ต้องตั้งโรงอาหารเพื่อทำอาหารให้พระฉันทั้งเช้าและกลางวัน และร่วมกับวัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหารทำโรงทานแจกอาหารให้ประชาชนในละแวกนี้ด้วย โชคดีที่วัดนี้อยู่ติดกับกองทัพเรือ พล.ร.อ.ลือชัย รุดดิษฐ์ ผู้บัญชาการทหารเรือให้การสนับสนุนเรื่องอาหาร” นายเทวัญกล่าว.