ปัตตานี-ยะลา น่าห่วงมาก! ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มไม่หยุด ทั้งมาจากอินโดนีเซียและติดในครอบครัว ไม่ต่างจากภูเก็ต ยอดสะสม 140 รายแล้ว เกาะลันตาเป็นพื้นที่เสี่ยงสูงมาก ผู้ว่าฯกระบี่คุมเข้มการเข้า-ออก ส่วนพัทยาล็อกดาวน์แล้วเริ่ม 9 เม.ย.
    จากกรณีมีกลุ่มคนไทยที่เดินทางไปเข้าร่วมกิจกรรมดาวะห์ที่ประเทศอินโดนีเซีย จำนวน 76 คน ได้เดินทางกลับมาถึงประเทศไทยโดยเที่ยวบินพิเศษเหมาลำของสายการบินไลอ้อนแอร์ บินตรงจากกรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย มาลงที่ท่าอากาศยานนานาชาติอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา โดยจังหวัดยะลามีจำนวนของผู้ที่เดิน 8 ราย ซึ่งทั้งหมดได้เข้ากักกันที่ศูนย์พัฒนาการสาธารณสุขชายแดนภาคใต้
    ล่าสุด เมื่อวันที่ 8 เมษายน มีรายงานจากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดยะลาว่า กลุ่มดาวะห์ทั้ง 8 รายดังกล่าว มีจำนวน 7 ราย ที่ตรวจพบเชื้อไวรัสโควิด-19 เบื้องต้นได้ส่งตัวเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลยะลาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เหลือเพียง 1 รายเท่านั้นที่ยังคงถูกกักตัว อย่างไรก็ตาม ทางจังหวัดยะลาจะมีการชี้แจงรายละเอียดอย่างเป็นทางการอีกครั้ง
    ส่วนสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่ จ.ปัตตานี มียอดผู้ติดเชื้อสะสมจากเดิม 48 ราย ล่าสุดพบผู้ติดเชื้อเพิ่มอีก 7 ราย รวมขณะนี้มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 สะสมแล้ว จำนวน 55 ราย โดย 7 รายที่พบล่าสุดนั้นเป็นคนที่เพิ่งเดินทางกลับจากการร่วมกิจกรรมชุมนุมทางศาสนาที่ประเทศอินโดนีเซีย และได้เดินทางกลับมาถึงประเทศไทยเมื่อวันที่ 6 เม.ย.ที่ผ่านมา
     นายไกรศร วิศิษฎ์วงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี เปิดเผยว่า สำหรับ 7 คนที่พบเชื้อโควิด-19 ที่มาจากการชุมนุมทางศาสนาที่ประเทศอินโดนีเซียนั้น ขอให้ประชาชนมั่นใจได้ว่า เจ้าหน้าที่ได้ระวังป้องกันอย่างเต็มที่ เนื่องจากเราได้วางมาตรการการดูแลที่เข้มข้น หลังจากที่ทั้ง 13 คนเดินทางมาถึงสนามบินนานาหาดใหญ่ก็ได้ทำการคัดกรองเชื้ออย่างละเอียด ก่อนที่ทั้ง 13 คนจะเดินทางเข้ามายัง จ.ปัตตานีก็ได้ให้ทั้ง 13 คนกักตัวเองเพื่อดูอาการอีก 14 วันที่ที่ทำการคณะกรรมการอิสลาม จ.ปัตตานี แต่ปรากฏว่าเมื่อมาถึงสถานที่กักตัวพบ 8 คนมีไข้สูง จึงได้ให้ทั้ง 8 คนแยกตัวเพื่อกักกัน แล้วนำเชื้อไปตรวจสอบ ผลปรากฏว่าพบ 7 คนติดเชื้อโควิด-19 เจ้าหน้าที่จึงได้นำทั้ง 7 คนไปทำการรักษาที่ โรงพยาบาลสนามซึ่งตั้งอยู่ที่ศูนย์ประสานบริหารเขตอุตสาหกรรม ต.บานา อ.เมืองปัตตานี ส่วนอีก 6 นั้นยังคงถูกกักตัวเพื่อรอดูอาการ
    ผวจ.ปัตตานีกล่าวอีกว่า ที่น่าเป็นห่วงอีก 5 คนซึ่งเป็นครอบครัวที่ติดจากพ่อ ซึ่งก่อนหน้านี้แม่ก็ติดเชื้อแล้ว ขณะนี้รอผลตรวจว่าทั้ง 5 คนจะติดเชื้อหรือไม่ ซึ่งทั้ง 5 คนขณะนี้ยังถูกกักตัวอยู่และอยู่ในความดูแลของเจ้าหน้าที่ คาดว่าผลตรวจจะออกมาในวันสองวันนี้ นอกจากนี้ยังได้มีการปิดหมู่บ้านในพื้นที่ อ.ทุ่งยางแดงทันที เพื่อป้องกันไม่ให้มีการแพร่ระบาดของเชื้อออกไปสู่ภายนอกได้
    "วันนี้ขอบอกตามตรงว่าที่ต้องใช้มาตรการเข้ม เพื่อสร้างความรับรู้กับส่วนราชการต่างๆ ว่าฝ่ายปกครองเต็มที่ และเอาจริง ไม่ได้หย่อนยานแต่อย่างใด ดังนั้นการทำงานกับทุกส่วนราชการก็ต้องเอาจริงเอาจังด้วย และอีกอย่างก็เพื่อให้กำนันผู้ใหญ่บ้านได้เป็นข้ออ้างในการตักเตือนและใช้อำนาจที่มีอยู่ในการใช้มาตรการการควบคุมการแพร่ระบาด โดยอ้างถึงคำสั่งผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่อชี้แจ้งต่อผู้นำศาสนาและร้านค้าในหมู่บ้านว่านี้คือคำสั่งผู้ว่าราชการจังหวัด ผมยืนยันว่าจะเอาจริงกับผู้ที่ฝ่าฝืนกฎระเบียบต่างๆ ผมไม่ได้เขียนเสือให้วัวกลัว เพื่อต้องการให้ผู้ใหญ่บ้านตื่นตระหนก แต่ให้เห็นว่าฝ่ายปกครองจริงจังมาตลอดในการแก้ไขปัญหา อยากให้ทุกส่วนราชการเอาจริงเอาจังด้วยเช่นกัน" นายไกรศรกล่าว 
ภูเก็ตยังหนักมาก
    คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดภูเก็ต แจ้งสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) จังหวัดภูเก็ต ข้อมูลตั้งแต่วันที่ 5 มกราคม-7 เมษายน 2563 จังหวัดภูเก็ตมีผู้ป่วยยืนยันโรคโควิด-19 แล้วจำนวน 140 ราย (รายใหม่ 14 ราย) โดยผู้ป่วยรักษาหายกลับบ้าน 42 ราย จำหน่าย 1 ราย ( จำหน่ายด้วยเสียชีวิตจากเหตุการณ์อื่น) กำลังรักษาพยาบาลอยู่ 97 ราย ในจำนวนนี้ อาการรุนแรง 3 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิต ที่เหลืออาการอยู่ในเกณฑ์ที่ดี ทั้งนี้ ผู้ป่วยทั้ง 126 รายนี้รวมอยู่ในรายงานผู้ป่วยติดเชื้อยืนยันที่กระทรวงสาธารณสุขได้แถลงไปก่อนหน้านี้แล้ว    
    ผู้มีอาการเข้าเกณฑ์เฝ้าระวังสะสมทั้งหมด 1,846 ราย (รายใหม่ 90 ราย) โดยยังคงรักษาพยาบาล 183 ราย ในจำนวนนี้อยู่ระหว่างรอผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ 86 ราย กลับบ้านแล้ว 1,663 ราย 
    สำหรับผู้ป่วยยืนยันโรคโควิด-19 ที่พบเพิ่มในวันนี้ 12 จาก 14 ราย เป็นกลุ่มที่พบจากการตรวจหาเชื้อเชิงรุก ซึ่งทางกระทรวงสาธารณสุขได้ดำเนินการเพิ่มเป็นพิเศษในเขตพื้นที่ ต.ป่าตอง อ.กะทู้ เพื่อค้นหาผู้ป่วยกลุ่มผู้ที่มีอาชีพเสี่ยงสูง อยู่ในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูง และผู้สัมผัสของผู้ป่วยยืนยัน     
    พ.ต.ท.ม.ล.กิติบดี ประวิตร ผวจ.กระบี่ เปิดเผยว่า สถานการณ์ในที่เกาะลันตามีความเสี่ยงสูงต่อการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 หลังพบผู้สัมผัสกับผู้ป่วยรายที่ 14 ได้รับเชื้อ อีก 2 คน ทำให้สถิติผู้ติดเชื้อในจังหวัดกระบี่พุ่งทันทีเป็น 16 ราย จึงต้องหารือร่วมกับอำเภอเพื่อดำเนินการเพื่อป้องกันควบคุมโรค ควบคุมพื้นที่ ซึ่งมีประชากรประมาณ 15,000 คน กระจายอยู่ใน 13 หมู่บ้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งพื้นที่ที่เกิดการระบาดคือ ตำบลศาลาด่าน และตำบลเกาะลันตาใหญ่ 
    เบื้องต้นในการป้องกันไม่ให้นักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศเคลื่อนย้าย เช่น กรณีวีซ่าหมดอายุ ได้มีการประสานกับ ตม.ลงไปให้บริการในพื้นที่ ส่วนรถที่จะข้ามไปเกาะลันตา มีการตรวจเข้ม หากมีความจำเป็นในการขนส่งสิ่งของที่จำเป็นจะต้องมีการส่งมอบของกันก่อนจะข้ามไปยังเกาะลันตา
    ผวจ.กระบี่กล่าวอีกว่า เกาะลันตาเป็นพื้นที่เสี่ยงสูงมาก จังหวัดจะพิจารณาดำเนินการสกัดกั้น ยับยั้งการระบาดไม่ให้ขยายพื้นที่ หรือแพร่เชื้อมายังพื้นที่อื่นด้วยมาตรการขั้นสูง พร้อมแผนรองรับปฏิบัติการ หากส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ เนื่องจากมีผู้ป่วยในพื้นที่ถึง 4 ราย โดยรายล่าสุดเป็นแม่ค้าขายเสื้อผ้าที่เกาะลันตาได้หยุดขายและไปอาศัยกับญาติ 2 ราย จึงต้องตรวจญาติที่ใกล้ชิดด้วย นอกจากนั้นผู้ป่วยรายนี้ได้เดินทางไปยังพื้นที่ต่างๆ เช่น พื้นที่พระแอะ และเกาะลันตาใหญ่ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะต้องลงพื้นที่สอบสวนโรคโดยละเอียดเพื่อค้นหาผู้อยู่ในเกณฑ์เสี่ยงเพื่อเข้ารับการรักษาหรือกักตัวต่อไป
    ล่าสุด องค์การบริหารส่วนจังหวัดกระบี่ได้ส่งชุดฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อโควิด (ฉก.โควิด-19) กองป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ลงพื้นที่เกาะลันตาแล้ว เพื่อฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อในพื้นที่เสี่ยง
    ที่ จ.สตูล นายวีรนันทน์ เพ็งจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล แถลงว่า กลุ่มดาวะห์ 26 คน จากประเทศอินโดนีเซีย ที่มีผู้เข้าข่ายอาการจำนวน 20 คน ได้นำเชื้อไปส่งตรวจ ปรากฏผลออกมาพบว่ามีจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ยืนยันจำนวน 15 ราย โดยมีหนึ่งในผู้ติดเชื้อมีอายุ 74 ปี ซึ่งเป็นกลุ่มเสี่ยงที่ต้องดูแลเป็นพิเศษ ส่วนที่เหลือจะมีการนำเชื้อไปตรวจซ้ำอีกครั้ง เพื่อยืนยันจำนวนผู้ป่วยในจังหวัดสตูล อย่างไรก็ตาม ขอให้ประชาชนคลายความกังวล เนื่องจากผู้ป่วยทั้งหมดอยู่ภายใต้การควบคุมที่โรงพยาบาลสนาม มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา วิทยาเขตสตูล อำเภอละงู ซึ่งเป็นสถานที่ปิด ยกเว้นผู้สูงอายุ 74 ปี รักษาตัวที่โรงพยาบาลสตูล 
ล็อกดาวน์พัทยา
    จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในเขตพื้นที่เมืองพัทยา จ.ชลบุรี จนปัจจุบันพบมีผู้ต้องสงสัยและติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องรวมแล้วกว่า 30 ราย ซึ่งสูงเป็นอันดับที่ 1 ของจังหวัดชลบุรี จากปัญหาดังกล่าวจึงมีการนำเสนอและหารือทั้งในส่วนของภาคธุรกิจด้านการท่องเที่ยว ภาคเอกชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งมีผลสรุปว่าหากปล่อยให้มีการเดินทางเข้า-ออกในเขตพื้นที่เมืองพัทยาได้อย่างอิสระแล้ว การควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อโรคอาจไม่มีประสิทธิภาพมากนัก กระทั่งมีมติให้นำเรื่องเสนอต่อผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ในฐานะประธานคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดชลบุรี เพื่อให้ลงนามประกาศคำสั่งปิดพื้นที่เมืองพัทยา หรือล็อกดาวน์อย่างเป็นทางการ 
    ทั้งนี้ เพื่อปิดเส้นทางเข้า-ออก พร้อมการจัดตั้งจุดคัดกรองสำหรับผู้ที่เดินทางเข้ามาในพื้นที่ โดยมีประเด็นสำคัญคือห้ามบุคคลที่ไม่มีที่พักอาศัย หรือบุคคลที่มิได้ประกอบอาชีพในพื้นที่เมืองพัทยาเข้าพื้นที่เด็ดขาด เพื่อป้องกันเชื้อโรคเข้าสู่พื้นที่ชั้นในนั้น ซึ่งนายสนธยา คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา พร้อมด้วยนายอำนาจ เจริญศรี นายอำเภอบางละมุง ได้ประชุมผู้เกี่ยวข้องและสรุปร่วมกันไว้ว่าจะให้มีการปิดพื้นที่เมืองพัทยาตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่ 9 เมษายน 2563 นี้เป็นต้นไปนั้น
    ล่าสุด มีรายงานว่านายภัคธรณ์ เทียนชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ในฐานะประธานคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดชลบุรี เห็นชอบให้ปิดเมืองพัทยาอย่างเป็นทางการตั้งแต่เวลา 14.00 น. ของวันที่ 9 เมษายนนี้เป็นต้นไป รวมระยะเวลา 21 วัน ตามการนำเสนอของเมืองพัทยา โดยกำหนดให้มีการปิดถนนทางเข้า-ออกเมืองพัทยาให้เหลือเพียง 5 จุด พร้อมตั้งจุดตรวจคุมเข้มคนเข้า-ออก ทั้งยานพาหนะและบุคคล หากไม่ได้อยู่อาศัย หรือทำงาน มีเหตุจำเป็นในพัทยาจะไม่ให้เข้า-ออกจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย
    โดยจะปิดเส้นทางเข้าสู่เมืองพัทยาบริเวณสะพานลอยกระทิงราย เพื่อให้กลับรถวิ่งสู่ถนนเลียบทางรถไฟ รวมถึงแยกอัยการ เขต 2 เพื่อให้รถเลี้ยวไปใช้เส้นทางถนนเลียบทางรถไฟเช่นเดียวกัน ขณะที่ประชาชนที่จะเข้าสู่พื้นที่เมืองพัทยาจะต้องผ่านจุดคัดกรองที่กำหนดไว้ประกอบไปด้วย จุดที่ 1 ซอยชัยพรวิถี (บริเวณหน้าร้านตำหลาย), จุดที่ 2 ถนนมอเตอร์เวย์ สาย 7 ตอน 5 (ช่วงหน้าตำรวจทางหลวง), จุดที่ 3 ซอยพรประภานิมิตร (หน้าร้านแม่ลาปลาเผา), จุดที่ 4 ซอยชัยพฤกษ์ (ก่อนถึงแยกทางรถไฟ หน้าร้านกาแฟ) และจุดที่ 5 ถนนสุขุมวิท ก่อนถึงสำนักงานอัยการ (ใต้สะพานลอยหน้าวัดนาจอมเทียน) 
    นอกจากนี้ ยังมีคำสั่งให้บุคคลที่จะออกจากเคหสถานในพื้นที่พัทยาต้องสวมหน้ากากอนามัย รวมถึงการปรับเปลี่ยนคำสั่งการปิดตลาดนัด (ตลาดประเภทสอง) ซึ่งจะมีเงื่อนไขยกเว้นให้ตลาดบางแห่งกลับมาเปิดได้ เพื่อลดความแออัดของตลาดที่ยังเปิดอยู่จนกลายเป็นจุดเสี่ยงในช่วงเคอร์ฟิว 
     นายแพทย์ประเสริฐ กิจสุวรรณรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุข จังหวัดลำปาง เปิดเผยสถานการณ์ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ของจังหวัดลำปาง ล่าสุดตรวจพบผู้ติดเชื้อเพิ่มอีก 1 ราย อายุ 36 ปี (น้องชาย) ซึ่งเป็นคนในครอบครัวของเคสแรกที่พบผู้ติดเชื้อไปแล้วจำนวน 3 ราย ซึ่งอยู่ในระหว่างการกักตัวของทีมแพทย์ 14 วัน ล่าสุดจากการกักตัวเข้าวันที่ 5 ชายคนดังกล่าวมีไข้ ทีมแพทย์จึงนำตรวจร่างกายซ้ำ จึงพบว่าผลตรวจเป็นบวก ซึ่งแม้นว่าก่อนหน้านี้ที่ผ่านมาทีมแพทย์ได้ตรวจร่างกายไปแล้ว แต่ผลการตรวจเป็นลบ เพราะเชื้อยังไม่แสดงอาการ 
    ผู้ใกล้ชิดและบุคคลอื่นในครอบครัวผู้ติดเชื้อที่ยังคงถูกกักตัวไว้รอดูอาการอีก 7 คน ยังไม่พบการติดเชื้อ ส่วนผู้ติดเชื้อไปก่อนหน้านี้ทั้ง 3 ราย อาการดีขึ้นตามลำดับ ส่วนชาวบ้านในพื้นที่บ้านดง ต.หลวงใต้ อ.งาว ยังคงปิดหมู่บ้านห้ามบุคคลเข้า-ออกเพื่อเฝ้าระวังสังเกตอาการเป็นวันที่ 4 ซึ่งชาวบ้านในหมู่บ้าน ณ เวลานี้ยังไม่พบผู้ใดติดเชื้อ.